รอยเตอร์ - กฎหมายสาบานตนเพื่อการรักชาติที่เพิ่งผ่านการอนุมัติจากสภานิติบัญญัติฮ่องกงวันนี้ (12 พ.ค.) กลายเป็นหนึ่งในบททดสอบต่อบรรดานักการเมืองปีกเรียกร้องประชาธิปไตยฮ่องกงที่จะเริ่มมีผลบังคับใช้ภายหลังในเดือนนี้
รอยเตอร์รายงานวันนี้ (12 พ.ค.) ว่า กฎหมายใหม่ที่เพิ่งผ่านการรับรองจากรัฐสภาฮ่องกงวันพุธ (12) ถูกมองอย่างกว้างขวางว่าจะเป็นเครื่องมือที่ใช้บีบบังคับนักการเมืองฮ่องกงฝ่ายค้านที่เรียกร้องประชาธิปไตยมากขึ้น โดยตัวบทของกฎหมายสาบานตนเพื่อการรักชาติได้ถูกขยายใช้ลงไปในระดับการเมืองสภาเขตที่ในเวลานี้ถูกควบคุมโดยกลุ่มโปรประชาธิปไตยฮ่องกงหลังจากการชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทะลายเมื่อพฤศจิกายนปี 2019
สถานีโทรทัศน์ฮ่องกงที่ใช้เงินของรัฐ RTHK รายงานว่า เมื่อไม่กี่เดือนมานี้มีสมาชิกสภาเขตไม่ต่ำกว่า 20 คนได้ลาออก และบางส่วนแสดงเหตุผลว่าไม่ต้องการเข้าสู่พิธีสาบานตน และส่วนอื่นๆ เนื่องมาจากปัญหาถูกจับหลังการถูกกวาดล้างอย่างหนักจากกฎหมายความมั่นคงใหม่ที่ถูกใช้ในเดือนมิถุนายนปีที่ผ่านมา
กฎหมายใหม่เปิดโอกาสให้รัฐมนตรียุติธรรมฮ่องกงสามารถมีอำนาจจัดการนักการเมืองคนใดก็ตามหรือเจ้าหน้าที่ฮ่องกงที่ละเมิดต่อคำสาบานตนภายใต้เงื่อนไขที่ถูกระบุอย่างกว้างขวางตั้งแต่การมีการกระทำที่ไม่รักชาติ และการดูหมิ่นธงชาติ และรวมไปถึงการกระทำที่เป็นอันตรายต่อความมั่นคงของชาติ
บุคคลที่ถูกกล่าวหาจะถูกสั่งยกเลิกการปฏิบัติหน้าที่ทันที และหลังการถูกลงโทษตามคำสั่งศาลจะต้องถูกสั่งให้ออกจากหน้าที่และห้ามการลงรับสมัครเลือกตั้งเป็นเวลา 5 ปี ซึ่งทั้งนักวิชาการ นักกฎหมาย และนักการทูตได้แสดงความวิตกกับรอยเตอร์ว่า พวกเขาวิตกว่าผู้พิพากษาที่มีความเป็นอิสระในฮ่องกงจะต้องตกอยู่ในกับดักจากการข้อความกำกวมของกฎหมาย
ทั้งนี้ รัฐบาลฮ่องกงได้ออกกฎหมายฉบับนี้ในเดือนกุมภาพันธ์ 1 วันหลังจากที่มีเจ้าหน้าที่ระดับสูง 1 คนในคณะรัฐมนตรีปักกิ่งกล่าวว่า กฎหมายสมควรที่จะมีขึ้นเพื่อทำให้มั่นใจว่าฮ่องกงจะถูกบริหารด้วยกลุ่มคนรักชาติเท่านั้น
ด้านรัฐมนตรีด้านกิจการรัฐธรรมนูญและจีนแผ่นดินใหญ่ของฮ่องกง อีริค ซ่าง (Erick Tsang) กล่าวในเวลานั้นว่า ทั้งเจ้าหน้าที่รัฐและนักการเมืองฮ่องกง “ไม่สามารถพูดได้ว่าคุณเป็นคนรักชาติแต่คุณไม่รักผู้นำของพรรคคอมมิวนิสต์จีนหรือคุณไม่มีความเคารพมัน นี่มันไม่มีเหตุผล”
และชี้ว่า “ความรักชาติคือความรักแบบองค์รวม”