xs
xsm
sm
md
lg

“อนามัยโลก” เรียกข้อมูลเพิ่ม “วัคซีนซิโนแวค” เลื่อนการพิจารณา ส่วน “ซีพี” ออกแถลงการณ์ปัดไม่เกี่ยวจัดซื้อวัคซีนในไทย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ – องค์การอนามัยโลก WHO ร้องขอข้อมูลเพิ่มเติมจากบริษัทจีนซิโนแวค ไบโอเทค เพื่อการพิจารณาการ แหล่งข่าววงในชี้ การตัดสินใจถูกเลื่อนออกไปเป็นเดือนหน้า ด้านกลุ่มธุรกิจพีซีออกแถลงการณ์ล่าสุด ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดซื้อในไทย ชี้เป็นเรื่องรัฐต่อรัฐ

หนังสือพิมพ์วอลสตรีทเจอร์นัลด์รายงานเมื่อวานนี้(26 พ.ค)ว่า ไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาองค์การอนามัยโลก WHO ได้ร้องขอข้อมูลวัคซีนโคโรนาแวค (CoronaVac)เพิ่มเติมจากบริษัทจีนผู้ผลิต โนแวค ไบโอเทค ลิมิตเต็ด เพื่อพิจารณาว่าทาง WHO จะรับรองวัคซีนตัวนี้ได้หรือไม่

ทั้งนี้วัคซีนโคโรนาแวคเป็นชื่อทางการของวัคซีนซิโนแวค

WHOต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับวัคซีนซิโนแวคในด้านความปลอดภัยและข้อมูลกระบวนการผลิตเพื่อประเมินว่าวัคซีนตัวนี้เป็นไปตามมาตรฐานที่ทางองค์การอนามัยโลกได้วางไว้หรือไม่ อ้างอิงจากแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ โดยหนึ่งในเจ้าหน้าที่ระดับสูงของWHO ชี้ว่า การตัดสินใจอาจจะเลื่อนออกไปถึงเดือนมิถุนายน

อ้างอิงจากหนังสือพิมพ์ไทยภาคภาษาอังกฤษรายงานวันอังคาร(25)ชี้ว่า นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา ในระหว่างรับวัคซีนแอสตราเซเนก้าเข็มที่ 2 ร่วมกับรัฐมนตรีคนอื่นๆในวันจันทร์(24)ที่ชี้สถาบันบำราศนราดูรว่า เขาเชื่อมั่นว่าองค์การอนามัยโลกจะให้การรับรองวัคซีนซิโนแวคได้ในวันศุกร์(28)

องค์การอาหารและยาของไทยที่ได้ให้ไฟเขียววัคซีนซิโนแวคในไทยออกมากล่าวก่อนหน้าว่า วัคซีนตัวนี้ถึงแม้ว่าจะยังไม่ได้รับรองจาก WHO แต่ทว่าวัคซีนถูกใช้ไปแล้ว 45 ประเทศทั่วโลก

องค์การอาหารและยายังกล่าวว่า WHO พบว่าประสิทธิภาพของวัคซีนซิโนแวคนั้นมีราว 50% ในการป้องกันโรค แต่อย่างไรก็ตามองค์การอาหารและยาของไทยระบุว่า วัคซีนของบริษัทซิโนแวคถูกพิสูจน์ว่ามีประสิทธิภาพป้องกันการเสียชีวิตได้ถึง 100% และมีประสิทธิภาพต่อผู้ป่วยที่ต้องเข้ารับการรักษาพยาบาลระยะวิกฤตได้ 77.9%

หนังสือพิมพ์ไทยภาคภาษาอังกฤษชี้ว่า นายกรัฐมนตรีออกมาเรียกร้องให้ประชาชนไทยมีความเชื่อมั่นในวัคซีนไทยที่มีอยู่ในมือคือ วัคซีนแอสตราเซเนก้า และ วัคซีนซิโนแวค พร้อมกล่าวว่ากระทรวงสาธารณสุขได้รับรองวัคซีน 2 ตัวนี้ในด้านความปลอดภัยและประสิทธิภาพ

อย่างไรก็ตามวัคซีนซิโนแวคในไทยยังเป็นที่ถกเถียงทางการเมือง ล่าสุดกลุ่มบริษัทซีพีออกแถลงการณ์ในวันอังคาร(25)ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดซื้อวัคซีนซิโนแวคในไทย

“วัคซีนที่ถูกซื้อในระดับรัฐบาลต่อรัฐบาลและทางซีพีไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆทั้งสิ้น” รายงานจากแถลงการณ์ของกลุ่มบริษัทซีพี และในแถลงการณ์ยังปฎิเสธการรายงานจากสื่อก่อนหน้าที่ว่า ทางบริษัทถือหุ้น 15% ในบริษัท แต่ทว่าในแถลงการณ์ทางซีพียอมรับว่าตัวเองมีหุ้นอยู่ในบริษัทยาสัญชาติจีนนี้ โดยกล่าวว่า

“นักลงทุน(ในซิโนแวค)ของบริษัทสัญชาติจีน ซิโน ไบโอฟาร์มาซูติคอลที่ถูกขึ้นกระดานการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง บริษัทซีพีเป็นเพียงผู้ถือหุ้นรายย่อยของบริษัทนี้เท่านั้น”

ทางบริษัทย้ำว่าตัวเองเป็นแค่หนึ่งในผู้ถือหุ้นในบริษัทซิโน ไบโอฟาร์มาซูติคอลทที่ได้ทำการลงทุนผ่านตลาดหุ้นฮ่องกง และกล่าวว่า ซีพีไม่มีอำนาจควบคุมและความสามารถในการเข้าแทรกแซงการตัดสินใจใดๆที่เกี่ยวข้องกับซิโนแวค และทางบริษัทยังส่งคำเตือนหลังแถลงการณ์ว่า จะดำเนินคดีทางกฎหมายหากว่ามีการบิดเบือนข้อมูลเกี่ยวข้องกับบริษัท อ้างอิงการรายงานจากหนังสือพิมพ์ไทยภาคภาษาอังกฤษ

วอลสตรีทเจอร์นัลชี้ว่า ซิโนแวคมีความยากลำบากมากกว่าคู่แข่งบริษัทผู้ผลิตวัคซีนโลกตะวันตกได้แก่ แอสตราเซเนก้า จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน โมเดอร์นา และไฟเซอร์ไบออนเทค ในการขอการรับรองวัคซีนจากองค์การอนามัยโลกเนื่องมาจากบริษัทยาผู้ผลิตชาติตะวันตกมีความคุ้นเคยในกระบวนการตรวจสอบคุณภาพขององค์การอนามัยโลก และอีกทั้งวัคซีนของชาติตะวันตกเหล่านี้ได้รับการอนุมัติเพื่อเข้าร่วมโครงการ COVAX ของสหประชาชาติ ซึ่งแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ของ WHO ชี้ว่า ความไม่มีประสบการณ์ของซิโนแวคทำให้การอนุมัติต้องล่าช้าออกไป

ซึ่งในเวลานี้ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าทางบริษัทซิโนแวคจะส่งวัคซีนเข้าร่วมกับ COVAX มากน้อยเพียงใด เจ้าหน้าที่ COVAX ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการเจรจาข้อตกลงเพื่อรับวัคซีนซิโนแวค โดยต้องการรายละเอียดในด้านราคา วันในการส่งมอบ และจำนวนโดส วอลสตรีทเจอร์นัลอ้างอิงจากบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการสนทนาและชี้ว่า เป็นการยากที่จะได้คำตอบที่น่าพึงพอใจ




กำลังโหลดความคิดเห็น