xs
xsm
sm
md
lg

ฮือฮา! รัสเซียสร้างวัคซีนโควิด-19 แบบเข็มเดียวประสิทธิภาพสูงกว่าของสหรัฐฯ “EU-ปูติน” เห็นด้วยยกเลิกปกป้องสิทธิบัตรวัคซีน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอเอฟพี/รอยเตอร์/เอเจนซีส์ - EU และประธานาธิบดีรัสเซียเมื่อวานนี้ (6 พ.ค.) ออกมาสนับสนุนแนวความคิดผู้นำสหรัฐฯ ที่ต้องการให้มีการยกเลิกการปกป้องสิทธิบัตรวัคซีนโควิด-19 เพื่อกระตุ้นการผลิตเพิ่มจำนวน ขณะที่รัสเซียได้อนุมัติการใช้วัคซีนโควิด-19 แบบเข็มเดียวอยู่เหมือนของบริษัทจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน “สปุตนิก ไลต์” แถมมีประสิทธิภาพ 79% สูงกว่า J&J

เอเอฟพีรายงานวันนี้ (7 พ.ค.) ว่า กระแสเสียงออกมาสนับสนุนการยกเลิกการปกป้องสิทธิบัตรวัคซีนโควิด-19 ที่เกิดขึ้นหลังผู้นำสหรัฐฯ ออกมาเรียกร้องก่อนหน้า โดยล่าสุดวันพฤหัสบดี (6) ทั้งประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน และประธานคณะกรรมาธิการสหภาพยุโรป อัวร์ซูลา ฟ็อน แดร์ ไลเอิน (Ursula von der Leyen) ออกมาส่งเสียงสนับสนุน

โดยเธอกล่าวในรายงานของรอยเตอร์ว่า “ทาง EU มีความพร้อมที่จะหารือขอเสนอใดๆ ก็ตามที่จะมาแก้ปัญหาวิกฤตการระบาดอย่างมีประสิทธิภาพและมีความเป็นไปได้ในทางปฏิบัติ” และเสริมต่อว่า “และดังนั้นแล้วทางเรามีความพร้อมในการหารือต่อข้อเสนอของทางสหรัฐฯ สำหรับการยกเลิกการปกป้องสิทธิบัตรทางปัญญาวัคซีนโควิด-19 ซึ่งสามารถช่วยให้บรรลุได้”

ส่วนประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอมมานูแอล มาครง แสดงความเห็นด้วยต่อการเปิดกว้างทางสิทธิบัตรวัคซีนโควิด-19 อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่รัฐบาลฝรั่งเศสออกมาแสดงความเห็นกับรอยเตอร์ว่า “ผมขอเตือนความทรงจำพวกคุณว่า เป็นสหรัฐฯ ที่ไม่เคยส่งออกวัคซีนแม้แต่โดสเดียว แต่ในเวลานี้กลับกำลังกล่าวถึงการยกเลิกสิทธิบัตร”

เอเอฟพีรายงานว่า วันพฤหัสบดี (7) รัสเซียได้ทำการอนุมัติการใช้วัคซีนโควิด-19 สปุตนิก ไลต์ (Sputnik Light) ซึ่งถูกพัฒนาโดยสถาบัยวิจัยกามาเลยา (Gamaleya) ของรัสเซียร่วมกับกองทุนทางตรงรัสเซีย RDIF (Russian Direct Investment Fund) ที่เป็นผู้ให้เงินสนับสนุน

พบว่าวัคซีนสปุตนิก ไลต์แสดงประสิทธิภาพการรักษาสูงถึง 79.4% มากกว่าเมื่อเทียบกับวัคซีนจอห์นสันแอนด์จอห์นสันของสหรัฐฯ ที่มีประสิทธิภาพโดยเฉลี่ย 66% แต่มีประสิทธิภาพในการรักษาผู้ป่วยที่มีโรคเรื้อรังและผู้ป่วยวิกฤตและเทียบกับวัคซีนสปุตนิก วี จำนวน 2 โดสของเดิมที่มีประสิทธิภาพการรักษาที่  91.6%

วัคซีนโควิด-19 ของรัสเซียถูกอนุมัติใช้ในกว่า 60 ประเทศทั่วโลก แต่ยังไม่ได้รับอนุญาตโดยองค์การยายุโรป EMA (European Medicines Agency) และองค์การอาหารและยา FDA

ในการหารือร่วมกันระหว่างประธานาธิบดีปูติน กับรองนายกรัฐมนตรี ทาเทียนา โกลิโควา (Tatiana Golikova) ทางโทรทัศน์ เขากล่าวแสดงความเห็นถึงการยกเลิกการปกป้องสิทธิบัตรโควิด-19 ว่า “เราได้ยินจากยุโรปถึงแนวความคิดนั้น ซึ่งในทัศนะของผมคิดว่าสมควรที่จะได้รับการพิจารณาในการยกเลิกการปกป้องสิทธิบัตรวัคซีนโควิด-19” และยืนยันว่า “รัสเซียแน่นอนที่สุดสนับสนุนแนวทางนั้น” พร้อมกับกระตุ้นให้โกลิโควาจัดการในด้านการขนส่ง

เขาชี้อีกว่า “จากการที่ผมได้เคยกล่าวมาแล้วหลายครั้งว่า..เราไม่สมควรคิดถึงการที่จะสามารถทำกำไรได้สูงสุด แต่เป็นการต้องการทำให้สามารถช่วยชีวิตคนได้มากที่สุด”

ปูตินย้ำว่า วัคซีนสปุตนิก วีเมื่อเทียบกับวัคซีนของโลกตะวันตกแล้ว วัคซีนโควิด-19 รัสเซียนั้นเรียบง่ายและเป็นหลักประกันเหมือนปืนไรเฟิลคาลาชนิคอฟ

ทั้งนี้ สถาบันกามาเลยาแถลงวันพฤหัสบดี (6) ว่า ทั่วโลกได้รับวัคซีนโดสแรกของรัสเซียจำนวนกว่า 20 ล้านคน

รอยเตอร์รายงานว่า ด้านรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ แอนโทนี บลิงเกน แถลงวานนี้ (6) ว่า “สิ่งสำคัญคือพวกเราต้องทำให้เรื่องนี้เกิดขึ้น” และเสริมต่อว่า “พวกเราจะไม่มีวันที่จะปลอดภัยได้อย่างแท้จริง...จนกว่าที่พวกเราสามารถทำให้คนมากที่สุดได้รับภูมิคุ้มกันแล้ว”

และเขากล่าวอีกว่า “การยกเลิกการปกป้องทางสิทธิบัตรเป็นอีกหนึ่งหนทางที่เป็นไปได้ในการเพิ่มจำนวนการผลิตและการเข้าถึงวัคซีน” ท่ามกลางข่าวการปฏิเสธจากทำเนียบขาวถึงการแตกแยกทางความคิดเกี่ยวกับสิทธิบัตรวัคซีนที่มีบริษัทยายักษ์ใหญ่สหรัฐฯ ถึง 3 บริษัทได้ผลประโยชน์จากการปกป้องสิทธิบัตร

ก่อนหน้าในวันอังคาร (4) บริษัทยาไฟเซอร์ออกมาคาดการณ์รายได้ตัวเลขการขายวัคซีนโควิด-19 ของตัวเองสำหรับปีนี้ที่จะสูงถึง 26 พันล้านดอลลาร์ และเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดในโลกสำหรับอุตสาหกรรมยา เป็นการเพิ่มขึ้นของรายได้ 45% จากปีที่ผ่านมา อ้างอิงจากเอเอฟพี

โดยทางบริษัทที่พัฒนาวัคซีนโควิด-19 ร่วมกับบริษัทยาเยอรมันไบออนเทคต้องการให้วัคซีนโควิด-19 เป็นตัวทำรายได้ในระยะยาวให้ทางบริษัท

ซีอีโอใหญ่ไฟเซอร์ อัลเบิร์ต บัวร์ลา (Albert Bourla) ชี้ว่า บริษัทคาดถึงความต้องการคงที่สำหรับวัคซีนโควิด-19 คล้ายกับความต้องการวัคซีนไข้หวัดที่ประชาชนจำเป็นต้องได้รับทุกปี

“มันเป็นความคาดหวังของเรา วัคซีนไฟเซอร์-ไบออนเทคจะยังคงมีผลกระทบระดับโลกในการช่วยทำให้การระบาดอยู่ในการควบคุม และไม่แค่ช่วยให้เศรษฐกิจโลกกลับมาเปิดอีกครั้งแต่ยังคงเปิดอยู่ตลอดไป”

และจะทำให้วัคซีนของทางบริษัทยังคงเป็นผู้นำและเป็นผู้ได้รับผลประโยชน์








กำลังโหลดความคิดเห็น