นายกฯหญิงคนแรกของ “ซามัว” เข้าพิธีสาบานตนในเตนท์หลังประตูรัฐสภาปิดตายคนเก่าไม่ยอมออก

เอเจนซีส์ – เฟียเม นาโอมิ มาตา อาฟา(Fiame Naomi Mata'afa) เข้าสู่พิธีสาบานตนสาบานตนได้สำเร็จในเตนท์ที่ถูกจัดขึ้นวันจันทร์(24 พ.ค)เกิดขึ้นหลังจากความชุลมุนทางการเมืองนายกฯรักษาการที่ครองอำนาจมาอย่างยาวนานสั่งปิดตายประตูรัฐสภาอย่างไม่มีเหตุผล

CNN สื่อสหรัฐฯรายงานวานนี้(25 พ.ค)ว่า พรรควันทรูก็อด หรือ FAST ได้กล่าวไปถึงโชคชะตาเฟียเม นาโอมิ มาตา อาฟา( Fiame Naomi Mata'afa)ว่า การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวันจันทร์(24)ที่เทียบได้กับการปฎิวัติที่ไม่ต้องใช้กำลังทหาร หลังจากสถานการณ์ความไม่แน่นอนนับจากการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 9 เม.ย ที่ผ่านมา

เฟียเม นาโอมิ มาตา อาฟา ชนะการเลือกตั้งได้อย่างเฉียดฉิวทำให้พรรคฮิวแมนไรท์โพรเทกชัน(HRPP)ที่เคยปกครองซามัวมานานตั้งแต่ปี 1982 โดยที่แทบไม่มีการขาดช่วง นายกรัฐมนตรีรักษาการ ทุยลาเอปา ไซเลเล มาลิเอเลงาโออิ (Tuilaepa Sailele Malielegaoi)ของพรรคนั่งดำรงตำแหน่งในฐานะผู้นำประเทศมานานกว่า 20 ปี

สื่อสหรัฐฯชี้ว่า คำสั่งในช่วงกลางดึกสุดสัปดาห์จากนายกฯรักษาการให้ยกเลิกการประชุมรัฐสภาในวันจันทร์(24)ซึ่งเป็นวันพิธีสาบานตนรับตำแหน่งที่ต้องกระทำภายในรัฐสภา

โดยในคำสั่งไม่มีคำอธิบายแต่อย่างใด สถานีวิทยุแห่งชาตินิวซีแลนด์รายงาน

อย่างไรก็ตามศาลสูงสุดซามัวออกคำพิพากษาวันอาทิตย์(23)พิพากษาว่า คำสั่งยกเลิกการประชุมรัฐสภาของผู้นำรักษาการนั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย และเมื่อพรรค FAST เดินทางมาถึงอาคารรัฐสภาวานนี้(24)กลับพบว่า ประตูรัฐสภาปิดตาย สถานีวิทยุแห่งชาตินิวซีแลนด์รายงานต่อ

แลนซ์ อาปูลู (Lance Apulu) โฆษกพรรค FAST เปิดเผยกับสถานีวิทยุแห่งชาตินิวซีแลนด์ว่า “ผมคิดว่าการทำรัฐประหารถือเป็นคำพูดที่ถูกต้อง” พร้อมกับกล่าวอธิบายถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันจันทร์ว่า มันไม่มีการเสียเลือดแต่เป็นการยึดอำนาจ

สถานีวิทยุแห่งชาตินิวซีแลนด์รายงานว่า พรรค FAST ได้เดินหน้าทำพิธีสาบานตนนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของซามัวในเตนท์ ซึ่งในเวลานี้ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่ากระบวนการเหล่านี้มีความชอบธรรมมากน้อยเพียงใด และวันจันทร์(24)ถือเป็นวันสุดท้ายที่รัฐสภาชุดใหม่จะสามารถตั้งขึ้นภายใต้กรอบกฎหมายรัฐธรรมนูญ

แต่ทว่ามาลิเอเลงาโออิได้ถามถึงความชอบธรรมพิธีสาบานตนหลังจากพิธีการได้เสร็จสิ้นแล้ว โดยกล่าวกับสถานีวิทยุแห่งชาตินิวซีแลนด์ว่า “เป็นเรื่องตลก” เขาระบุว่า “มีเพียงประมุขแห่งรัฐและไม่ใช่คนอื่นที่สามารถเรียกการประชุมรัฐสภาและรับการสาบานตนของคนอื่นได้ ไม่มีสิ่งใดที่คนเหล่านี้ทำมีความชอบธรรม”

ด้านแพทริเซีย โอ’ไบรอัน (Patricia O'Brien)ผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์แปซิฟิกประจำมาหวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลีย (Australian National University) มีความเห็นสอดคล้องต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นว่าใกล้เคียงกับการทำรัฐประหารถึงแม้ว่าจะไม่มีกำลังทหารเข้าเกี่ยวข้อง และเสริมต่อว่าดูเหมือนว่าพรรค HRPP ได้สั่งยุติกระบวนการทางรัฐธรรมนูญชั่วคราวและไม่สนใจต่อคำสั่งจากศาลมากมาย