เอพี - ท่ามกลางพิธีฉลองวันชาติฝรั่งเศสที่ถูกจัดขึ้นวันพุธ (14 ก.ค.) อย่างยิ่งใหญ่ที่มีกองทหารจำนวนหลายพันเดินสวนสนามที่ถนนอาฟว์นูว์เดช็องเซลีเซ เครื่องบินรบบินพ่นควันสีสันเหนือศีรษะ แต่โชคไม่ดีบังเอิญเกิดเหตุเล็กน้อยพบม้า 2 ตัวที่ร่วมขบวนเกิดสะดุดและเหวี่ยงคนขี่ และมีนายทหาร 1 นายถือโอกาสขอแฟนสาวแต่งงานข้างถนน บรรยากาศทั่วไปโดยรวมเป็นไปตามแผน ท่ามกลางวิกฤตโรคโควิด-19 ระบาด
เอพีรายงานวันนี้ (14 ก.ค.) ว่า ขณะที่ความวิตกต่อไวรัสโคโรนายังคงอบอวลไปทั่วฝรั่งเศส แต่ทว่ารัฐบาลปารีสยังคงตัดสินใจเดินหน้าพิธีฉลองวันชาติที่รียกว่าวันบาสตีลล์เดย์ ซึ่งตรงกันกับวันพุธ (14) ในปีนี้ ด้วยการอนุญาตให้มีพิธีสวนสนามซึ่งเป็นความพยายามที่ต้องการให้ฝรั่งเศสเริ่มกลับไปใช้ชีวิตก่อนการระบาดโรคโควิด-19
กองทหารจำนวนหลายพันนายมาร์ชผ่านถนนอาฟว์นูว์เดช็องเซลีเซ เครื่องบินรบบินพ่นควันสีสันเหนือศีรษะ แต่โชคไม่ดีบังเอิญเกิดเหตุเล็กน้อยพบม้า 2 ตัวที่ร่วมขบวนเกิดสะดุดและเหวี่ยงคนขี่ซึ่งสวมเครื่องแบบ นอกจากนี้ยังพบว่ามีทหารหนุ่มชาวฝรั่งเศสอีกนายชื่อ มาซิมิเลียน (Maximilien)ได้ถือโอกาสขอแฟนสาวแต่งงานที่บริเวณข้างทาง สถานการณ์โดยรวมอยู่ในความปกติและเป็นไปตามแผน
เอพีรายงานว่า มีการอนุญาตจำนวนผู้เข้าร่วมชมพิธีฉลองวันชาติในจำนวนจำกัด โดยจะให้อยู่รวมตัวกันที่โซนเล็กๆ ของช่วงหนึ่งของการเดินพาเหรดเท่านั้น ซึ่งแต่ละคนที่จะได้รับอนุญาตเข้าชมต้องแสดงบัตรผ่านที่ระบุว่าคนเหล่านี้ได้รับวัคซีนโควิด-19 แล้ว หรือว่าเพิ่งฟื้นจากโรคไวรัสโคโรนา หรือมีผลการตรวจเชื้อเป็นลบ
มาตรการคล้ายกันนี้จะถูกใช้สำหรับเข้าชมการจุดพลุดอกไม้ไฟในช่วงค่ำวันพุธ (14) ที่หอไอเฟิล กรุงปารีส
ประชาชนชาวฝรั่งเศสถึงแม้ต้องหงุดหงิดกับมาตรการที่เคร่งครัดและแถวต่อยาวสำหรับการตรวจมาตรการรักษาความปลอดภัยทางไวรัสแต่รู้สึกยินดีที่ได้เข้าชมพิธีด้วยตัวเอง
ขณะเดียวกัน ในพิธีประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานุแอล มาครง ปรากฏตัวร่วมอยู่ท่ามกลางพิธีสวนสนาม โดยเขาได้รับการอารักขาจากทหารม้าองครักษ์ท่ามกลางเพลงปลุกใจเปิดดัง ผู้คนที่อยู่สองข้างทางของถนนอาฟว์นูว์เดช็องเซลีเซส่งเสียงเชียร์ให้กำลังใจผู้นำฝรั่งเศสอย่างคึกคักระหว่างที่มาครงเดินผ่านร้านค้าแบรนด์หรู ภัตตาคารชื่อดัง และโรงละครต่างๆ ที่ปิดตัวเป็นส่วนใหญ่ในช่วงเวลาปีครึ่งที่ผ่านมา
แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกคนในฝรั่งเศสที่จะชื่นชอบในมาตรการโควิด-19 ของมาครงเนื่องมาจากที่เขาออกคำสั่งให้เจ้าหน้าที่การแพทย์ทุกคนในฝรั่งเศสต้องฉีดวัคซีนโควิด-19 และทุกคนในฝรั่งเศสที่มีอายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไปต้องแสดงบัตรผ่านได้รับวัคซีนโควิด-19 แล้วก่อนเข้ารับบริการที่ภัตตาคารและร้านอาหาร สร้างความไม่พอใจให้กลุ่มผู้ปกครอง เจ้าของภัตตาคาร และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล ส่วนหมอและนักวิทยาศาสตร์จำนวนมากต้องการให้มาครงใช้มาตรการโควิด-19 เข้มงวดมากกว่านี้
ผู้จัดงานพิธีสวนสนามปีนี้เรียกว่า วันบาสตีลล์เดย์ แง่ดีที่เล็งไปถึงการชนะในอนาคตเพื่อเฉลิมฉลองที่ฝรั่งเศสยืนหยัดเคียงข้างกันในยามเกิดวิกฤตโรคระบาด
ผู้นำการเดินขบวนสวนสนามคือกองกำลังต่อสู้ก่อการร้ายยุโรปที่ฝรั่งเศสเป็นผู้นำในมาลีและทั่วภูมิภาคซาเฮล (Sahel) อย่างไรก็ตาม มาครงในสัปดาห์ที่ผ่านมาประกาศถอนกำลังร่วม 2,000 นาย ออกมาจากภูมิภาค
และนอกเหนือจากกองกำลังทหารหน่วยอื่นๆที่เดินมาร์ช พบว่า มีหน่วยการแพทย์ของกองทัพฝรั่งเศสรวมอยู่ด้วย ซึ่งหน่วยนี้มีความสำคัญในการต่อสู้กับโรคโควิด-19 ด้วยการจัดส่งวัคซีนโควิด-19 ไปยังดินแดนอาณานิคมต่างๆ ของฝรั่งเศส ให้การรักษาพยาบาลคนป่วย เป็นต้น
และเหนือท้องฟ้าวันบาสตีลล์เดย์พบว่าเครื่องบินรบขับไล่มิราจและเครื่องบินรบขับไล่ดาโซราฟาลได้ขับผ่านพร้อมกับพ่นควันสีสันที่สวยงามออกมา
มาครง และสุภาพสตรีหมายเลข 1 ของฝรั่งเศส บริจิต มาครง ได้ใช้เวลาในการสนทนากับครอบครัวของนายทหารฝรั่งเศสที่ได้สละชีพในหน้าที่ ซึ่งก่อนหน้าที่พิธีการฉลองวันชาติจะเปิดฉากขึ้น ผู้นำฝรั่งเศสได้ออกมาผลักดันอีกครั้งถึงความจำเป็นความร่วมมือทางความมั่นคงเพิ่มขึ้นระหว่างชาติสมาชิกยุโรป และความพยายามที่มากขึ้นทางด้านความมั่นคงระดับโลกต่อการก่อการร้ายจากกลุ่มอิสลามิสต์
“ช่วงเวลานี้ของมิตรภาพ การกลับมาอยู่ร่วมกัน เป็นสิ่งแรกและสำคัญที่สุดของพวกเราในโอกาสที่จะได้บอกกับพี่ชายน้องชายในกองทัพของพวกเราและครอบครัวของพวกเขา และกล่าวแสดงความยินดี” มาครง กล่าว
