รอยเตอร์/เอเจนซีส์ - เยอรมนีผจญกับฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันครั้งประวัติศาสตร์ และส่งผลทำให้มีบ้านเรือน 6 หลังที่รัฐไรน์ลันท์-พาลาติเนท (Rhineland-Palatinate) พังลงมา ส่งผลทำให้เกิดผู้คนสูญหายไม่ต่ำกว่า 70 คน และมีอีกจำนวนหนึ่งติดอยู่บนหลังคาบ้านกลางน้ำท่วม และเสียชีวิต 21 คนล่าสุด
รอยเตอร์รายงานวันนี้ (15 ก.ค.) ว่า ในรายงานเบื้องต้นที่ออกมาจากสถานีโทรทัศน์ SWR กล่าวว่า มีจำนวนผู้สูญหาย 70 คน และบ้านเรือนอีกร่วม 25 หลังเสี่ยงที่จะพังลงมาในเขต Schuld bei Adenau ภูมิภาคเนินเขาไอเฟล( Eifel) อ้างอิงจากตำรวจเยอรมนี
มีรายงานล่าสุดว่า ผู้เสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วมในรัฐไรน์ลันท์-พาลาติเนท (Rhineland-Palatinate) และรัฐนอร์ทไรน์-เว็สท์ฟาเลินอยู่ที่ไม่ต่ำกว่า 21 คนล่าสุด โดยที่รัฐนอร์ทไรน์-เว็สท์ฟาเลินทางตะวันตกมียอดผู้เสียชีวิต 13 ราย รวมนักดับเพลิง 2 คนที่จมน้ำระหว่างปฏิบัติการกู้ภัย
ที่เมืองโคโลจ์น (Cologne) และเมืองโซลินเกน (Solingen) มีผู้เสียชีวิต 3 คนในเหตุการณ์ที่ต่างกัน และที่เมืองเลเวอร์คูเซน (Leverkusen) โรงพยาบาลแห่งหนึ่งที่มีผู้ป่วย 468 คนต้องทำการอพยพในช่วงข้ามคืนหลังเกิดกระแสไฟฟ้าดับเกิดขึ้นหลังแม่น้ำเกิดล้นตลิ่ง
ทั้งนี้ RTE รายงานก่อนหน้าว่า วิกฤตน้ำท่วมฉับพลันครั้งประวัติศาสตร์ในเยอรมนีล่าสุดมีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 4 คน
โดยรายงานการเสียชีวิตเกิดขึ้นที่เขตอาห์ร์วีลเลอร์ (Ahrweiler) ซึ่งเป็นภูมิภาคการทำไวน์ชื่อดัง หลังแม่น้ำอาห์ร์ (Ahr) ไหลเข้าไปในแม่น้ำไรน์ (Rhine)
ตำรวจเยอรมนีชี้ว่า มีประชาชนที่ติดกลางน้ำท่วมรอคอยการช่วยเหลือให้ออกมาจากหลังคาบ้านของตนเอง และมีการส่งกำลังเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและเจ้าหน้าที่กู้ภัยออกไปทำงานช่วยเหลือ
RTE ชี้ว่า มีเจ้าหน้าที่ดับเพลิง 2 นายเกิดจมน้ำ และกองทัพเยอรมนีที่ถูกส่งออกไปช่วยคนที่ติดน้ำท่วมออกมาอยู่ในที่ปลอดภัยเมื่อวานนี้ (14)
การเดินทางสัญจรทางราง ทางบก เกิดติดขัด และการขนส่งสินค้าไปตามแม่น้ำไรน์ต้องหยุดชะงักชั่วคราว
รอยเตอร์รายงานว่า สำนักงานบริการสภาพอากาศเยอรมนีออกคำเตือนสภาพอากาศรุนแรงในวันพุธ (15) ครอบคลุม 3 รัฐทางตะวันตก ขณะที่เมืองฮาเกน (Hagen) ตั้งอยู่ในรัฐนอร์ทไรน์-เว็สท์ฟาเลิน (North Rhine-Westphalia) ต้องประกาศใช้ภาวะฉุกเฉินหลังจากมวลน้ำมหาศาลไหลทะลักลงแม่น้ำ เมืองแห่งนี้มีประชากรอาศัย 180,000 คน ถือเป็นเมืองใหญ่ลำดับที่ 41 ของประเทศ
ทั้งนี้ พบว่างบางส่วนของเมืองฮาเกนถูกตัดขาดด้วยระดับน้ำสูงและไม่สามารถเข้าไปได้ และได้มีการส่งกองกำลังทหารเข้าไปเคลียร์บางส่วนของเมือง และประชาชนถูกสั่งอยู่ให้ห่างจากเขตของเมืองเอกของภูมิภาค ดุสเซลดอร์ฟ (Düsseldorf)
บ้านพักคนชราแห่งหนึ่งถูกสั่งอพยพขณะที่ทั่วทั้งภูมิภาคเจ้าหน้าที่ดับเพลิงต่างวุ่นอยู่กับการสูบน้ำออกมาจากห้องเก็บไวน์ใต้ดิน และที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งพบว่าน้ำท่วมทำให้ลิฟต์ 1 ตัวใช้การไม่ได้
เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเยอรมนี 1 รายเสียชีวิตหลังจากพลัดล้มคว่ำลงในกระแสน้ำท่วมที่เชี่ยวกรากและถูกพัดพาหายไป และมีชายอีก 2 คนอายุ 53 ปี และ 81 ปีตามลำดับสูญหายในภูมิภาค
