อินเดียยังคงพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นกว่า 360,000 คนในรอบ 24 ชั่วโมงวันนี้ (3 พ.ค.) นับเป็นสถิติผู้ป่วยรายวันเกิน 3 แสนต่อเนื่องเป็นวันที่ 12 ทำให้ยอดป่วยสะสมแดนภารตะใกล้ทะลุ 20 ล้านคน ขณะที่ยอดตายเพิ่มขึ้นอีก 3,417 ศพ
กระทรวงสาธารณสุขอินเดียแถลงตัวเลขผู้ป่วยใหม่วันนี้ 368,147 คนรวมยอดติดเชื้อสะสมในประเทศ 19.93 ล้านคน ในจำนวนนี้เสียชีวิตแล้ว 218,959 คน ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขเตือนว่า ตัวเลขคนป่วย-ตายที่แท้จริงในอินเดียอาจสูงกว่านี้ถึง 10 เท่า
ขณะนี้มีอย่างน้อย 11 รัฐและดินแดนสหภาพของอินเดียที่นำข้อจำกัดบางอย่างมาใช้เพื่อลดจำนวนผู้ติดเชื้อ ขณะที่รัฐบาลกลางของนายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี ยังคงลังเลที่จะประกาศล็อกดาวน์ทั่วประเทศ ซึ่งจะส่งผลกระทบรุนแรงต่อระบบเศรษฐกิจ
พรหมา มุเคอร์จี นักระบาดวิทยาจากมหาวิทยาลัยมิชิแกน ให้ความเห็นผ่านทวิตเตอร์ว่า “ในความคิดผม มีเพียงคำสั่งให้ประชาชนอยู่บ้าน และประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทางการแพทย์เท่านั้นที่จะช่วยให้ตอบสนองความจำเป็นด้านสาธารณสุขในเวลานี้ได้”
“จำนวนผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างรักษา (active cases) ก็กำลังพอกพูนขึ้นเรื่อยๆ ไม่ใช่แค่ผู้ติดเชื้อใหม่รายวันเท่านั้น แค่ตัวเลขที่รัฐยืนยันก็มากถึง 3.5 ล้านคนแล้ว”
สถานการณ์โควิด-19 ระลอกสองนี้ถือเป็นวิกฤตหนักที่สุดของอินเดียนับตั้งแต่ โมดี เข้าบริหารประเทศเมื่อปี 2014 โดยผู้นำอินเดียถูกวิจารณ์ว่าไม่รีบออกมาตรการป้องกันแต่เนิ่นๆ และยังปล่อยให้คนอินเดียนับล้านๆ เข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาโดยไม่มีการสวมหน้ากากหรือเว้นระยะห่าง ทั้งยังอนุญาตให้พรรคการเมืองต่างๆ จัดกิจกรรมหาเสียงเลือกตั้งที่มีการรวมคนเป็นพันๆ ในช่วงระหว่างเดือน มี.ค.-เม.ย.
นักวิทยาศาสตร์ 5 คนเปิดเผยกับรอยเตอร์ว่า คณะที่ปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์ของรัฐบาลอินเดียเคยแจ้งเตือนเจ้าหน้าที่ตั้งแต่ช่วงต้นเดือน มี.ค. ว่า พบเชื้อโควิด-19 กลายพันธุ์ตัวใหม่ที่ติดต่อได้ง่ายกำลังในประเทศ แต่ถึงแม้จะรับรู้ รัฐบาลอินเดียกลับไม่คิดที่จะออกข้อจำกัดหรือมาตรการป้องกันใดๆ เพื่อหยุดการระบาดของไวรัสตัวนี้
ล่าสุด ผู้นำ 13 พรรคฝ่ายค้านได้ยื่นจดหมายเรียกร้องวานนี้ (2) ให้ โมดี ประกาศโครงการฉีดวัคซีนโควิด-19 ฟรีทั่วประเทศ และออกมาตรการควบคุมให้ออกซิเจนถูกจัดส่งไปยังโรงพยาบาลและหน่วยงานด้านสาธารณสุขเป็นอันดับแรก
อินเดียประกาศเริ่มฉีดวัคซีนให้แก่ประชากรวัยผู้ใหญ่ทั้งหมดตั้งแต่วันเสาร์ (1) ที่ผ่านมา ทว่าในความเป็นจริงหลายรัฐกลับต้องเลื่อนโครงการออกไปก่อน เนื่องจากไม่มีวัคซีนเพียงพอ ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขอ้างว่ารัฐต่างๆ ยังมีวัคซีนในสต็อกรวมกันประมาณ 10 ล้านโดส และจะมีมาเพิ่มอีก 2 ล้านโดสภายใน 3 วัน
แม้จะเป็นชาติผู้ผลิตวัคซีนรายใหญ่ที่สุดของโลก แต่อินเดียกลับไม่มีวัคซีนเพียงพอที่จะฉีดให้กับประชากรของตัวเอง และจนถึงขณะนี้ชาวอินเดียที่ได้รับวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 โดสมีจำนวนเพียงแค่ 9% จากทั้งหมด 1,400 ล้านคน
แผนการฉีดวัคซีนให้ได้เกิน 80 ล้านโดสต่อเดือนของอินเดียต้องประสบปัญหาขลุกขลัก เนื่องจากขาดแคลนวัตถุดิบในการผลิต อีกทั้งยังเกิดไฟไหม้ภายในโรงงานของสถาบันเซรุ่มแห่งอินเดียซึ่งเป็นศูนย์กลางการผลิตวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าเมื่อเดือน ม.ค.
ขณะเดียวกันก็มีรายงานการพบเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์อินเดียแล้วในอย่างน้อย 17 ประเทศ รวมถึงอังกฤษ, สวิตเซอร์แลนด์ และอิหร่าน ซึ่งทำให้รัฐบาลหลายชาติตัดสินใจปิดพรมแดนไม่รับผู้เดินทางจากอินเดีย
ที่มา: รอยเตอร์