อิบราฮิม ไรซี ว่าที่ผู้นำอิหร่านคนใหม่ ประกาศสนับสนุนการเจรจากับ 6 ชาติมหาอำนาจเพื่อฟื้นฟูข้อตกลงควบคุมนิวเคลียร์ปี 2015 แต่ยืนกรานไม่มีวันพบ ‘โจ ไบเดน’ ต่อให้สหรัฐฯ ยอมยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรทั้งหมดก็ตาม
ไรซี ซึ่งชนะศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีอิหร่านเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (18 มิ.ย.) ได้เปิดแถลงข่าวครั้งแรก โดยระบุว่าสิ่งที่ตนให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ ในด้านนโยบายต่างประเทศก็คือการฟื้นฟูความสัมพันธ์กับเพื่อนบ้านในอ่าวเปอร์เซีย ขณะเดียวกันก็ฝากเตือนไปยัง “ซาอุดีอาระเบีย” ให้เลิกแทรกแซงสถานการณ์ภายในเยเมน
ประธานศาลสูงสุดวัย 60 ปี ผู้นี้จะเข้ามารับช่วงต่อจากประธานาธิบดี ฮัสซัน รูฮานี ผู้นำสายกลางของอิหร่าน ในวันที่ 3 ส.ค. ในห้วงเวลาซึ่งถือเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญ เนื่องจากเตหะรานหวังที่จะฟื้นข้อตกลงนิวเคลียร์ขึ้นมาใหม่เพื่อคลายล็อกมาตรการคว่ำบาตรนานาชาติที่ทำให้เศรษฐกิจย่ำแย่อยู่ในตอนนี้
“เราสนับสนุนการเจรจาที่จะการันตีผลประโยชน์ของชาติ อเมริกาควรกลับเข้าสู่ข้อตกลงทันที และปฏิบัติตามพันธกรณีที่เคยให้ไว้” ไรซี ซึ่งเป็นนักการศาสนาสายอนุรักษนิยมสุดขั้วและยังถูกสหรัฐฯ คว่ำบาตรอยู่ด้วย กล่าว
หลังจากที่อดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ได้นำสหรัฐฯ ถอนตัวฝ่ายเดียวออกจากข้อตกลงควบคุมนิวเคลียร์เมื่อปี 2018 และฟื้นบทลงโทษทางเศรษฐกิจต่ออิหร่าน รัฐบาลเตหะรานก็ตอบโต้ด้วยการทยอยละเมิดข้อจำกัดในการเสริมสมรรถนะยูเรเนียม ซึ่งเป็นเงื่อนไขในข้อตกลงนิวเคลียร์ที่มุ่งสกัดกั้นไม่ให้อิหร่านพัฒนาอาวุธทำลายล้างสูง ขณะที่อิหร่านเองปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่เคยมีความปรารถนาเช่นนั้น
ไรซี ระบุว่า นโยบายต่างประเทศของอิหร่านจะไม่จำกัดอยู่แค่เรื่องข้อตกลงนิวเคลียร์เท่านั้น และย้ำว่า “มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ทั้งหมดจะต้องถูกยกเลิก และผ่านการตรวจสอบรับรองโดยอิหร่าน”
เจ้าหน้าที่ทั้งฝ่ายอิหร่านและตะวันตกเห็นตรงกันว่า การก้าวขึ้นสู่อำนาจของ อิบราฮิม ไรซี ไม่น่าจะทำให้จุดยืนของอิหร่านในการเจรจานิวเคลียร์เปลี่ยนแปลงไป และบุคคลที่จะมีอำนาจตัดสินใจขั้นสุดท้ายยังคงเป็น “อยาตอลเลาะห์ อาลี คอเมเนอี” ผู้นำทางจิตวิญญาณสูงสุดของอิหร่าน
เมื่อถูกถามว่าพร้อมที่จะพบกับ ไบเดน หรือไม่ หากสหรัฐฯ ยอมยกเลิกมาตรการคว่ำบาตร ว่าที่ผู้นำอิหร่านตอบชัดถ้อยชัดคำว่า “ไม่พบ”
ด้านทำเนียบขาวออกมาตอบโต้ถ้อยแถลงของ ไรซี โดยระบุว่าไม่เคยมีการวางแผนให้ 2 ผู้นำพบปะกันอยู่แล้ว อีกทั้งสหรัฐฯ ยังเห็นว่าผู้มีอำนาจตัวจริงในเตหะรานยังคงเป็น คอเมเนอี อยู่นั่นเอง
“เราไม่มีความสัมพันธ์ทางการทูตใดๆ กับอิหร่าน และไม่มีแผนที่จะพบปะกับผู้นำของพวกเขา” เจน ซากี เลขานุการฝ่ายสื่อมวลชนของทำเนียบขาวให้สัมภาษณ์
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงว่า กระบวนการเลือกตั้งประธานาธิบดีอิหร่านซึ่ง ไรซี เป็นผู้ชนะเป็นแค่ “สิ่งที่ถูกกำหนดไว้แล้ว” และเชื่อว่าการเจรจาฟื้นข้อตกลงนิวเคลียร์ที่กรุงเวียนนาจะเริ่มขึ้นอีกครั้งภายในไม่กี่วันนี้
ที่มา: รอยเตอร์