เอเจนซีส์ – กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯประสบความสำเร็จใช้หน่วยต่อต้านอาชญากรรมเรียกค่าไถ่ทางไซเบอร์สามารถนำเงินค่าไถ่ส่วนใหญ่ร่วม 2.3 ล้านดอลลาร์กลับคืนให้กับบริษัทโคโลเนียล ไปป์ไลน์สำเร็จหลังทางบริษัทยอมจ่ายค่าไถ่ให้กับกลุ่มแฮกเกอร์รัสเซียดาร์กไซด์ไป 4.4 ล้านดอลลาร์เพื่อรีบนำระบบกลับคืนมาอีกครั้ง
หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียนของอังกฤษรายงานวานนี้(7 มิ.ย)ว่า ปฎิบัติการเอาคืนจากสหรัฐฯได้เกิดขึ้นแล้วโดยเจ้าหน้าที่สหรัฐฯเปิดเผยในวันจันทร์(7)ว่า ปฎิบัติการฉกเงินค่าไถ่จากแฮกเกอร์ที่มีฐานในรัสเซียกลับคืนนั้นประสบความสำเร็จลงได้ด้วยดีจากหน่วยพิเศษด้านต่อต้านอาชญากรรมเรียกค่าไถ่ทางไซเบอร์ที่เพิ่งตั้งขึ้นใหม่โดยรัฐบาลสหรัฐฯประธานาธิบดี โจ ไบเดน
ซึ่งเป็นสิ่งที่สหรัฐฯกล่าวว่าแสดงให้เห็นว่าสหรัฐฯจะเพิ่มการจัดการอย่างเฉียบขาดกับภัยคุกคามด้านการใช้มัลแวร์ค่าไถ่ซึ่งในเดือนที่ผ่านมาได้เข้าโจมตีไปทั่วโลก
ผู้ช่วยรัฐมนตรียุติธรรมสหรัฐฯ ลิซ่า โมนาโค (Lisa Monaco) แถลงข่าวในวันจันทร์(7)ประกาศถึงปฎิบัติการว่า สหรัฐฯจะใช้ทุกเครื่องมือและทรัพยากรทุกอย่างที่มีเพื่อเพิ่มต้นทุนและผลของการโจมตีด้วยมัลแวร์เรียกค่าไถ่และการโจมตีทางไซเบอร์ประเภทอื่น
สื่ออังกฤษชี้ว่า บริษัทพลังงานโคโลเนียล ไปป์ไลน์ที่ตกเป็นเหยื่อได้ตัดสินใจปิดระบบลงก่อนที่การโจมตีจะเข้าสู่ระบบปฎิบัติการและทางบริษัทตัดสินใจยอมจ่ายค่าไถ่จำนวน 4.4 ล้านดอลลาร์เพื่อหวังว่าจะสามารถนำระบบกลับคืนได้โดยเร็วที่สุด
อย่างไรก็ตาม FBI นั้นไม่สนับสนุนให้ยอมจ่ายเงินให้กลุ่มแฮกเกอร์ ด้วยเกรงว่าอาจจะมีการโจมตีอื่นตามมาซึ่งเป็นจุดยืนเดียวกันกับของทำเนียบขาวที่เจน ซากี (Jen Psaki)โฆษกได้ย้ำในวันศุกร์(4)ที่ผ่านมาในการแถลงข่าวสรุปประจำวัน ซึ่งการโจมตีของกลุ่มแฮกเกอร์ ดาร์กไซด์( DarkSide) ที่มีฐานอยู่ในรัสเซียที่ได้ทำการเจาะระบบและทำให้ให้โคโลเนียล ไปป์ไลน์ต้องปิดระบบลงชั่วคราวเมื่อวันที่ 7 พ.ค ที่ผ่านมา
เจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯแถลงว่า หน่วยพิเศษใหม่สามารถนำเงินจ่ายค่าไถ่ส่วนใหญ่มูลค่าหลายล้านดอลลาร์ในรูปบิทคอยน์จากแก๊งแฮกเกอร์กลับมาได้สำเร็จ CNBC สื่อสหรัฐฯชี้ว่า กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯสามารถกู้คืนเงินจ่ายค่าไถ่ที่อยู่ในรูปสกุลเงินบิทคอยน์กลับมาได้มีมูลค่าโดยรวมราว 2.3 ล้านดอลลาร์
โดยเอลวิส ชาน (Elvis Chan) เจ้าหน้าที่พิเศษผู้เชี่ยวชาญของ FBI ชี้ว่า “แม้แต่กลุ่มอาชญากรองค์กรเช่น ดาร์กไซด์ ยังใช้ระบบโครงสร้างพื้นฐานของอเมริกาในจุดหนึ่งเพื่อเป้าประสงค์ทางอาชญากรรม และเปิดโอกาสทำให้ทาง FBI สามารถใช้ช่องทางกฎหมายนำเงินกลับมาได้”
CNBC รายงานว่า มาจนถึงเวลานี้ยังไม่แน่ชัดว่า ธุรกรรมการจ่ายเงินค่าไถ่ของโคโลเนียล ไปป์ไลน์เกิดขึ้นเมื่อใด ซึ่งการประกาศถึงผลความสำเร็จของทีมต่อต้านเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในวงกว้างของรัฐบาลสหรัฐฯในการหยุดการลังเลใจจากภาคธุรกิจที่จะรายงานถึงการถูกโจมตีจากทางไซเบอร์ให้รับทราบและยังเกี่ยวข้องกับรัฐบาลในการตอบโต้
ในการแถลงสรุป ผู้ช่วยผู้อำนวยการ FBI พอล แอ็บเบท( Paul Abbate) กล่าวว่า ทาง FBI สามารถชี้เจาะจงถึงกระเป๋าวอลเลทสกุลเงินดิจิทัลที่แฮกเกอร์กลุ่มดาร์กไซด์ใช้สำหรับรับการจ่ายค่าไถ่จากโคโลเนียล ไปป์ไลน์
และเขากล่าวว่า “ในการใช้อำนาจการบังคับใช้ทางกฎหมาย เงินของเหยื่อถูกยึดจากกระเป๋าวอลเลทนั้น ป้องกันกลุ่มผู้ลงมือดาร์กไซด์จากการได้ใช้มัน”