เอพี/เอเอฟพี - กระทรวงมหาดไทยอิรัก แถลงวันอาทิตย์ (25 เม.ย.) ว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากเหตุถังออกซิเจนเกิดระเบิดคืนวันเสาร์ (24 เม.ย.) ที่โรงพยาบาลแบกแดดเพิ่มเป็น 82 ราย โดยจากทั้งหมดมี 28 คน เป็นผู้ป่วยต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ และมีผู้บาดเจ็บ 110 ราย ไฟกว่าจะสงบลงก็ต่อเมื่อเช้าวันนี้
เอพีรายงานวันนี้ (25 เม.ย.) ว่า ยอดเสียชีวิตก่อนหน้า 23 ราย ล่าสุด ถูกกระทรวงมหาดไทยอิรักปรับเพิ่มวันอาทิตย์ (25) เป็น 82 ราย และบาดเจ็บ 110 คน โดยการประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลนั้น ถูกชี้ว่าเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดเหตุเศร้าสลดร้ายแรงนี้ ซึ่งเกิดขึ้นในราวเที่ยงคืนวันเสาร์ (24) ที่โรงพยาบาลแบกแดด อ้างเวลาการเกิดเหตุจากเอเอฟพี
ทั้งนี้ พบว่า มีผู้ป่วยหนักจำนวนมากที่ต้องพึ่งเครื่องช่วยหายใจภายในโรงพยาบาล ไอบีเอ็น อัล-คาติบ (Ibn al-Khatib) โดยแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่กู้ภัยอิรักเปิดเผยกับเอเอฟพีว่า การระเบิดเกิดขึ้นในห้องเก็บถังออกซิเจนของโรงพยาบาล
ไฟได้ลุกลามไปทั่วหลายชั้นของโรงพยาบาลขณะที่มีญาติผู้ป่วยหลายสิบคนอยู่ข้างเตียงคนไข้ 30 คน บนเตียงภายในห้องไอซียูซึ่งเป็นสถานที่รักษาผู้ป่วยโควิด-19 ขั้นวิกฤต
เจ้าหน้าที่ป้องกันภัยพลเรือนอิรัก เปิดเผยว่า “โรงพยาบาลไม่มีระบบป้องกันอัคคีภัยและเพดานของอาคารยิ่งเป็นสาเหตุทำให้เปลวไฟสามารถลุกลามไปยังสิ่งไวต่อเชื้อเพลิงได้อย่างรวดเร็ว” และเสริมต่อกับเอเอฟพีว่า เหยื่อจำนวนมากต้องจบชีวิตเป็นเพราะคนเหล่านี้ต้องถูกถอดเครื่องช่วยหายใจออกเพื่อเคลื่อนย้ายขณะที่อีกจำนวนมากสำลักควันพิษ
ซึ่งหลังจากตะวันขึ้นแล้ว พบว่า ถังแก๊สกลมทรงสูงจำนวนหลายสิบถังที่ถูกเคลื่อนย้ายออกมานั้นตั้งเรียงรายบริเวณด้านนอกอาคารใกล้กับเตียงรถเข็นคนไข้และซากปรักหักพัง
กระทรวงสาธารณสุขอิรัก เปิดเผยว่า สามารถช่วยเหลือคนไม่ต่ำกว่า 200 คน ออกมาได้สำเร็จ
ซึ่งในกลุ่มผู้เสียชีวิตทั้งหมด 82 รายนั้น มีถึง 28 รายเป็นคนไข้ที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ เอพีชี้โดยอ้างไปถึงทวิตเตอร์จากโฆษกคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนอิรัก
รถดับเพลิงต่างเร่งไปยังที่เกิดเหตุเพื่อพยายามดับไฟที่ไหม้ลุกลามไปทั่วชั้น 2 ของโรงพยาบาล และสามารถดับลงได้สำเร็จก็ต่อเมื่อเข้าสู่เช้าวันใหม่ไปแล้ว ขณะที่รถพยาบาลฉุกเฉินได้นำตัวผู้รับบาดเจ็บออกไป
แพทย์และเจ้าหน้าที่การแพทย์ต่างตกใจต่อเหตุที่เกิดขึ้นเล่าถึงร่างผู้เสียชีวิตมากมายที่ถูกไฟไหม้ถูกเจ้าหน้าที่กู้ภัยนำออกไปจากโรงพยาบาล แต่ทว่ามาจนถึงเวลาเที่ยววันอาทิตย์ (25) บรรดาญาติของผู้ที่ได้รับกระทบยังคงพยายามตามหาญาติตัวเองที่ยังคงตามตัวไม่พบ
และหลังจากเหตุเพลิงไหม้ครั้งร้ายแรงนี้ทำให้นายกรัฐมนตรีอิรัก มุสตา อัล-คาเดมี (Mustafa al-Kadhimi) ไล่ผู้อำนวยการแผนกสาธารณสุขในเขตอัล-รูซาฟา (al-Rusafa) ซึ่งโรงพยาบาลแห่งนี้ตั้งอยู่รวมไปถึงยังไล่ผู้อำนวยการโรงพยาบาลไอบีเอ็น อัล-คาติบ ที่เกิดเหตุรวมไปถึงหัวหน้าแผนกด้านวิศวกรรมและการซ่อมบำรุงของโรงพยาบาล พร้อมกับให้เวลาเจ้าหน้าที่อิรัก 24 ชั่วโมงให้รายงานผลการสอบสวนถึงเหตุเพลิงไหม้ให้ทราบ