ราคาน้ำมันขยับขึ้นในวันอังคาร(25พ.ค.) ได้แรงหนุนจากอุปสงค์กำลังเพิ่มขึ้นหลังใกล้เข้าสู่ฤดูกาลขับขี่ซีกโลกเหนือ การยกเลิกข้อจำกัดสกัดโควิด-19 และดอลลาร์อ่อนค่า ปัจจัยหลังนี้ดันทองคำพุ่งแรง ขณะที่วอลล์สตรีทปิดลบ ท่ามกลางความกังวลต่อสถานะการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้น 2 เซนต์ ปิดที่ 66.07 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอนงวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้น 19 เซนต์ ปิดที่ 68.65 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
หลายพื้นที่ของยุโรปและสหรัฐฯพบผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจากโควิด-19 ลดลงต่อเนื่อง ส่งผลให้รัฐบาลต่างๆผ่อนปรนข้อจำกัด อย่างไรก็ตามในอีกหลายพื้นที่อย่างเช่นอินเดีย ชาติผู้บริโภคพลังงานรายใหญ่ที่สุดของโลก อัตราผู้ติดเชื้อยังคงอยู่ในระดับสูง
การเจรจาทางอ้อมระหว่างสหรัฐฯและอิหร่านมีกำหนดกลับมาพูดคุยกันอีกครั้งในกรุงเวียนนาสัปดาห์นี้ ทั้งสองฝ่ายหวนคืนสู่การเจรจาหลังเตหะรานและหน่วยงานนิวเคลียร์ของสหประชาชาติขยายข้อตกลงเฝ้าระวังโครงการนิวเคลียร์ของชาติในตะวันออกกลางแห่งนี้
ส่วนอีกปัจจัยที่สนับสนุนราคาน้ำมันก็คือดอลลาร์อ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 19 สัปดาห์เมื่อเทียบกับตะกร้าเงิน หลังความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อลดลง
ปัจจัยนี้ประกอบกับตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯที่ลดลง ผลักให้ราคาทองคำ ในฐานะสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ ในวันอังคาร(25พ.ค.) พุ่งแรง โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 13.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,898.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันอังคาร(25พ.ค.) แกว่งตัวปิดในแดนลบ หลังข้อมูลความเชื่อมั่นผู้บริโภค ก่อความกังวลเกี่ยวกับสถานะการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของอเมริกา
ดาวโจนส์ ลดลง 81.52 จุด (0.24 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 34,312.46 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 8.92 จุด (0.21 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,188.13 จุด แนสแดค ลดลง 4.00 จุด (0.03 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 13,657.17 จุด
ตลาดทุนปรับขึ้นในช่วงเปิดตลาด แต่แกว่งตัวสู่แดนลบหลังข้อมูลจากคอนเฟอเรนซ์บอร์ด เผยให้เห็นว่าความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯทรงตัวในเดือนพฤษภาคม ด้วยชาวอเมริกันรู้สึกในแง่ดีลดลงต่อการจ้างงานและสิ่งแวดล้อมทางธุรกิจในช่วงหลายเดือนข้างหน้า แม้ว่าพวกเขายังคงมองสถานการณ์ในปัจจุบันในทิศทางแง่บวกก็ตาม
ผลสำรวจของเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจ คอนเฟอเรนซ์บอร์ด ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 117.2 ในเดือนพฤษภาคม จากระดับ 117.5 ในเดือนเมษายน และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 119.2
ทั้งนี้ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐฯเป็นการสำรวจมุมมองของผู้บริโภค และความเชื่อมั่นต่อสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน และในช่วง 6 เดือนข้างหน้า สถานะการเงินส่วนบุคคลและการจ้างงาน
(ที่มา:รอยเตอร์ส/เอเอฟพี)