จีนประกาศพบการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ที่มณฑลกวางตุ้ง โดยมีผู้ติดเชื้อในชุมชนเพิ่มขึ้นถึง 20 รายในวันอาทิตย์ (30 พ.ค.) ขณะที่ทางการสั่งล็อกดาวน์พื้นที่เสี่ยงในนครกวางโจว
คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีน (NHC) รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่ 27 ราย โดย 7 รายเป็นผู้ป่วยนำเข้า ส่วนที่เหลืออีก 20 รายเป็นผู้ติดเชื้อในชุมชนที่มณฑลกวางตุ้งทั้งหมด
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (29) ทางการได้มีคำสั่งล็อกดาวน์ชุมชนบนถนน 5 สายในย่านหลี่หวัน (Liwan) โดยให้ประชาชนเก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน และงดทำกิจกรรมที่ไม่จำเป็น รวมถึงสั่งปิดตลาดและสถานบันเทิงในพื้นที่
ล่าสุด ทางการกวางโจวได้มีคำสั่งเมื่อช่วงค่ำวันอาทิตย์ (30) ให้ประชาชนที่จะเดินทางออกจากนครกวางโจวทางเครื่องบิน, รถไฟ หรือรถประจำทาง จำเป็นต้องแสดงผลตรวจโควิด-19 เป็น “ลบ” ไม่เกิน 3 วันก่อนออกเดินทาง ยกเว้นเฉพาะกลุ่มผู้เดินทางที่แวะพักชั่วคราวเพื่อต่อยานพาหนะ (transit)
เฉิน ปิน รองผู้อำนวยการคณะกรรมการสุขภาพประจำเทศบาลนครกวางโจว แถลงวานนี้ (30) ว่า การระบาดระลอกล่าสุดที่มณฑลกวางตุ้งเกิดจากเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์อินเดีย ซึ่งสามารถแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว โดยผู้ติดเชื้อใหม่ 18 รายอาศัยอยู่ที่นครกวางโจว และอีก 2 รายเป็นชาวเมืองฝัวซาน (Foshan)
จีนยังพบผู้ติดเชื้อใหม่แบบไม่แสดงอาการอีก 19 รายในวันที่ 30 พ.ค. ซึ่งโดยระเบียบของทางการจีนจะไม่นับรวมว่าเป็นผู้ติดเชื้อยืนยัน (confirmed cases)
ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมในจีนจนถึงวันที่ 30 พ.ค. อยู่ที่ 91,099 ราย ขณะที่ตัวเลขผู้เสียชีวิตยังคงอยู่ที่ 4,636 ราย
ที่มา: รอยเตอร์
