xs
xsm
sm
md
lg

ไต้หวันแถลง “ปักกิ่ง” ส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดศักยภาพติดหัวรบนิวเคลียร์-บินรบขับไล่ ฝูงใหญ่สุดล้ำน่านฟ้ารอบใหม่เช้านี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รอยเตอร์/เอเจนซีส์ – ไทเปออกแถลงการณ์วันอังคาร(15 มิ.ย) ฝูงบินรบจีนใหญ่สุดเท่าที่เคยมีมา 28 ลำรวมเครื่องบินรบทิ้งระเบิดศักยภาพติดหัวรบนิวเคลียร์และเครื่องบินรบขับไล่บินข้ามช่องแคบไต้หวันเข้าโซนป้องกันภัยทางอากาศ ADIZ เช้าวันนี้ หลังกลุ่ม G-7 ออกแถลงการณ์ร่วมปกป้องไต้หวัน นิวสวีคเปิดทรานสคริปการดักฟังคลื่นความถี่สื่อสารระหว่างกัน

รอยเตอร์รายงานวันนี้(15 มิ.ย.)ว่า ในขณะที่ยังไม่มีการแสดงความเห็นในเรื่องนี้ออกมาจากปักกิ่ง การคุกคามครั้งใหม่เกิดขึ้นหลังกลุ่ม G-7 ออกแถลงร่วมวันอาทิตย์(13)ประณามจีนถึงความสำคัญต่อสันติภาพและเสถียรภาพบริเวณช่องแคบไต้หวัน และทำให้ปักกิ่งตอบโต้ว่า “เป็นการทำลายชื่อเสียง”

ทั้งนี้ในแถลงการณ์จากกระทรวงกลาโหมไต้หวันวันอังคาร(15) ระบุว่า การรุกล้ำน่านฟ้าในวันนี้ของเครื่องบินทางการทหารจีนถือเป็นการล้ำน่านฟ้าจากฝูงเครื่องบินครั้งใหญ่ที่สุดซึ่งประกอบไปด้วยเครื่องบิน 28 ลำ รวมถึงเครื่องบิน J-16 จำนวน 14 ลำ เครื่องบินขับไล่ J-11 จำนวน 6 ลำ และเครื่องบินทิ้งระเบิดศักยภาพติดหัวรบนิวเคลียร์และต่อต้านเรือดำน้ำ H-6 จำนวน 4 ลำ ยุทโธปกรณ์อิเลกทรอนิกการรบ และเครื่องบินเตือนภัยล่วงหน้า

การส่งฝูงเครื่องบินครั้งใหญ่ที่สุดนี้พบว่าลบสถิติที่เคยทำมาในวันที่ 12 เม.ยที่ปักกิ่งส่งเครื่องบินจำนวน 25 ลำเข้ามาในโซนป้องกันภัยทางอากาศ ADIZของไต้หวัน

ในแถลงการณ์ของกระทรวงกลาโหมไต้หวันระบุว่า เครื่องบินรบไต้หวันได้บินประกบและส่งข้อความออกเตือนไปยังฝูงเครื่องบินจีนพร้อมไปกับระบบมิสไซล์ถูกสั่งให้จับเป้าหมายไปที่ฝูงเครื่องบินจีน

รอยเตอร์รายงานว่า ฝูงเครื่องบินรบจีนได้บินเข้าใกล้หมู่เกาะปราตัส( Pratas Islands)แต่พบว่าเครื่องบินรบขับไล่และเครื่องบินทิ้งระเบิดยังบินรอบบริเวณทางใต้ของไต้หวันใกล้กับปลายแหลมสุดทางใต้ของเกาะ อ้างอิงจากแผนที่ซึ่งทางกระทรวงกลาโหมไต้หวันแสดงประกอบ

นิวสวีค สื่อสหรัฐฯรายงานเพิ่มเติมว่า สามารถได้รับข้อมูลสัญญาณวิทยุการสื่อสารที่ถูกดักฟังได้และส่งมาให้กับนิวสวีคพบว่า มีเครื่องบินไม่ต่ำกว่า 17 ลำส่งคำเตือนไปยังเครื่องบินรบกองทัพจีน คำเตือนถูกรายงานโดยสถานีวิทยุของกองทัพอากาศจีนระหว่างเวลา 05.48 น. และ 10.43 น.ตามเวลาท้องถิ่นของวันนี้(15) แต่ทว่าจำนวนที่แน่ชัดของเครื่องบินจีนที่ล่วงล้ำน่านฟ้าโซน ADIZ ของไต้หวัน นิวสวีคชี้ว่า ยังไม่เป็นที่แน่ชัด

วิทยุสื่อสารของกองทัพไต้หวันระบุว่า สามารถตรวจพบเครื่องบินรบจีนที่ได้ระดับอัลติจูดระหว่าง 5,000 เมตร – 7,800 เมตร

อ้างอิงจากทรานสคริปของการสื่อสารวิทยุสื่อสารคลื่นความถี่ฉุกเฉิน 121.5 MHz พบว่ามีนักบินรบจีนอย่างน้อย 1 คนสนทนาตอบโต้กลับไปในเวลา 09.20 น. โดยระบุตัวเองว่าเป็นนักบินประจำกองทัพเรือจีนและกำลังปฎิบัติหน้าที่ตามตาราง

แต่นิวสวีคอ้างว่าไม่สามารถยืนยันความถูกต้องถึงข้อความสื่อสารที่ได้จาการดักฟังทางคลื่นความถี่ได้

เลขาธิการใหญ่องค์การนาโต พลเอก เยนส์ ต็อลเตินบาร์ก (Jens Stoltenberg) แถลงจากกรุงบรัสเซลส์ถึงจีนว่า “เราเห็นพฤติกรรมบังคับคุกคาม เป็นต้นว่าในทะเลจีนใต้ และพวกเรารู้ว่าจีนไม่ได้นับถือในคุณค่าแบบเดียวกันกับของพวกเรา” และย้ำว่า “พวกเราต้องตอบโต้ร่วมกันในฐานะพันธมิตร”

ทั้งนี้นักวิเคราะห์เชื่อว่า ตอนนี้จีนกำลังตกอยู่ภายใต้ความกดดันจากนานาชาติหลังสหรัฐฯซึ่งเป็นผู้นำออกแถลงการณ์ร่วมและคำแถลงการณ์ร่วมอย่างเป็นทางการจากกลุ่ม G-7 และจากนาโต

นักวิเคราะห์ชื่อดังประจำสถาบันการป้องกันแห่งชาติและการวิจัยทางความมั่นคง(Institute for National Defense and Security Research)ในกรุงไทเป ซู ซื่อ-ยุน(Su Tzu-yun)ระบุว่า “จีนกำลังรู้สึกว่าการทูตแบบนักรบหมาป่าของตัวเองกำลังเผชิญกับความท้าทายมากมาย ดังนั้นประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง ต้องการแสดงให้เห็นถึงภาพลักษณ์ความน่านับถือ ความรัก และความน่าเชื่อถือมากขึ้น”

นักวิเคราะห์ยังชี้ต่อกับนิวสวีคว่า ถือเป็นเรื่องปกติที่กองทัพจีนจะใช้การเมือง 70% และการทหาร 30% ดังนั้นความเคลื่อนไหวของฝูงเครื่องบินรบแถบนี้นั้นจะดำเนินตามแนวความคิดนี้ และกล่าวต่อว่า “นี่ถือเป็นการส่งสัญญาณทางการทูตและการทหารครั้งสำคัญจากจีน” เกิดขึ้นก่อนหน้าฉลองครบรอบ 100 ปีการก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์จีนในวันที่ 1 ก.ค.


กำลังโหลดความคิดเห็น