เลคทริซ สาวเซี่ยงไฮ้ วัย 28 กะรัต เติบโตขึ้นมาในวิถีของคนเจนเนอเรชั่น-แซด (Gen-Z) ทั้งกินไก่ทอดเคเอฟซี ทั้งดูดรามาทีวีวัยรุ่นอเมริกันชุด “Gossip Girl” ตั้งแต่เรียนมัธยมปลาย และรองเท้าคู่โปรดของเธอคือ ไนกี้ แอร์ จอร์แดนส์ ยิ่งกว่านั้น สาวเซี่ยงไฮ้หัวใจเจน-แซดคนนี้สนับสนุนขบวนการต่อสู้เรียกร้องสิทธิสตรี #MeToo
กระนั้นก็ตาม ผู้หญิงเจน-แซดอย่างเธอยังเป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีนระดับแฟนพันธุ์แท้อีกด้วย
“คนเค้าชอบทึกทักกันว่า คำขวัญต่างๆ ของพรรคอ่ะกลวง ไม่มีใครเอามาทำเอามาปฏิบัติกันหรอก เพราะมันฟังแล้ว ‘อลังการ’ เกินไป แต่ว่าถ้าคุณวางจิตวิญญาณกบฏที่คนหนุ่มสาวปกติจะมีกันนะคะ จริงๆ แล้วคำขวัญพวกนี้ชี้นำได้ดีแก่การบ่มเพาะตัวเองค่ะ” เลคทริซพูดกับรอยเตอร์ทางโทรศัพท์จากเมืองเซี่ยงไฮ้
พรรคคอมมิวนิสต์จีนคุมเข้มประชาชนอยู่หมัด
พรรคคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งเฉลิมฉลองวาระครบรอบการก่อตั้ง 100 ปี ในวันพฤหัสบดี (1 ก.ค.) นี้ อยู่ในช่วงที่เรืองอำนาจสุดสุดภายใต้การนำของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง นักวิเคราะห์หลายคนเห็นพ้องต้องกันอย่างนี้ ในเมื่อจีนยุคหลังโควิดมีเศรษฐกิจที่เติบโตพุ่งทะยาน ขณะที่ภาพลักษณ์ความสำเร็จในทางระหว่างประเทศก็ฟูฟ่ามหาศาล
มีคนจีนบางส่วนเมื่อพูดคุยกันเป็นการส่วนตัว จะบอกว่าคำขวัญของพรรคซึ่งเคร่งเครียดจริงจัง เป็นอะไรที่ผิดยุค และการโฟกัสให้ยึดเป้าหมายส่วนรวมเหนือเป้าหมายส่วนตัวก็ไม่เข้ากับยุคสมัยนี้ที่เป็นสังคมแบบปัจเจกบุคคลตัวใครตัวมันมากขึ้นทุกขณะ
กระนั้นก็ตาม สมาชิกพรรครุ่นหนุ่มสาวจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ยอมรอมชอมความขัดแย้งเหล่านี้เข้าด้วยกันภายใต้ความรู้สึกชาตินิยมที่ภาคภูมิใจในความสำเร็จต่างๆ ของประเทศ ตลอดจนภายใต้โอกาสและลู่ทางดีๆ ทั้งปวงซึ่งได้จากการเป็นสมาชิกพรรค สมาชิกพรรคหลากหลายรายและพวกนักวิเคราะห์การเมืองให้ความเห็นเช่นนี้
“ดิฉันเข้าเป็นสมาชิกพรรค เพราะต้องการมีเวทีที่จะใช้ผลักดันความคิดอุดมการณ์ที่ดีงามทางสังคมร่วมกับเพื่อนๆ” เลคทริซ กล่าวอย่างนั้น เธอเป็นนักศึกษาปริญญาเอกสาขาปรัชญา ซึ่งช่วงสองสามปีที่ผ่านมาเคยเป็นอาสาสมัครทำงานด้านที่ปรึกษาให้แก่ผู้หญิงที่เดือดร้อนจากการถูกล่วงละเมิดจากคนในครอบครัว และเขียนบทความสนับสนุนขบวนการ #MeToo ที่ยังเป็นเรื่องใหม่มากภายในประเทศจีน
ระยะไม่กี่ปีมานี้ ทางการจีนได้เซนเซอร์ และบางคราวก็จับกุมคุมขังผู้หญิงที่ออกมารณรงค์เรียกร้องสิทธิสตรี สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นภาพโดยรวมว่าปักกิ่งไม่ความอดทนอดกลั้นต่อการเคลื่อนไหวเรียกร้องทางสังคม
กระนั้นก็ตาม เลคทริซ บอกว่านักเคลื่อนไหวสิทธิสตรีพวกนั้น “สุดโต่งเกินไป” และแอบซุกวาระต่อต้านพรรคเอาไว้ชนิดที่เกินเลยไปจากเรื่องสิทธิสตรี
ในการผลิตรายงานชิ้นนี้ รอยเตอร์ได้พูดคุยกับสมาชิกพรรครุ่นหนุ่มสาวจำนวน 10 คน แทบจะทุกคนไม่ต้องการให้นำถ้อยคำความคิดเห็นของพวกเขาไปเขียนโดยระบุชื่อ-นามสกุลของผู้พูด ส่วนรายที่ยินยอมให้อ้างอิง ก็ปฏิเสธไม่ให้ใส่ชื่อเสียงเรียงนามครบถ้วน เนื่องจากว่าการพูดคุยกับสื่อมวลชนต่างประเทศอย่างรอยเตอร์นั้น ต้องได้รับอนุญาตจากทางพรรคเสียก่อน
ตามวิสัยทัศน์ของสี จิ้นผิง ประเทศจีนจะมีความแข็งแกร่งได้ ต้องมีพรรคที่คอยแสดงบทบาทอยู่ในสังคมอย่างหนักแน่นมั่นคงเป็นศูนย์กลาง นี่เป็นการโต้กลับหักความคาดหวังของฝ่ายตะวันตกเมื่อช่วงต้นทศวรรษ 2000 ที่ว่า สังคมจีนที่มีชนชั้นกลางจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ จะทำให้การกุมอำนาจของพรรคหย่อนคลายลง
ตามตัวเลขที่ฝ่ายจัดองค์กรของพรรคคอมมิวนิสต์เผยแพร่เมื่อวันพุธ (30 มิ.ย.) ในปี 2020 สมาชิกพรรคได้ขยายเพิ่มจำนวนขึ้นมา 2.43 ล้านคนซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุดใหม่ โดยที่ประมาณ 80% ของสมาชิกพรรคหน้าใหม่เหล่านี้ เป็นผู้ที่อายุ 35 ปีหรือต่ำกว่านั้น อันเป็นลักษณะปกติมายาวนานแล้ว สำหรับการขยายพรรคในปีนี้ทำท่าจะทะยานด้วยอัตรารวดเร็วขึ้นไปอีก โดยในช่วงระยะ 6 เดือนแรกของปี มีผู้เข้าร่วมพรรค 2.31 ล้านคน ทำให้จำนวนสมาชิกพรรคทั้งหมดอยู่ที่ 95.15 ล้านคน ในจำนวนนี้ 12.55 ล้านคนเป็นกลุ่มคนอายุตั้งแต่ 30 ปีลงมา การเข้าร่วมพรรคได้นั้นต้องผ่านกระบวนการคัดเลือกหลายขั้นตอน ซึ่งธรรมดาแล้วจะกินเวลาราว 2-3 ปี
ฝ่ายจัดองค์กร ซึ่งทำหน้าที่ดูแลรับผิดชอบกิจการสมาชิก และสำนักงานสารนิเทศของคณะรัฐมนตรีจีน ไม่ได้ตอบกลับมาเมื่อรอยเตอร์ขอให้แสดงความคิดเห็นในเรื่องวิธีการดึงดูดคนหนุ่มสาวให้เข้ามาเป็นสมาชิกพรรค
โฆษณาชวนเชื่อ ขายด้านบวกแบบจัดหนัก พร้อมย้ำ ‘โอกาส’ เมื่อเป็นสมาชิกพรรค
การก้าวผงาดขึ้นครองอำนาจของสีจิ้นผิง เป็นการปิดฉากทศวรรษที่มีการอภิปรายถกเถียงทางการเมืองภายในสังคมจีนอย่างค่อนข้างเปิดกว้าง อันเป็นห้วงที่พรรคมีบทบาทเป็นศูนย์กลางของชีวิตในประเทศจีนลดน้อยลง
ขณะที่ช่องทางสำหรับการแสดงความเห็นแตกต่างจากทางการ ได้หดแคบลงอย่างมากมายในยุคที่ สีจิ้นผิงครองเมือง จีนรณรงค์หนักมากในอันที่จะเพิ่มการให้การศึกษาและการโฆษณาชวนเชื่อในแนวทางโปรพรรคมากยิ่งขึ้น ซึ่งก็เป็นการเลี้ยงดูอุ้มชูลัทธิชาตินิยมที่กำลังเติบใหญ่ไปในตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่ผู้คนอายุ 20 ปีเศษๆ ผู้คนในวัยนี้จึงมักที่จะรู้จักมักคุ้นและมีประสบการณ์แต่กับประเทศจีนที่มั่งคั่งร่ำรวยและมั่นอกมั่นใจในตนเองเท่านั้น นักวิเคราะห์ทางการเมืองชาวจีน 4 คนให้ความเห็นอย่างนั้น
“คนหนุ่มสาวเหล่านี้เคยเจอแต่การโฆษณาชวนเชื่อแง่บวก ว่าประเทศจีนนั้นยิ่งใหญ่เพียงใด” นี่เป็นความเห็นของ จาง หมิง อดีตอาจารย์ด้านการเมืองในมหาวิทยาลัยเหรินหมิน ในกรุงปักกิ่ง เวลานี้อาจารย์จางเกษียณอายุแล้ว แต่โพสต์ทางสื่อสังคมของอาจารย์มักถูกเจ้าหน้าที่เซนเซอร์และตามลบอยู่บ่อยครั้ง
พร้อมๆ กับที่พรรคกลับมามีความสำคัญขึ้นใหม่ภายใต้สีจิ้นผิง มันยังเป็นการเพิ่มความรับรู้เข้าใจที่ว่า การเป็นสมาชิกพรรคมีความสำคัญสำหรับความก้าวหน้าทางอาชีพการงานและความก้าวหน้าส่วนบุคคล พวกสมาชิกพรรคและผู้เชี่ยวชาญที่รอยเตอร์สัมภาษณ์ระบุอย่างนี้
สมาชิกพรรคที่เป็นคนรุ่นหนุ่มสาวจำนวนมากคุยกับรอยเตอร์แบบเป็นการส่วนตัวว่า เข้าร่วมพรรค ก็เพื่อที่จะหางานทำได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในเมืองใหญ่ๆ อย่างปักกิ่ง ซึ่งตำแหน่งงานราชการมีความมั่นคง รวมทั้งยังช่วยให้ขอสถานะการเป็นผู้มีถิ่นที่อยู่ในเมืองใหญ่ ๆ เหล่านี้ได้ง่ายขึ้น สถานะเช่นนี้หมายถึงการได้รับจัดสรรสวัสดิการและได้รับบริการต่างๆ จากภาครัฐนั่นเอง
“เพื่อนผมเยอะเลยเข้าพรรค เพราะจะได้เปรียบในเวลาสมัครงาน” กล่าวโดย รอย หนุ่มจีนวัย 29 ปี ซึ่งเป็นนักศึกษาระดับปริญญาเอกอยู่ในอังกฤษ ตัวเขาเองเข้าพรรคเมื่อ 10 ปีที่แล้วเพราะเขามีจุดมุ่งหมายที่จะรับใช้ผู้ด้อยสิทธิด้อยเสียงในสังคม
“ชีวิตเฟื่องฟูและมีคนเห็นคุณค่า”
วิเวียน สาว 30 กะรัต ประชากรเจน-แซดอีกรายหนึ่งที่มีสถานภาพสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีน เล่าว่าเมื่อตอนที่เธอเตรียมตัวเพื่อเข้าเป็นสมาชิกพรรคนั้น เธอเรียนอยู่ชั้นมัธยมปลาย คุณพ่อบอกเธอว่า ท่านคาดหวังว่าลูกคนเดียวของท่านจะยินดีสละชีวิตตนเอง ถ้าหากพรรคเรียกร้องต้องการ ปรากฏว่าคำกล่าวของพ่อทำให้เธอชะงักกันเลยทีเดียว
“แล้วดิฉันก็คิดได้ว่า ตนเองจะมีโอกาสดีๆ ในชีวิตมากกว่าคุณย่าได้ยังไง คุณย่าน่ะไม่รู้หนังสือ ต้องเร่ขายขนมแป้งทอดอยู่ริมถนน และตัวฉันจะต้องก้าวหน้าขึ้นไปยังไงเพื่อให้ลูกๆ มีชีวิตที่ดียิ่งกว่าตัวฉันขึ้นไปอีก” เธอพูดเรื่องนี้ระหว่างให้สัมภาษณ์รอยเตอร์ในร้านสตาร์บัคส์แห่งหนึ่งในปักกิ่ง
วิเวียนได้เป็นสมาชิกพรรคเมื่อตอนที่เรียนจบมัธยมปลาย ปัจจุบันนี้สอนวิชาลัทธิมาร์กซิสต์อยู่ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในภาคใต้ของจีน
“มีแต่นักเรียนนักศึกษาที่ได้เกรดยอดเยี่ยมเท่านั้นถึงจะได้เข้าพรรค ดังนั้นฉันจึงมองเรื่องนี้ว่าเป็นความเจริญเฟื่องฟูและสถานภาพอันทรงคุณค่า” วิเวียน สาวเจน-แซดเปิดใจตรงๆ กับรอยเตอร์อย่างนั้น
โดย รัศมี มีเรื่องเล่า
(ที่มา: รอยเตอร์ ไชน่า เดลี ซีเอ็นบีซี สแตติสต้าดอทคอม)