ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต แห่งฟิลิปปินส์ ประกาศจะไม่ให้ความร่วมมือกับศาลอาญาระหว่างประเทศ (International Criminal Court - ICC) ซึ่งเตรียมดำเนินการสอบสวนนโยบายสงครามยาเสพติดของรัฐบาลฟิลิปปินส์ ที่ทำให้มีคนกว่า 6,000 คนถูกฆ่าตัดตอน หรือถูกวิสามัญฯ โดยไม่ผ่านกระบวนการยุติธรรม
องค์กรด้านสิทธิมนุษยชนและนักวิจารณ์ส่วนใหญ่สนับสนุนความเคลื่อนไหวของศาล ICC ซึ่งพวกเขาเชื่อว่าจะช่วยคืนความยุติธรรมให้แก่ชาวฟิลิปปินส์หลายพันคนที่ต้องเสียชีวิตไป
“เราจะไม่ให้ความร่วมมือใดๆ ทั้งสิ้น เพราะฟิลิปปินส์ไม่ใช่รัฐภาคีอีกต่อไปแล้ว” แฮร์รี โร้ก โฆษกประธานาธิบดี ระบุในงานแถลงข่าววันนี้ (15 มิ.ย.)
รัฐบาลมะนิลาได้ส่งหนังสือแจ้งอย่างเป็นทางการไปยังองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เมื่อเดือน มี.ค. ปี 2018 ว่า ฟิลิปปินส์มีความประสงค์ที่จะถอนตัวออกจากธรรมนูญกรุงโรมว่าด้วยศาลอาญาระหว่างประเทศ (Rome Statute)
“เราไม่จำเป็นต้องให้ชาวต่างชาติมาตรวจสอบการเสียชีวิตในสงครามยาเสพติด เพราะระบบกฎหมายของฟิลิปปินส์ก็กำลังทำงานอยู่” โร้ก ระบุ พร้อมทั้งวิจารณ์แผนการสอบสวนของ ICC ว่า “ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และมีวาระทางการเมืองแอบแฝง”
ทั้งนี้ อัยการ ICC ได้ยื่นขออำนาจศาลเปิดการสอบสวนสงครามยาเสพติดในฟิลิปปินส์อย่างเต็มรูปแบบเมื่อวันจันทร์ (14) เนื่องจากมีข้อบ่งชี้ว่า อาจจะเข้าข่ายเป็นอาชญากรรมต่อมวลมนุษยชาติ
“อีกไม่นาน ดูเตอร์เต และพวกพ้องของเขาจะต้องถูกกฎหมายเล่นงาน” อันโตนิโอ ทริลลาเนส อดีตวุฒิสมาชิกจากพรรคฝ่ายค้าน ระบุ
นับตั้งแต่ ดูเตอร์เต เข้ารับตำแหน่งผู้นำฟิลิปปินส์ในปี 2016 จนกระทั่งถึงเดือน เม.ย. ปีนี้ ตำรวจฟิลิปปินส์ได้วิสามัญฯ ผู้ต้องสงสัยค้าและเสพยาเสพติดไปแล้วมากกว่า 6,100 คน ตามสถิติของทางการ
นักสิทธิมนุษยชนชี้ว่า ตำรวจจงใจฆ่าผู้ต้องสงสัยแบบเหมารวม ขณะที่ฝ่ายเจ้าหน้าที่ออกมาแย้งว่า จำเป็นต้องยิงเนื่องจากผู้ต้องสงสัยเหล่านั้นมีอาวุธ และขัดขืนการจับกุม
ที่มา : รอยเตอร์