ฝนที่ตกหนักหลายวันทำให้เกิดน้ำท่วมและดินโคลนถล่มทับบ้านเรือนประชาชนในเมืองตากอากาศชื่อดังที่จังหวัดซิซุโอกะของญี่ปุ่นวันนี้ (3 ก.ค.) โดยเบื้องต้นมีรายงานผู้สูญหายไม่ต่ำกว่า 19 คน
ภาพจากสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นเผยให้เห็นกระแสดินโคลนเชี่ยวกรากไหลหลากมาตามท้องถนน และซัดเข้าใส่บ้านเรือนในเมืองอาตามิ (Atami) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงโตเกียว ขณะที่ผู้คนต่างพากันวิ่งหนีเอาชีวิตรอด
เจ้าหน้าที่ในเมืองอาตามิให้ข้อมูลว่า เหตุดินถล่มเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น และทำให้บ้านเรือนหลายหลังถูกดินโคลนซัดหายไปต่อหน้าต่อตา
“ผมได้ยินเสียงดังน่ากลัวและมีดินโคลนไหลลงมา ระหว่างที่หน่วยกู้ภัยสั่งให้คนรีบอพยพหนี ผมก็เลยรีบวิ่งขึ้นที่สูง” ผู้นำวัดแห่งหนึ่งในพื้นที่ประสบภัยให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ NHK
“เมื่อผมกลับมาดู ทั้งบ้านและรถยนต์ที่เคยอยู่หน้าวัดหายเกลี้ยงไปหมดเลย”
เจ้าหน้าที่จัดการภัยพิบัติประจำจังหวัดชิซุโอกะยืนยันกับเอเอฟพีว่า ชาวบ้านอย่างน้อย 19 คนยังสูญหายไม่ทราบชะตากรรมหลังเกิดดินถล่ม และฝ่ายบริหารส่วนท้องถิ่นได้ร้องขอความช่วยเหลือไปยังกองกำลังป้องกันตนเองแล้ว
NHK รายงานว่า เมืองอาตามิมีปริมาณฝนตกถึง 313 มิลลิเมตรในช่วง 48 ชั่วโมงจนกระทั่งถึงวันนี้ (3) สูงกว่าค่าเฉลี่ยของฝนตลอดทั้งเดือน ก.ค. ซึ่งจะอยู่ที่ราวๆ 242.5 มิลลิเมตร
ด้านบริษัท โตเกียว อิเล็กทริก เพาเวอร์ โค (TEPCO) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการจ่ายไฟฟ้าในภูมิภาคดังกล่าว ระบุว่า มีบ้านเรือนกว่า 2,800 หลังเผชิญปัญหาไฟฟ้าดับ
นายกรัฐมนตรี โยชิฮิเดะ ซูงะ เตรียมเรียกประชุมคณะรัฐมนตรีเป็นการด่วนบ่ายวันนี้ (3) เพื่อหารือมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัย และประเมินความเสียหายจากฝนตกและภัยพิบัติดินถล่มครั้งนี้
หลายภูมิภาคของญี่ปุ่นอยู่ในช่วงฤดูมรสุมซึ่งจะกินเวลานานหลายสัปดาห์ และมักเกิดน้ำท่วมฉับพลัน หรือดินถล่มอยู่เป็นประจำทุกปี ทำให้หน่วยงานท้องถิ่นต้องสั่งอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยง
ที่มา : เอเอฟพี