ผู้หญิงชาวเอเชีย 2 คน ในวัย 60 ปีเศษๆ ถูกเล่นงานอย่างโหดเหี้ยมในบัลติมอร์ รัฐแมริแลนด์ สหรัฐฯ เมื่อวันอังคาร (4 พ.ค.) ที่ผ่านมา ถือเป็นเหตุอาชญากรรมป่าเถื่อนซึ่งมีเป้าหมายเป็นสตรีชาวเอเชียคดีที่ 3 ในช่วงเวลาห่างกันเพียงไม่กี่วัน
ตามรายงานของสำนักข่าวเอ็นบีซี ระบุว่า ชายผู้ก่อเหตุถูกจับกุม หลังลงมือใช้ก้อนอิฐทุบศีรษะเหยื่อ 2 คน อายุ 66 ปี และ 67 ปี อย่างป่าเถื่อน
รายงานข่าวระบุว่า เหยื่อทั้งสองเป็นพนักงานของร้านขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งหนึ่ง ซึ่งกำลังปิดร้านในตอนเช้าวันอังคาร (4 พ.ค.) แต่ระหว่างนั้น ดารีล โดลส์ ผู้ต้องสงสัยวัย 50 ปี บุกเข้ามาในร้านและเข้าเล่นงานพวกเธอ
ภาพจากกล้องวงจรปิดที่เผยแพร่โดยสื่อมวลชน พบเห็นชายคนดังกล่าวใช้ก้อนอิฐเป็นอาวุธ กอดรัดฟัดเหี่ยงต่อสู้กับพนักงานคนหนึ่ง จนล้มไปนอนกองกับพื้นทั้งคู่ และคนร้ายก็ใช้อิฐทุบเข้าที่ศีรษะของเธอ
ระหว่างนั้นพนักงานอีกคนรุดเข้ามาช่วยเหลือ ต่อสู้กับคนร้าย จนเขาเซถลาไปที่ประตูทางเข้าร้าน คนร้ายตั้งท่าจะทุบตีเธอ แต่ระหว่างนั้นพนักงานที่ถูกทำร้ายรายแรกพุ่งเข้ามาขัดขวาง แต่กลับเป็นเธอที่ถูกคนร้ายใช้อิฐทุบศีรษะรัวๆ อย่างไม่ปรานี
ในช่วงต้นของการเกิดเหตุนั้นมีผู้ชายคนหนึ่งอยู่ในร้านด้วย แต่เขากลับยืนดูเฉยๆ ก่อนเดินออกจากร้านไปโดยไม่แยแสต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้า
รายงานข่าวระบุว่า โดลส์ ถูกตั้งข้อหาทำร้ายร่างกายจนได้รับอันตรายสาหัส แต่ไม่เป็นที่ชัดเจนว่าตำรวจกำลังพิจารณาแจ้งข้อหาก่ออาชญากรรมจากความเกลียดชังหรือไม่
ภาพของเหยื่อทั้งสองคนในสภาพที่ได้รับบาดเจ็บหนักถูกเผยแพร่บนเพจ GoFundMe และญาติเปิดเผยว่าเหยื่อรายหนึ่งต้องเย็บบริเวณศีรษะถึง 25 เข็ม ขณะที่ทางเพจเผยว่าจนถึงค่ำคืนวันพุธ (5 พ.ค.) ระดมเงินบริจาคสำหรับเป็นค่ารักษาพยาบาลพวกเธอได้เกือบ 68,000 ดอลลาร์
Robert Hur ทนายความของเหยื่อ อดีตอัยการสหรัฐฯและหัวหน้าทีมงานเฉพาะกิจต่อต้านอาชญากรรมจากความเกลียดชังของแมริแลนด์บอกกับเอ็นบีซี ว่า “ผมร้องขอทุกคนให้ทำทุกอย่างเท่าที่เราสามารถทำได้ เพิ่มความตระหนักรู้และส่งเสียงต่อต้านความมีอคติ ความเกลียดชังและความรุนแรง ที่เกิดขึ้นกับสมาชิกในเมืองและในชุมชนของเรา ในนั้นรวมถึงคนอเมริกันเชื้อสายเอเชีย”
ในวันเดียวกันนั้น ยังเกิดเหตุผู้หญิงเอเชีย 2 คน ถูกแทงในเหตุโจมตีไม่เลือกหน้าบริเวณป้ายรถเมล์แห่งหนึ่งในซานฟรานซิโก หลังจากก่อนหน้านี้ เมื่อวันอาทิตย์ (2 พ.ค.) สตรีเอเชียรายหนึ่งถูกคนร้ายใช้ค้อนทุบเข้าที่ศีรษะบริเวณไทม์ส สแควร์ และจนถึงตอนนี้ผู้หญิงที่ก่อเหตุยังคงหลบหนีอยู่
ตำรวจโยงเหตุโจมตีต่อต้านคนเอเชียที่เพิ่มขึ้นอย่างมากทั่วสหรัฐฯ กับความมีอคติอันสืบเนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคระบาดใหญ่ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
(ที่มา: นิวยอร์กโพสต์)
