ผลสำรวจความคิดเห็นล่าสุดโดยรอยเตอร์/อิปซอสเผย ชาวอเมริกันที่เป็นฐานเสียงพรรครีพับลิกัน “เกินครึ่ง” ยังคงเชื่อว่าอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ชนะศึกเลือกตั้งเมื่อเดือน พ.ย. ปีที่แล้ว แต่ที่แพ้ให้กับ โจ ไบเดน ก็เพราะมีการทุจริตเกิดขึ้น
โพลซึ่งจัดทำระหว่างวันที่ 17-19 พ.ค. ที่ผ่านมาพบว่า ฐานเสียงรีพับลิกัน 53% เชื่อว่า ทรัมป์ คือ “ประธานาธิบดีตัวจริง” เปรียบเทียบกับฐานเสียงเดโมแครตเพียง 3% และชาวอเมริกันโดยทั่วไป 25% ที่เชื่อเช่นนั้น
ชาวอเมริกันวัยผู้ใหญ่ราว 1 ใน 4 เชื่อว่า การเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อวันที่ 3 พ.ย. ปี 2020 มีการโกงคะแนนเสียง ในจำนวนผู้ที่คิดเช่นนี้เป็นฐานเสียงรีพับลิกันเสีย 56%
ตัวเลขที่ออกมาแทบจะไม่ต่างจากโพลซึ่งจัดทำขึ้นระหว่างวันที่ 13-17 พ.ย. ปีที่แล้ว ซึ่งพบว่าชาวอเมริกันทั่วไป 28% และฐานเสียงรีพับลิกัน 59% เชื่อว่าชัยชนะควรเป็นของ ทรัมป์
ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ซึ่งเป็นผู้นำสายเดโมแครต ได้รับคะแนนโหวตจากชาวอเมริกันมากกว่า 7 ล้านเสียง อีกทั้งศาลสหรัฐฯ กว่า 10 แห่งก็ปฏิเสธการยื่นอุทธรณ์คัดค้านผลเลือกตั้งของทรัมป์ แต่มหาเศรษฐีอสังหาริมทรัพย์ผู้นี้ รวมถึงผู้ที่สนับสนุนเขา ก็ยังคงดึงดันเผยแพร่ทฤษฎีสมคบคิดผ่านสื่อสายอนุรักษนิยมต่อไป
โพลรอยเตอร์/อิปซอสพบว่า ฐานเสียงรีพับลิกัน 61% เชื่อว่ามีการ “ขโมย” ชัยชนะไปจากทรัมป์ และมีเพียง 29% เท่านั้นที่คิดว่า ทรัมป์ ควรมีส่วนรับผิดชอบจากการปลุกม็อบบุกรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 ม.ค.
อย่างไรก็ดี ผู้ตอบแบบสอบถามโดยรวม 67% ยังเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งในเมืองของตน “ทำหน้าที่อย่างซื่อสัตย์” และมีฐานเสียงรีพับลิกัน 58% ที่คิดเช่นนี้
โพลล่าสุดนี้สรุปจากการสอบถามความเห็นชาวอเมริกันวัยผู้ใหญ่ 2,007 คน โดยแบ่งออกเป็นฐานเสียงเดโมแครต 909 คน รีพับลิกัน 754 คน และมีค่าความผิดพลาดบวกลบไม่เกิน 4%
ที่มา: รอยเตอร์