แอนนาสตาเซีย พาลาสซ์ซุก มุขมนตรีแห่งรัฐควีนส์แลนด์ของออสเตรเลีย ต้องรุดออกมาปกป้องตนเอง หลังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ต่อกรณีที่ฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ของไฟเซอร์ ทั้งที่เธอควรรับวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้า ตามกรอบอายุที่กำหนดไว้
หลังจากหลายสัปดาห์ที่เธอมีท่าทีลังเลและดูไม่รีบร้อนเท่าไหร่ ในที่สุด พาลาสซ์ซุก ก็ยอมเข้าฉีดวีคซีนต้านโควิด-19 เมื่อวันจันทร์(7มิ.ย.) อย่างไรก็ตามวัคซีนที่เธอฉีดนั้นกลับเป็นของไฟเซอร์ แม้คำแนะนำของรัฐบาลเองระบุไว้ว่าบุคคลที่มีอายุเกิน 50 ปีควรรับวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้า
มุขมนตรีรายนี้อ้างว่าที่เลือกฉีดวัคซีนของไฟเซอร์ ก็เพื่อรับประกันว่าเธอจะได้รับวัคซีนโดสที่ 2 ทันก่อนเดินทางออกไปยังกรุงโตเกียวพร้อมกับนายกรัฐมนตรีออสเตรเลียในเดือนหน้า ส่วนหนึ่งในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดกีฬาโอลิมปิกปี 2032 ของเมืองบริสเบน
"มีข้อบังคับให้รัฐต้องไปนำเสนอต่อคณะกรรมการโอลิมปิกสากลเกี่ยวกับการเป็นเจ้าภาพโอลิมปิก และดิฉันยังไม่ได้ฉีดวัคซีน และนั่นคือเหตุผลว่าทำไมฉันถึงฉีดของไฟเซอร์" พาลาสซ์ซุกบอกกับผู้สื่อข่าว
สกอตต์ มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีออสตรเลีย เผยว่าจะไม่เดินทางไปยังกรุงโตเกียว แต่จะพบปะกับนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ณ ที่ประชุมจี 7 ในสหราชอาณาจักร ระหว่างวันที่ 11-13 มิถุนายน
พาลาสซ์ซุก วัย 51 ปี กลายเป็นมุขมนตรีรัฐและผู้นำดินแดนต่างๆของออสเตรเลียคนสุดท้ายที่มีอายุมากกว่า 50 ปี ที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั้งที่ตามกรอบคำแนะนำของรัฐควีนส์แลนด์ เธอมีสิทธิ์เข้ารับวัคซีนตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมีนาคม
มุขมนตรีรายนี้เผยว่าเธอได้รับข้อเสนอฉีดวัคซีนตั้งแต่วันแรกของการเปิดตัวในเดือนกุมภาพันธ์ แต่เธอปฏิเสธไปเพราะไม่ต้องการแซงคิว
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พาลาสซ์ซุก เผยว่าหนแรกที่เธอเลื่อนฉีดวัคซีนโควิด-19 ออกไป 2 สัปดาห์ เนื่องจากเพิ่งฉีดวัคซีนบาดทะยัก หลังถูกสุนัขกัด จากนั้นก็เข้ารับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ทำให้ต้องเลื่อนฉีดวัคซีนโควิด-19 เพิ่มอีก 2 สัปดาห์
พาลาสซ์ซุก อ้างว่าเธอจะเลือกฉีดวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้า หากไม่มีความจำเป็นต้องเดินทางไปยังต่างแดน
เดวิด คริซาฟุลลิ ผู้นำฝ่ายค้าน วัย 41 ปี วิพากษ์วิจารณ์ว่ารัฐบาลจำเป็นต้องปรับปรุงมุมมองและการส่งสารเกี่ยวกับวัคซีนโควิด-19 "ทุกสิ่งที่เราทำในฐานะผู้นำ จำเป็นต้องมอบความเชื่อมั่นแก่ประชาชนในวัคซีน" เขากล่าว อย่างไรก็ตามเขาก็ฉีดวัคซีนของไฟเซอร์เช่นกัน
(ที่มา:การ์เดียน)