เอเจนซีส์ – รัฐบาลประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน วันศุกร์(30 เม.ย)ออกคำสั่งยกเลิกการสร้างกำแพงเพิ่มเติมที่ใช้งบประมาณเพนตากอนในสมัยทรัมป์ให้กลับคืนสู่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯสำหรับการใช้จ่ายด้านอื่น เป็นการยุติโครงการอื้อฉาวของอดีตผู้นำสหรัฐฯที่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯและเม็กซิโกต้องถูกบั่นทอน
โพลิติโก สื่อสหรัฐฯรายงานวันศุกร์(30 เม.ย)ว่า กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯออกแถลงการณ์วันศุกร์(30)ระบุว่า รัฐบาลสหรัฐฯได้ออกคำสั่งยุติการสร้างกำแพงและโครงการอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับโครงการสร้างกำแพงทางใต้ของสหรัฐฯทั้งหมด
ทั้งนี้รัฐบาลของประธานาธิบดี โจ ไบเดน กำลังนำงบประมาณหลายพันล้านดอลลาร์ที่อดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ได้เคยนำออกมาเพื่อใช้ในโครงการก่อสร้างกำแพงกั้นทางใต้ระหว่างสหรัฐฯและเม็กซิโกซึ่งเป็นหนึ่งในโยบายหาเสียงหลักของทรัมป์ให้กลับคืนสู่เพนตากอนเพื่อที่ทางเพนตากอนจะนำงบเหล่านี้ไปใช้ในด้านอื่น
“กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ(DoD)กำลังจะใช้ทุกช่องทางที่เป็นไปได้ในการยกเลิกโครงการก่อสร้างกำแพงและเพื่อการประสานงานระหว่างหน่วยงานต่างๆที่เป็นพันธมิตร” โฆษกเพนตากอน จามาล บราวน์ ( Jamal Brown)กล่าว และเสริมต่อว่า “ความเคลื่อนไหวในวันนี้สะท้อนให้เห็นถึงพันธสัญญาที่ยังคงให้ไว้ในการป้องกันประเทศของพวกเราและสนับสนุนเจ้าหน้าที่ในเครื่องแบบและครอบครัวของคนเหล่านั้น”
โพลิติโกชี้ว่า ไบเดนที่มาจากพรรคเดโมแครตได้สั่งยกเลิกการก่อสร้างกำแพงกั้นพรมแดนที่กำลังดำเนินอยู่ด้วยการแช่แข็งงบประมาณสำหรับการก่อสร้างพร้อมกับสั่งยกเลิกคำประกาศฉุกเฉินความมั่นคงแห่งชาติตลอดแนวพรมแดนของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์จากพรรครีพับลิกัน
ความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นวันศุกร์(30 เม.ย) เป็นหนึ่งในมาตรการของไบเดนที่จะทำให้มั่นใจว่าโครงการสร้างกำแพงจะถูกยกเลิกและนำงบเหล่านี้ไปให้กับโครงการก่อสร้างอื่นแทนของกองทัพสหรัฐฯ อ้างอิงจากบราวน์
เอบีซีนิวส์รายงานจากข้อมูลของแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่สหรัฐฯที่เปิดเผยในวันศุกร์(30 เม.ย)ระบุว่า “โครงการก่อสร้างกำแพงภายใต้รัฐบาลสหรัฐฯชุดก่อนหน้านั้นต้องใช้เงินภาษีมากกว่า 14 พันล้านดอลลาร์ เป็นการโกงกองทัพของพวกเรา และหันเหความสนใจจากการคุกคามทางความมั่นคงที่แท้จริง เป็นต้นว่า กระบวนการลักลอบการค้ามนุษย์ และการเร่งรัดการก่อสร้างกำแพงอย่างไม่เป็นระบบยังส่งผลร้ายต่อชีวิต ความปลอดภัยและปัญหาทางด้านระบบสิ่งแวดล้อม”
เอบีซีนิวส์ชี้ว่า รัฐบาลไบเดนประกาศที่จะผุดโครงการใหม่ 2 โครงการตลอดแนวพรมแดนสหรัฐฯ-เม็กซิโกระยะทาง 1,900 ไมล์
ซึ่งโครงการแรกเป็นโครงการเติมเต็มช่องว่างของระบบคันเขื่อนริโอ แกรนด์ แวลลีย์ (Rio Grande Valley)ที่ถูกทิ้งไว้โดยโครงการสร้างกำแพงของทรัมป์ ส่วนโครงการที่ 2 เป็นโครงการป้องดินกัดเซาะในระยะ 14 ไมล์ของการก่อสร้างกำแพงของทรัมป์ใกล้กับเมืองซานดิเอโก รัฐแคลิฟอร์เนีย
เอบีซีนิวส์ชี้ว่าโครงการทั้งสองนี้จะไม่มีการสร้างกำแพงขึ้นใหม่ แหล่งข่าวยืนยัน และในเวลานี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่ารัฐบาลไบเดนจะสิ้นสุดการประเมินโครงการสมัยทรัมป์เมื่อใด
ซึ่งสำหรับโครงการเติมเต็มช่องว่างระบบคันเขื่อนนี้สมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯจากทั้ง 2 พรรครวมสว.รัฐเทกซัสชื่อดัง เท็ด ครูซ ได้ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลไบเดนเร่งจัดการก่อนหน้าพายุเฮอร์ริเคนจะเข้าและจะสามารถป้องกันปัญหาน้ำท่วมฉับพลันได้ โดยเจ้าหน้าที่ท้องถิ้นที่โกรธแค้นพากันข่มขู่ที่ทำการอุดช่องว่างนี้ด้วยตัวเองและได้พยายามเสาะหาการสนับสนุนจากรัฐบาลกลางสหรัฐฯ
ขณะเดียวกันกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯตั้งเป้าที่จะนำงบประมาณที่ยึดกลับคืนมาได้ใช้สำหรับโครงการภายในสหรัฐฯและในต่างแดนหลายร้อยโครงการที่เคยได้รับการอนุมัติจากสภาคองเกรสไว้นานแล้ว รวมไปถึงการสนับสนุนโรงเรียนกองทัพและคลังเก็บยุทโธปกรณ์ต่างๆของกองทัพ