เอเจนซีส์ – ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน ต่อสายคุยทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู วันพุธ(19 พ.ค)แสดงความคาดหวังว่า สหรัฐฯต้องการเห็นการลดระดับความรุนแรงลงที่ฉนวนกาซ่า ขณะที่ส.สหัวก้าวหน้าพรรคเดโมแครต อเล็กซานเดรีย โอคาซิโอ-คอร์เทซ เป็นหัวหอกผลักดันเล็งไม่โหวตอนุมัติรัฐบาลไบเดนขายอาวุธมูลค่าหลายล้านดอลลาร์ให้อิสราเอล
CNBC News รายงานเมื่อวานนี้(19 พ.ค)ว่า เป็นการหารือทางโทรศัพท์ครั้งที่ 4 ระหว่างผู้นำสหรัฐฯและผู้นำอิสราเอล นับตั้งแต่ความขัดแย้งในกาซ่าเกิดขึ้น
ทำเนียบขาวกล่าวผ่านแถลงการณ์ว่า ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ได้กล่าวแก่นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู ทางโทรศัพท์วันพุธ(19)ว่า เขาคาดหวังการลดระดับความรุนแรงครั้งใหญ่วันนี้ในหนทางที่จะนำไปสู่ข้อตกลงการหยุดยิง
อิสราเอลโจมตีฉนวนกาซ่าเป็นเวลา 9 วันทำให้ชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตไปแล้วไม่ต่ำกว่า 227 คน รวมเด็ก 64 คนและสตรี 38 คน อ้างอิงจากเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ซึ่งทางเทลอาวีฟกล่าวว่า มีจรวดไม่ต่ำกว่า 3,400 ลูกเข้าโจมตีเมืองต่างๆของอิสราเอล และมีผู้เสียชีวิตในอิสราเอล 12 คน รวมแรงงานชาวไทย 2 คน
“ท่านประธานาธิบดีแจ้งต่อท่านนายกรัฐมนตรีว่า เขาคาดหวังการลดระดับความรุนแรงอย่างเห็นได้ชัดวันนี้เพื่อเป็นการนำไปสู่ข้อตกลงหยุดยิง” ทำเนียบขาวอ่านคำแถลง
ซึ่งในแถลงการณ์ที่ออกมาหลังจากการหารือร่วมกัน เนทันยาฮูกล่าวกับไบเดนว่า “เขายังคงมุ่งมั่นต่อไปในปฎิบัติการนี้จนกว่าเป้าหมายจะบรรลุในการมาซึ่งความสงบและความมั่นคงต่อประชาชนของอิสราเอล” อ้างอิงจากหนังสือพิมพ์เยรูซาเลมโพสต์และสื่อยิวอื่นๆ
ขณะเดียวกันที่กรุงเทลอาวีฟ นายกฯเนทันยาฮูได้แถลงสั้นๆต่อบรรดานักการทูตต่างชาติและเอกอัครราชทูตชาติต่างๆต่อสถานการณ์ความรุนแรงที่เลวร้ายลง และยังคงกล่าวซ้ำประโยคเดิมๆที่อ้างว่ากองทัพ IDF ของอิสราเอลมีเป้าหมายกลุ่มคนที่โจมตีเราด้วยความแม่นยำมากกว่าจากพวกเรา
นอกจากนี้เนทันยาฮูยังชี้ว่า กลุ่มฮามาสได้ฝังตัวในเขตพื้นที่อาศัยของพลเรือนด้วยต้องการใช้ชีวิตคนเหล่านี้เป็นโล่มนุษย์ เขากล่าวอีกว่าไม่มีกองทัพใดในโลกที่จะทำได้มากกว่านี้อีกแล้วในด้านความมั่นคง ด้านข่าวกรองเพื่อป้องกันอันตรายมหันต์ที่อาจจะเกิดขึ้น
สื่อสหรัฐฯชี้ว่า ตัวแทนนักการทูตที่เข้าร่วมรับฟังมาจากสหรัฐฯ สหภาพยุโรป รวมไปถึงเอกอัครราชทูตรัสเซีย จีน อินเดีย เยอรมัน ออสเตรีย ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น บราซิล แคนาดา และอิตาลี อ้างอิงจากกระทรวงต่างประเทศอิสราเอล
อ้างอิงจากฟ็อกซ์นิวส์ของสหรัฐฯ ซึ่งถึงแม้ว่าไบเดนจะแสดงออกด้วยการกล่าวสนับสนุนให้มีข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสรวมไปถึงการพูดคุยกับผู้นำอิสราเอลให้ลดระดับความรุนแรงลง แต่ทว่าฝ่ายหัวก้าวหน้าภายในพรรคเดโมแครตที่นำโดยสว.เบอร์นี แซนเดอร์ส และส.สรัฐนิวยอร์ก อเล็กซานเดรีย โอคาซิโอ คอร์เทซ ยังเห็นว่ายังไม่มากพอ และชี้ว่าถึงแม้ไบเดนจะกล่าวตำหนิความรุนแรงที่เกิดขึ้นแต่ยังปกป้องเทลอาวีฟว่า “มีสิทธิ์ในการป้องกันตัวเอง” ทำให้ในเวลานี้ปัญหาอิสราเอลทำให้เกิดความคุกรุ่นขึ้นภายในพรรคเดโมแครต
ล่าสุดวานนี้(19)อเล็กซานเดรีย โอคาซิโอ คอร์เทซ หรือ AOC ได้เคลื่อนไหวเป็นหัวหอกในการยื่นเรื่องต่อสภาเพื่อขวางการขายอาวุธนำวิถีมูลค่า 735 ล้านดอลลาร์จากรัฐบาลไบเดนให้กับอิสราเอล
บิสซิเนสอินไซเดอร์รายงานว่า การอนุมัติเกิดขึ้นก่อนปัญหาความขัดแย้งในตะวันออกกลางจะเริ่มขึ้น โดยเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวได้แจ้งต่อสภาคองเกรสถึงข้อตกลงในวันที่ 5 พ.ค
โดยในมติร่วม AOC กล่าวประณามรัฐบาลสหรัฐฯว่า สหรัฐฯได้ขายยุทโธปกรณ์ล้ำสมัยมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ให้กับอิสราเอลมานานหลายสิบปี โดยที่ไม่เคยเรียกร้องให้อิสราเอลเคารพต่อสิทธิขั้นพื้นฐานของชาวปาเลสไตน์ และในการกระทำเช่นนั้น ส.ส นิวยอร์กชี้ว่า สหรัฐฯได้ส่งผลโดยตรงต่อการเสียชีวิต การไร้ที่อยู่ และการไร้ซึ่งสิทธิต่อการออกเสียงทางการเมืองของคนนับล้าน
เธอชี้ว่า ในการที่ประธานาธิบดีไบเดนออกมาสนับสนุนข้อตกลงหยุดยิง เรา(สหรัฐฯ)ไม่สมควรส่งอาวุธไปให้กับนายกรัฐมนตรีเนทันยาฮูเพื่อทำให้ความรุนแรงนี้ยืดเยื้อต่อไป