เอพี – ผู้มีชื่อเสียงในสังคมเกาหลีใต้นับตั้งแต่ผู้นำทางธุรกิจ บ.กหนังสือพิมพ์ไปจนถึงนักบวชที่เป็นที่ยอมรับในสังคมได้เขียนจดหมายยื่นไปยังประธานาธิบดีเกาหลีใต้ มุน แจ-อินเมื่อไม่นานมานี้ เพื่อร้องขอให้สั่งอภัยโทษแก่ทายาทซัมซุง ลี แจ-ยอง (Lee Jae-yong) ที่อยู่ในเรือนจำด้วยเหตุผลเพื่อช่วยการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ
เอพีรายงานวันนี้(18 พ.ค)ว่า ลี แจ-ยอง (Lee Jae-yong) ในเวลานี้กำลังอยู่ในเรือนจำได้นานเกือบ 4 เดือนแล้ว และมีไม่กี่คนคาดหวังว่าจะได้เห็นเขารับโทษสมบูรณ์ในเรือนจำไปจนถึงกรกฎาคม ปี 2022 แต่เป็นที่คาดการณ์ว่าประธานาธิบดีเกาหลีใต้อาจใช้อำนาจปล่อยตัวเขาเป็นอิสระจากเรือนจำในวันวิสาขบูชาซึ่งเป็นวันประสูติ ตรัสรู้และปรินิพพาน ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าซึ่งจะตรงกับวันพุธ(19)
ลีที่มีฉายาว่าทายาทซัมซุงถือเป็นผู้บริหารรายล่าสุดที่สั่งการทางธุรกิจผ่านหลังม่านลูกกรงเหล็กโดยมีผู้บริหารระดับสูงของซัมซุงเดินทางเข้ามาติดต่อในเรือนจำเพื่อขอการตัดสินใจเป็นระยะ
และเนื่องจากซัมซุงเป็นอาณาจักรธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดและอาจถึงขั้นครอบงำเกาหลีใต้ ทำให้การอยู่ในเรือนจำของลีนั้นสร้างผลกระทบให้กับอนาคตของซัมซุง ล่าสุดบรรดาผู้มีชื่อเสียงในสังคมเกาหลีใต้นับตั้งแต่ผู้นำทางธุรกิจ บ.กหนังสือพิมพ์ และพระที่มีชื่อเสียงโด่งดังต่างเขียนไปยังประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ขอให้ปล่อยตัวลี แจ-ยองออกมาจากเรือนจำด้วยสาเหตุความจำเป็นทางด้านเศรษฐกิจเนื่องมาจากเศรษฐกิจเกาหลีใต้พึ่งพาการส่งออกของซัมซุงเป็นอย่างมหาศาล
คนเหล่านี้วิตกไปถึงผลกระทบต่อการพัฒนาของบริษัทไฮเทคแดนกิมจิที่จะเป็นอุปสรรคในด้านความสามารถเชิงการแข่งขันในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีชั้นสูงที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
นอกเหนือโอกาสในวันวิสาขบูชาแล้ว พบว่าเกาหลีใต้ยังมีวันประกาศอิสรภาพในเดือนสิงหาคมซึ่งเป็นการเฉลิมฉลองที่เกาหลีสามารถเป็นอิสระจากจักรวรรดิญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้สำเร็จ และบรรดาประธานาธิบดีเกาหลีใต้มักใช้โอกาสนี้ในการอภัยโทษบรรดาผู้มีชื่อเสียงหรือนักธุรกิจคนสำคัญ
ด้านสำนักงานประธานาธิบดีเกาหลีใต้แถลงว่า มุนจะพิจารณาทั้งในแง่การแข่งขันอย่างดุเดือนในตลาดเซมิคอนดักเตอร์และในแง่ความรู้สึกสาธารณชนเกี่ยวกับความยุติธรรมก่อนที่จะตัดสินใจว่าจะอภัยโทษลีหรือไม่
ด้านยุทธศาสตร์ และยังตัดสินใจเกี่ยวข้องกับการเติบโตในอนาคตผ่านวิสัยทัศน์ของเขาและเครือข่ายผู้นำธุรกิจระดับโลก แต่บริษัทซัมซุงปฎิเสธที่จะแสดงความเห็นไปถึงกระแสเรียกร้องให้อภัยโทษลี พร้อมกันนี้ยังปฎิเสธที่จะเปิดเผยว่ามีเจ้าหน้าที่บริษัทเดินทางไปเยี่ยมลีบ่อยครั้งมากเพียงใด
ทั้งนี้ไม่กี่เดือนที่ผ่านมาผ่านมามุนพยายามเลี่ยงประเด็นการอภัยโทษจากการที่เขาเข้าสู่อำนาจด้วยการออกนโยบายประกาศที่จะจำกัดอำนาจพวกแชโบล(chaebol)ที่มีอำนาจในการควบคุมกิจการขนาดใหญ่ในเกาหลีใต้ ซึ่งมีกระแสเรียกร้องกดดันให้ปล่อยทายาทซัมซุงแสดงให้เห็นถึงอิทธิพลของบริษัทซัมซุงต่อเกาหลีใต้ได้เป็นอย่างดี