เอเจนซีส์ – โคโลเนียล ไปป์ไลน์ บริษัทส่งแก๊สครัวเรือนสหรัฐฯถูกโจมตีทางไซเบอร์ ทำให้ 45% ของผู้บริโภคฝั่งตะวันออกไม่สามารถใช้ก๊าซในครัวเรือนได้ที่จำเป็นตั้งแต่ทำอาหารไปจนถึงน้ำอุ่นอาบในชีวิตประจำวัน แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่สหรัฐฯชี้ อาจเป็นฝีมือกลุ่มอาชญากรจากยุโรปตะวันออกชื่อ “ดาร์กไซด์” แต่ยังไม่ชัดว่ามีรัฐบาลต่างชาติอยู่เบื้องหลัง
เอบีซีนิวส์ สื่อสหรัฐฯรายงานวันนี้(10 พ.ค)ว่า โคโลเนียล ไปป์ไลน์ (Colonial Pipeline) บริษัทให้บริการส่งก๊าซตามท่อในครัวเรือน โคโลเนียล ไปป์ไลน์ ตั้งแต่เมืองฮุสตัน รัฐเทกซัส ไปจนถึงเมืองลินเดน ( Linden) รัฐนิวเจอร์ซีย์ ถูกโจมตีระบบเครืองข่ายของตัวเองตั้งแต่เวลา 19.00 น. ของวันศุกร์(7) อ้างอิงจากสำนักงานจัดการภาวะฉุกเฉินภัยส่วนกลาง FEMA (Federal Emergency Management Agency)
บริษัทโคโลเนียล ไปป์ไลน์กล่าวผ่านแถลงการณ์ว่า “เรารีบทำการปิดระบบบางส่วนเพื่อควบคุมภัยคุกคาม ซึ่งทำให้เกิดการปิดระบบท่อส่งก๊าซทั้งหมด และส่งผลกระทบต่อระบบทาง IT บางส่วนของพวกเรา”
และในแถลงการณ์ที่ประกาศเพิ่มเติมในวันเสาร์(8)ว่า การโจมตีทางคุกคาม "เรียกค่าไถ่ทางไซเบอร์" (Ransomware)
บริษัทได้ก๊าซพลังงานจากบริษัทโรงกลั่นน้ำมันที่ภูมิภาคทางชายฝั่งอ่าวทางใต้ไปจนถึงฝั่งทางตะวันออกของสหรัฐฯและทางใต้ของสหรัฐฯ และการขนส่งจำนวน 2.5 ล้านบาร์เรล/วันสำหรับก๊าซโซลีน เชื้อเพลิงดีเซล เชื้อเพลิงเครื่องบิน และผลิตภัณฑ์อื่นๆผ่านทางระบบท่อสายส่งความยาว 5,500 ไมล์ อ้างอิงจากโคโลเนียล ไปป์ไลน์
เอบีซีนิวส์ชี้ว่า ในเวลานี้ระบบท่อส่งก๊าซจะถูกปิดไปนานเท่าใด แต่การปิดระบบท่อสายส่งคาดจะส่งผลกระทบต่อระบบปฎิบัติการท่อส่งก๊าซอื่นๆ เป็นต้นว่าระบบท่อส่งทวิน โอ๊คส์และบัคกี( Buckeye and Twin Oaks Pipeline) ที่ให้บริการในบริเวณเมืองนิวยอร์ก ลองไอร์แลนด์ และรัฐเมน FEMA กล่าว
บริษัทก๊าซโคโลเนียล ไปป์ไลน์ ที่มีฐานอยู่ในเมืองอัลฟาเรตตา(Alpharetta) รัฐจอร์เจีย ชี้ว่าในเวลานี้ทางบริษัทได้ว่าจ้างบริษัทผู้เชี่ยวชาญทางไซเบอร์ให้มาสอบสวนลักษณะการโจมตีและขอบเขตความเสียหาย และอีกทั้งบริษัทได้ติดต่อเจ้าหน้าที่รักษากฎหมายและสำนักงานรัฐบาลกลางที่เกี่ยวข้อง
อย่างไรก็ตามบริษัทยืนยันว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดเฉพาะหน้าในเวลานี้คือการทำให้การส่งก๊าซตามท่อสายส่งกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง
ด้านทำเนียบขาวออกแถลงการณ์ว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน รับรู้ถึงเหตุการณ์โจมตีมัลแวร์เรียกค่าไถ่ทางไซเบอร์จากรายงานสรุปแล้ว
และการสอบสวนการโจมตีทางไซเบอร์ สำนักงาน FBI สหรัฐฯแถลงทำงานร่วมกับบริษัทก๊าซโคโรเนียล ไปป์ไลน์ จากแถลงการณ์มีใจความว่า “FBI ได้รับแจ้งว่ามีการติดขัดทางระบบท่อสายส่งของบริษัทโคโลเนียล ไปป์ไลน์ในวันที่ 7 พ.ค 2021 และทางสำนักงานได้ทำงานใกล้ชิดกับบริษัทและหน่วยงานรัฐอื่นๆ” แต่ FBI แถลงว่าในเวลานี้หน่วยงานยังไม่มีข้อมูลชี้แจ้งเพิ่มเติมเกี่ยวกับมัลแวร์เรียกค่าไถ่
การสอบสวนเบื้องต้นบ่งชี้ว่า การโจมตีมาจากกลุ่มอชาญากรที่เรียกว่า ดาร์กไซด์ (DarkSide) ปฎิบัติการจากยุโรปตะวันออก อ้างอิงจากแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ 2 คนที่รู้ในเรื่องนี้ และการสอบสวนของรัฐบาลกลางสหรัฐฯกำลังต้องการสืบทราบว่า มีรัฐบาลชาติใดอยู่เบื้องหลังการโจมตีทางไซเบอร์ต่อสหรัฐฯหรือไม่ หรือเป็นการร่วมกันทำงานกับองค์กรอาชญากรข้ามชาติ
บริษัทผู้เชี่ยวชาญทางไซเบอร์สหรัฐฯ ไซเบอร์ซีคิวริตี เฟิร์ม ไฟร์เออราย (Cybersecurity firm Fireye)ออกมายืนยันกับทางสื่อสหรัฐฯว่า กำลังอยู่ในระหว่างการให้ความช่วยเหลือโคโลเนียล ไปป์เกี่ยวกับระบบหลังถูกภัยมัลแวร์ค่าไถ่โจมตี
นอกจากนี้หน่วยงานกำกับภายใต้กระทรวงคมนาคมสหรัฐฯได้สั่งยกเลิกกฎไว้ชั่วคราวสำหรับพนักงานขับรถบรรทุกเทรลเลอร์ส่งพลังงานเชื้อเพลิงก๊าซโซลีน น้ำมันเชื้อเพลิงเบนซีน พลังงานเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องบิน และผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมในรัฐที่ได้ผลกระทบจากระบบสายส่งท่อส่งก๊าซปิด
ทั้งนี้ปีที่ผ่านมา ไซเบอร์ซีคิวริตี เฟิร์ม ไฟร์เออราย เป็นผู้ค้นพบการโจมตีทางไซเบอร์ผ่านโซลาร์ วินด์ (SolarWinds hack) กระทบสำนักงานรัฐ 9 แห่ง