รอยเตอร์ – การควบคุมเข้าออกพรมแดนประเทศจะส่งผลเริ่มจากนี้หลังพบการติดเชื้อโควิด-19ในประเทศสายพันธุ์แอฟริกาใต้ 3 เคสหลังมีการแอบลักลอบข้ามชายแดนเข้ามา เจ้าหน้าที่ไทยแถลงวันอาทิตย์(23 พ.ค)
รอยเตอร์รายงานวันนี้(23 พ.ค)ว่า เคสแรกของโรคโควิด-19สายพันธุ์แอฟริกาใต้ที่มีชื่อรหัสคือ B.1.351 พบครั้งแรกในไทยเมื่อวันที่ 4 พ.ค เกิดขึ้นกับชายไทยวัย 32 ปีหลังจากที่สมาชิกครอบครัวมาเยี่ยมเยียนซึ่งเดินทางเข้าไทยจากมาเลเซียผ่านช่องทางการข้ามแดนที่ไม่เป็นทางการ ผู้อำนวยการแผนกควบคุมโรคต่อกล่าว
อธิบดีกรมควบคุมโรค นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ กล่าวว่า การเดินทางของประชาชนจะถูกจำกัดเฉพาะในเขตที่ได้รับผลกระทบและที่ผ่านมามีเคสายพันธุ์แอฟริกาใต้ถูกพบแค่ 2 เคสจากทั้งหมด 81 เคสนับแต่วันแรกของเดือนพฤษภาคม
“สายพันธุ์แอฟริกาใต้ที่ถูกพบนั้นมีความคล้ายคลึงกับสายพันธุ์ที่พบในมาเลเซีย”
ในขณะที่มีคนจำนวนมากวิตกว่าไวรัสกลายพันธุ์อาจส่งผลต่อประสิทธิภาพการรักษาของวัคซีนโควิด-19ที่มี แต่ทว่าหมอโอภาสชี้ว่า การให้การคุ้มกันหมู่จะยังคงเป็นหนทางที่มีประสิทธิภาพในการลดระดับความรุนแรงและอัตราการเสียชีวิตจากโรค
ซึ่งทางรัฐบาลไทยประกาศจะเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ จุดตรวจ และการเฝ้าตรวจตราทางอิทรอนิกตลอดพรมแดนทางบก พร้อมออกคำสั่งให้เจ้าหน้าที่เพิ่มความเข้มงวดต่อการลักลอบนำคนต่างด้าวเข้าประเทศ
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ในกรุงเทพฯยังสั่งห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานที่เขตก่อสร้างหลังจากพบว่ามีแคมป์แรงงานไซต์ก่อสร้าง 11 แห่งรวมอยู่ใน 30 คลัสเตอร์ระบาดในกรุงเทพฯ
ทั้งนี้พบว่ามีแคมป์แรงงานก่อสร้างทั้งหมด 409 แห่งในกรุงเทพฯซึ่งทางเจ้าหน้าที่กทม.ระบุว่ามีคนงานก่อสร้างทั้งหมด 62,169 คน และจากครึ่งเป็นแรงงานต่างด้าว
นอกจากนี้คำสั่งห้ามการเคลื่อนย้ายยังเกิดขึ้นในตลาดสดและศูนย์คอลเซ็นเตอร์ในกรุงเทพฯ
ทั้งนี้วันอาทิตย์(23)ไทยรายงานยอดเคสเสียชีวิตเพิ่ม 17 รายและเคสติดเชื้อใหม่อีก 3,382 ราย