แชร์รอยยิ้มอิ่มไปทั่วอินเทอร์เน็ตผ่านคลิปคุณแม่กอริลลาและหม่ามี้คนสวย คุยทิพย์นุ่มนวลกันกว่า 5 นาที ด้วยว่าคุณแม่คิคี่ (Kiki) หลงใหลชื่นชมน้องแคนเยียน (Canyon) ของหม่ามี้เอ็มเมลินา ออสติน เป็นที่สุด โดยตลอดหลายนาทีแห่งความสุขนั้น คิคี่เพลิดเพลินเฝ้ามองน้องแคนเยียน ด้วยสายตาเปี่ยมรัก และประหนึ่งว่าจะลูบศีรษะกลมทุยน่าหอมของน้องให้ชื่นใจ คิคี่ใช้นิ้วแตะบนกำแพงกระจกใสที่กั้นระหว่างแคนเยียนกับเขตบ้านของเธอ ในสวนสัตว์แฟรงคลิน ปาร์ก ซู
นี่คงเป็นสายใจพิเศษระหว่างสัตว์โลกสองสปีชีที่มีดีเอ็นเอร่วมกันราว 97% - 98% แต่มีพลังแห่งความเป็นแม่ลึกซึ้งระนาบเดียวกันกัน กระนั้นก็ตาม นี่มิใช่เรื่องปกติที่จะได้พบเห็นกันทุกวัน ในการที่คุณแม่กอริลลาจะสมัครใจมานั่งเล่นแนบชิดกับหม่ามี้มนุษย์และทารกตัวน้อย ซึ่งไม่เคยรู้จักพบพานกันมาก่อน
ความมหัศจรรย์ดังกล่าวได้ปรากฏให้เห็นกันทั่วโลกอินเทอร์เน็ตแล้วในคลิปวิดีโอยอดนิยมชวนให้ดวงใจละลาย
“เป็นช่วงเวลาที่อ่อนหวานน่าประทับใจอย่างยิ่งค่ะ” สาวเอ็มเมลินาเล่าไว้ในภาพยนตร์ข่าวของสถานีโทรทัศน์นิวส์ เซนเตอร์ เมน (News Center Maine) เครือข่ายของสื่อมวลชนค่ายยักษ์เอ็นบีซีในรัฐเมน ทางตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐอเมริกา
“เกือบห้านาทีเลยค่ะที่เธอนั่งแนบชิดกำแพงใส เฝ้ามองแคนเยียนอย่างรักใคร่” คุณแม่คนสวยจากเมืองเจฟเฟอร์สัน รัฐเมน เล่าประสบการณ์สุดมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นเมื่อสุดสัปดาห์แรกของเดือนพฤษภาคม 2021
คิคี่มองน้องแคนเยียนอย่างรักใคร่ เอ็มเมลินาก็เอ่ยเชิญชวนให้คิคี่เดินมาคุยกัน
เรื่องราวสายใยดวงใจน่ารักระหว่างคิคี่ คุณแม่กอริลลาลูกห้า กับ เอ็มเมลินา คุณแม่ป้ายแดง เริ่มเมื่อเอ็มเมลินากับสามี คือ ไมเคิล ออสติน อุ้มหนูน้อยแคนเยียนวัย 5 เดือน ไปเที่ยวสวนสัตว์แฟรงคลิน ปาร์ก ในเมืองบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ และที่หน้ากรงกอริลลาซึ่งกั้นด้วยกำแพงกระจกใสนั้น เอ็มเมลินารู้สึกได้ว่าถูกแม่ลิงกอริลลาเฝ้ามองออกมาจากถ้ำ
“ดิฉันรู้สึกประมาณว่าเธอมองน้องแคนเยียนน่ะค่ะ” เอ็มเมลินาเล่าอย่างนั้น และบอกว่าเธอจึงเดินเข้าไปนั่งข้างกำแพงกระจกพลางอุ้มลูกขึ้นมาให้คิคี่เห็นชัดๆ และชวนคุย
“นี่ไง ลูกฉัน แหม คงจะดีมากเลยถ้าเธอเข้ามาดูแคนเยียนใกล้ๆ” เอ็มเมลินาเล่า และบอกว่าได้พูดอย่างนี้ออกไปหลายหนโดยไม่ได้คาดคิดอะไร แล้ว คิคี่ คุณแม่มือเก๋า ณ วัย 39 ปี ก็เดินเข้ามาหาจริงๆ มานั่งประชิดกำแพงใส พินิจมองน้องแคนเยียนอย่างไม่ยอมคลาดสายตา
หลังจากนั้น บรรยากาศระหว่างเอ็มเมลินากับคิคี่ ละม้ายสองคุณแม่นั่งคุยมุ้งมิ้งด้วยท่วงท่า สัญลักษณ์ และภาษาใจ โดยมีระยะห่างกั้นกลางเพียงไม่กี่เซนติเมตร
“เธอคุยด้วยสองมือและสายตาน่ะครับ” ปะป๊าไมเคิลเล่าถึงคิคี่อย่างนั้น ขณะให้สัมภาษณ์แก่เว็บไซต์เดอะโดโด้ดอทคอม (thedodo.com)”
เป็นเรื่องมหัศจรรย์ที่กอริลลาหลงใหลในทารกมนุษย์ ดั่งคุณป้าหลงหลานคนโปรด
หลายนาทีต่อมา อาจจะเป็นหนึ่งในท็อปเทนแห่งห้วงเวลาความสุขสุดๆของคิคี่ เธอดูละม้ายคุณป้าผู้เมตตาใจดีที่เพลินกับการแสดงความรักต่อหลานชายคนโปรด นอกจากจะเฝ้ามองน้องแคนเยียนอย่างรักใคร่แล้ว คิคี่ยังแนบใบหน้ากับกำแพงใสเพื่อให้มองเห็นน้องได้ใกล้ชิด บางคราวเธอแตะนิ้วมือใกล้ตำแหน่งของใบหน้าน้องราวกับอยากจะจับแก้มนุ่มๆ ผ่านบานกระจก บางคราวก็แตะที่ใกล้นิ้วเล็กๆ ของน้องดั่งคุณป้าเล่นเกี่ยวก้อยกับหลานแบเบาะ และในหลายๆ ครั้ง คิคี่ใช้นิ้วชี้ชวนดูความไร้เดียงสาของแคนเนียนที่หลับสนิท
“ดิฉันรู้สึกดื้นตัน มันเป็นอะไรที่งดงามที่สุด คุณเห็นอารมณ์นั้นในดวงตาของเธอได้เลยค่ะ” เอ็มเมลินาเล่าอย่างปลื้มปริ่ม ด้านลูกน้อยวัย 7 เดือนของคิคี่ นามว่าพาโบล นึกสนใจและตามมาปีนขึ้นตักคุณแม่ คุณแม่คิคี่จึงอุ้มพาโบลให้มาดูน้องแคนเนียนด้วยกัน
“สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความรักค่ะ” เอ็มเมลินาพรรณนาความทรงจำแสนดี “เธออวดลูกให้ดูแบบว่า นี่ลูกชั้นจ้ะ”
“พาโบลแนบหน้าชิดกำแพงกระจก แล้วคิคี่กับพาโบลแนบชิดกันเฝ้ามองแคนเนียน เอ็มเมลินากับผมถึงกับน้ำตาซึมในความรักของแม่ลูกเค้า” ไมเคิลเล่าเสริม
ไมเคิลบอกกับเดอะโดโด้ด้วยว่า เอ็มเมลินาประทับใจในคิคี่และพาโบลตั้งแต่แรกเห็น
“ภรรยาผมเห็นคิคี่ดูแลพาโบลที่หน้าถ้ำกอริลลาแล้วเอ่ยว่า ตอนนี้เธอเป็นแม่แล้ว เธอรู้สึกเข้าใจความผูกพันของแม่ลูกกอริลลา และดูออกว่าคิคี่รักใคร่ใส่ใจกับพาโบลมากมายเพียงไร แล้วพอเอ็มเมลินาอุ้มน้องแคนเยียนให้คิคี่เห็นถนัดๆ สักพักนึง คิคี่จับพาโบลวางบนขา และพามานั่งเล่นกับพวกเรา” ไมเคิลเล่าเหตุการณ์นี้อย่างละเอียดจากมุมที่เขามองเห็น
หลายนาทีแห่งความรักของมารดาข้ามสปีชียุติลง เมื่อ คิทอมโบ ปะป๊ากอริลลา เดินสี่ขาไต่ขอบกำแพงกระจกใส มาเมียงมองห่างๆ ว่าสองสาวทำอะไรกัน คิคี่เดินกลับเข้าถ้ำ ส่วนเอ็มเมลินาก็อุ้มลูกลุกขึ้นมา
“ตอนที่ดิฉันเดินเข้าสวนสัตว์ในวันนั้น ดิฉันไม่คาดคิดเลยว่าจะได้รับประสบการณ์แสนดีอย่างนี้ เราเดินออกจากสวนสัตว์เหมือนเพิ่งกลับมาจากดวงจันทร์ค่ะ ผู้คนมากมายแวะทักเรา บอกเราว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับเราเป็นอะไรที่งดงามที่สุด เป็นอะไรที่จับใจที่สุดเลยค่ะ” เอ็มเมลินาซึ่งยังมีความสุขเต็มเปี่ยมเล่าทิ้งท้าย
คิคี่คือสุดยอดจอมคุณแม่ แต่มักจะปลื้มลูกมนุษย์
อันที่จริง นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่คิคี่แสดงความรักใคร่ในทารกน้อยของมนุษย์ ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอแห่งสวนสัตว์นิวอิงแลนด์ ซึ่งเป็นต้นสังกัดและบริหารดูแลแฟรงคลิน ปาร์ก บอกอย่างนั้นและเล่าว่า
“พวกเรามักจะขำๆ กันว่าถ้าสมมุติมีเด็กแบเบาะของใครตกเข้าไปในบ้านของคิคี่ เธอคงจะไม่ยอมคืนให้ง่ายๆ แน่เลย คิคี่มีความเป็นแม่สูงมากครับ” ซีอีโอจอห์น ไลน์ฮาน ให้สัมภาษณ์แก่เว็บไซต์ข่าวทูเดย์ แพเรนท์ส (Today Parents)
พาโบลเป็นลูกชายตัวเดียวของคิคี่ และเป็นตัวที่ 5 ตอนใกล้คลอดพาโบลนั้น แพทย์พบว่ามีปัญหาเรื่องรกเกาะต่ำ จึงต้องทำคลอดด้วยวิธีผ่าคลอด และต้องแยกให้คิคี่อยู่ตามลำพังเพื่อพักฟื้นสองวัน
หลังจากได้อุ้มพาโบลแล้ว คิคี่ผูกขาดพาโบลไว้แน่นแนบ แบบว่า 24 ชั่วโมงต่อวัน 7 วันต่อสัปดาห์ เป็นเวลาสองเดือนเต็ม ภายหลังจึงยอมให้พี่สาวทั้ง 4 ตัวของพาโบลได้อุ้มน้องบ้างครั้งละไม่เกินสองนาที
ส่วนกอริลลาตัวพ่อคือ คิทอมโบ ใจจะขาดอยากจะอุ้มลูกบ้าง แต่ไม่คิดจะฝืนใจภรรยาที่เคียงข้างกันมานานสิบกว่าปี
ซีอีโอจอห์น ไลน์ฮานให้ข้อมูลว่าคิคี่เป็นกอริลลาสายพันธุ์ตะวันตกจากแอฟริกากลาง โดยสวนสัตว์แฟรงคลินฯ ซึ่งอยู่ในสังกัดของสวนสัตว์นิวอิงแลนด์ เป็นหน่วยรับดูแลให้ เนื่องจากสวนสัตว์นิวอิงแลนด์เป็นพันธมิตรของโครงการ Species Survival Plan For Western Gorilla และช่วยส่งเสริมการขยายพันธุ์ของลิงกอริลลาแอฟริกันตะวันตกซึ่งใกล้จะสูญพันธุ์
โดย รัศมี มีเรื่องเล่า
(ที่มา: นิวส์เซนเตอร์เมน เดอะโดโด้ดอทคอม ทูเดย์แพร์เรนท์ส ยูทูป บอสตันโกลบดอทคอม)