ผู้โดยสารรายหนึ่งมีสิทธิ์ติดคุกสูงสุด 20 ปี หลังพยายามบุกเข้าไปในห้องควบคุมของเครื่องบินเมื่อสัปดาห์ที่แล้วในสภาพที่ยังอยู่ภายใต้อิทธิพลของยาเสพติด ก่อนกระโดดลงจากเครื่องบินที่กำลังเคลื่อนสู่รันเวย์เพื่อทำการเทกออฟในลอสแองเจลิส สหรัฐฯ จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่เมื่อวันจันทร์ (28 มิ.ย.)
สำนักงานอัยการสหรัฐฯ ในลอสแองเจลิสเปิดเผยว่า หลุยส์ อันโตนิโอ วิคตอเรีย โดมิงเกซ จากเมืองลาปาซ ประเทศเม็กซิโก ถึงขั้นขาหักเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (25 มิ.ย.) หลังก่อเหตุเปิดประตูฉุกเฉินของเครื่องบินโดยสารและกระโดดลงสู่ลานสนามบินของท่าอากาศยานนานาชาติลอสแองเจลิส
เขาเข้ารับการผ่าตัดและคาดหมายว่าจะถูกพาตัวขึ้นศาลรัฐบาลกลางในสัปดาห์นี้ ตามข้อกล่าวหารบกวนการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งอาจมีโทษสูงสุดคือจำคุก 20 ปี หากถูกพบว่ามีความผิดจริง
ชายวัย 33 ปีรายนี้เดินทางจากเมืองคาโบซานลูคัสของเม็กซิโก มาถึงลอสแองเจลิสในวันอังคาร (22 มิ.ย.) และมีแผนมุ่งหน้าสู่เมืองซอลต์เลกซิตี เมืองเอก รัฐยูทาห์ แต่ด้วยที่เขาไม่ได้จองตั๋วสำหรับต่อเครื่อง เขาจึงตัดสินใจค้างคืนที่โรงแรมแห่งหนึ่งในย่านใจกลางเมืองลอสแองเจลิส และเขาให้การต่อเอฟบีไอว่าในคืนดังกล่าวเขาดื่มเบียร์ไปหลายขวดและใช้เงิน 20 ดอลลาร์ซื้อยาไอซ์มาเสพ
ในวันต่อมาเขาเสพยาไอซ์ต่อและเปลี่ยนใจจากที่จะขึ้นรถบัสไปยูทาห์เป็นนั่งเครื่องบินแทน และด้วยที่เขาเสพยาก่อนมุ่งหน้าสู่สนามบินในวันพฤหัสบดี (24 มิ.ย.) ท้ายที่สุดเขาก็พลาดเที่ยวบิน ทำให้ต้องเตร็ดเตร่อยู่บนท้องถนนตลอดคืน
จากนั้นในวันศุกร์ (25 มิ.ย.) เขาพลาดเที่ยวบินเป็นครั้งที่ 2 แต่คราวนี้ขอเปลี่ยนเที่ยวบินไปเเป็นเที่ยวบิน 5365 ของสายการบินยูไนเต็ด แอร์ไลน์ส ซึ่งปฏิบัติการโดยสายการบินสกายเวสต์ แอร์ไลน์ส เพื่อมุ่งหน้าไปยังซอลต์เลกซิตี
ดูเหมือนโดมิงเกซยังคงมีอาการค้างจากยาเสพติดที่เขาเสพในคืนก่อนๆ ผู้โดยสารที่นั่งติดกับเขาให้ปากคำต่อเจ้าหน้าที่ว่าเขามีอาการหลุกหลิกเหลียวซ้ายแลขวาอยู่ตลอดเวลา เขาถามผู้โดยสารหญิงรายนี้ว่าเธอจะไปไหน แต่เธอตอบกลับว่าไม่ใช่ธุระอะไรของเขา และจากนั้นเขาก็กระซิบบอกกับเธอว่าเขาต้องการลงจากเครื่องและจะกระโดดลงจากเครื่องบิน “ผมพูดจริงนะ” เขาบอกกับผู้โดยสารหญิง
อย่างไรก็ตาม โดมิงเกซแก้ต่างกับเอฟบีไอว่าเขาได้ยินผู้โดยสารคนอื่นๆ หัวเราะและบอกว่าเครื่องบินกำลังมุ่งหน้าสู่จุดหมายปลายทางคนละที่ เขาจึงเกิดความตื่นตระหนกและวิ่งไปหาพนักงานต้อนรับบนเที่ยวบินรายหนึ่ง ซึ่งอยู่บริเวณด้านหน้าเครื่องบิน แจ้งว่าเขารู้สึกไม่ค่อยสบายและต้องการลงจากเครื่อง
พนักงานต้อนรับบนเครื่องตอบกลับว่าเครื่องบินกำลังเทกออฟ และจากนั้นทั้งสองฝ่ายก็เริ่มกระทบกระทั่งกัน ผู้โดยสารเจ้าปัญหาทุบตัวล็อกประตูห้องนักบิน และพยายามเปิดประตู ในขณะที่พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินภาวนาในใจขออย่าให้นักบิน ซึ่งอาจสับสนจากเสียงทุบปึงปัง เปิดประตูออกมาเลย
สุดท้ายแล้ว โดมิงเกซก็หันไปเปิดประตูฉุกเฉิน ทำให้แพยางทางลาดฉุกเฉินทำงาน เดือดร้อนพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินต้องแจ้งให้นักบินจอดเครื่องบินเป็นการด่วน อย่างไรก็ตาม เครื่องบินเริ่มเคลื่อนที่อีกครั้งตอนที่โดมิงเกซต่อสู้กับผู้โดยสารอีกคนที่พยายามควบคุมตัวเขา
โดมิงเกซสะบัดหลุดจากผู้โดยสารรายดังกล่าวและกระโดดลงจากเครื่องบิน แต่ด้วยที่พลาดทางลาดฉุกเฉินและหล่นกระแทกลานบิน ทำให้ขาขวาหัก แต่ยังคงไม่สิ้นฤทธิ์ เขาพยายามตะเกียกตะกายคลานหนีออกจากตัวเครื่องบิน ทว่าสุดท้ายก็ไม่พ้นถูกจับกุม
(ที่มา : เอบีซีนิวส์)
