xs
xsm
sm
md
lg

ผู้นำกีวีต้อนรับ “นายกฯออสซี” ครั้งแรกหลังโรคระบาด เรียกร้อง WHO ขุดคุ้ยต้นตอโควิด-19

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอพี – นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ จาซินดา อาร์เดิร์น ต้อนรับนายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย สกอตต์ มอร์ริสัน เป็นครั้งแรกวันอาทิตย์(30 พ.ค)ที่ควีนสทาวน์ ถือเป็นการเปิดประเทศต้อนรับการเยือนผู้นำระหว่างประเทศแดนกีวีถึงแม้จะมีความเห็นต่างด้านจีน ผู้นำทั้งสองส่งเสียงเรียกร้องให้องค์การอนามัยโลก WHO ดำเนินการหาต้นตอโรคโควิด-19ระบาด

เอพีรายงานวันนี้(31 พ.ค)ว่า ความตรึงเครียดระหว่างออสเตรเลียและจีนเพิ่มมากขึ้นและการกลับมาเปิดพรมแดนอีกครั้งนั้นดูเหมือนจะอยู่ในประเด็นการหารือระหว่างนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ จาซินดา อาร์เดิร์น ต้อนรับนายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย สกอตต์ มอร์ริสัน เป็นครั้งแรกวันอาทิตย์(30 พ.ค)ที่ควีนสทาวน์ (Queenstown )ซึ่งเป็นเมืองรีสอร์ทสำหรับการเยือนชั่วข้ามคืนของมอร์ริสัน โดยผู้นำทั้งสองได้ทำการทักทายตามประเพณี เมารี ฮอนกี (Maori hongi) ที่ใช้จมูกสัมผัส

มอร์ริสันกลายเป็นผู้นำต่างประเทศแรกที่เยือนนิวซีแลนด์นับตั้งแต่เกิดโรคโควิด-19และต้องปิดพรมแดนในปีที่ผ่านมา และในเดือนเมษายนนิวซีแลนด์ร่วมกับออสเตรเลียเปิดการท่องเที่ยวแบบบับเบิลที่ไม่จำเป็นต้องกักตัวในการเข้าประเทศ แต่ทว่านิวซีแลนด์ได้สั่งยุติท่องเที่ยวแบบบับเบิลกับรัฐวิคตอเรีย

ทั้งนี้การเดินทางเยือนนิวซีแลนด์ของมอร์ริสันเกิดขึ้นท่ามกลางระหว่างนิวซีแลนด์เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่หลังฝนตกหนักในรัฐแคนเทอเบอร์รีหลังฝนตกหนัก มีคนจำนวนหลายร้อยคนได้รับการช่วยเหลือจากบ้านเรือนในวันจันทร์(31)

มีภาพข่าวเฮลิคอปเตอร์ NH-90 ของกองทัพนิวซีแลนด์ดึงตัวประชาชนกว่า 50 คนในชั่วข้ามคืน

กองทัพนิวซีแลนด์แถลงว่า มีชายคนหนึ่งเกาะต้นไม้ใกล้กับเมืองดาร์ฟิลด์ (Darfield) และเขาได้กระโดดลงไปในน้ำท่วมและพยายามที่จะว่ายน้ำแต่ถูกกระแสน้ำพัด และเฮลิคอปเตอร์กองทัพใช้เวลา 30 นาทีจนพบตัวและสามารถช่วยเหลือได้อย่างปลอดภัย และทางเฮลิคอปเตอร์สามารถช่วยเหลือชายสูงอายุคนหนึ่งออกมาจากหลังคารถได้

ออสเตรเลียใช้ไม้แข็งกับจีนในไม่กี่ปีที่ผ่านมาและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเสื่อมทรามลง ส่วนทางนิวซีแลนด์เลือกที่จะใช้นโยบายต่อจีนที่ซอฟท์มากกว่าและจนหลายคนมองว่า อ่อนเกินไป

เอพีชี้ว่า ในการหารือร่วมกันดูเหมือนผู้นำทั้งสองเลือกที่จะไม่แสดงความเห็นที่แตกต่างกันในด้านจีน โดยมอร์ริสันกล่าวทั้งตัวเขาและอาร์เดิร์นมีปรัชญาที่คล้ายกัน

มอร์ริสันกล่าวว่า “ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ต่างเป็นประเทศค้าขาย” และเสริมว่า “แต่พวกเราทั้งสองจะไม่มีใครที่ยอมแลกกับอธิปไตยประเทศหรือแลกกับคุณค่าของตัวเอง พวกเรายืนเคียงข้างกันเพื่อปกป้องและสนับสนุนต่อคุณค่าเหล่านั้น” เขากล่าวย้ำว่า “ที่ไม่ใช่เฉพาะแค่หาดกัลลิโพลี(ของตุรกี)แต่ยังรวมถึงอัฟกานิสถานและประเทศอื่นๆอีกมากมายในโลก”

อาร์เดิร์นกล่าวว่า นิวซีแลนด์ยังคงยึดหลักการที่แน่วแน่ต่อจีนในด้านสิทธิมนุษยชนและทางการค้า ซึ่งคล้ายกับของออสเตรเลีย และชี้ว่าอีกทั้งแดนกีวียังคงเป็นสมาชิกในกลุ่มประเทศไฟว์ อายส์ (Five Eyes)ที่มีการแชร์ข่าวกรองระหว่างกันใน 5 ชาติได้แก่สหรัฐฯ อังกฤษ แคนาดา ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์

“ไม่มีในคำถาม และไม่มีในความสงสัย” อาร์เดิร์นกล่าว ขณะที่มอร์ริสันเสริมว่า ออสเตรเลียทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับนิวซีแลนด์และประเทศอื่นๆภายในกลุ่ม ซึ่งเขากล่าวว่า หลักฐานปรากฎมากขึ้นที่มีการแข่งขันทางด้านยุทธศาสตร์เกิดขึ้นระหว่างสหรัฐฯและจีน แต่ผู้นำออสเตรเลียย้ำว่ามันไม่จำเป็นต้องนำไปสู่ความขัดแย้ง

และนายกรัฐมนตรีทั้งสองชาติต่างร่วมเรียกร้องให้องค์การอนามัยโลก WHO เร่งสืบหาต้นตอโรคโควิด-19 ต่อไปเพื่อป้องกันไม่ให้กลับมาเกิดขึ้นอีกครั้ง โดยทางมอร์ริสันย้ำว่านี่ไม่ใช่เรื่องการเมืองระหว่างประเทศ

การหารือยังรวมไปถึงผู้ต้องหาคดีกราดยิงมัสยิดไครสต์เชิร์ช และทำให้ผู้เสียชีวิตไป 51 ราย ผู้ต้องหาเป็นพลเมืองออสเตรเลียโดยมอร์ริสสันเห็นด้วยว่า เบรนตัน ทาร์แรนต์ (Brenton Tarrant) ยังคงได้รับโทษจำคุกในนิวซีแลนด์ต่อไปตามความปราถนาของผู้ได้รับผลกระทบ








กำลังโหลดความคิดเห็น