โปรดชมภาพ: “สถานทูตไทย” ในนิวเดลีปิดชั่วคราว โบ๊ยไม่มีเศรษฐีภารตะแอบเหมาลำเข้าตามสื่อนอกชี้ ไวรัสสายพันธุ์อินเดียพบในสวิตฯครั้งแรก

รอยเตอร์/เอเอฟพี/เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ – สื่อนอกชี้ไทยเสียชีวิตโควิด-19 ในประเทศล่าสุดทำนิวไฮที่ 11 คน ด้านศูนย์สถานการณ์โควิด-19 ของไทยปัดข่าวไม่มีเศรษฐีอินเดียใช้เครื่องบินเช่าเหมาลำเข้าประเทศ และยังไม่แบนเที่ยวบินจากอินเดีย แต่ชะลออกวีซ่า ขณะที่สถานทูตไทยประจำกรุงนิวเดลีออกแถลงการณ์ปิดให้บริการยาวไปจนถึงสิ้นเดือนเมษายนท่ามกลางการระบาดขั้นเกินวิกฤต ส่วนที่สวิตเซอร์แลนด์เจอไวรัสสายพันธุ์อินเดียเป็นครั้งแรก

รอยเตอร์รายงานวันนี้(25 เม.ย)ว่า โฆษกศบค นพ.ทวีศิลป์ วิษณุ โยธินโฆษก แถลงวันอาทิตย์(25)ว่า ขณะที่ไทยในวันอาทิตย์(25)มีผู้เสียชีวิตสูงสุดภา่ยในวันเดียวทีั 11 คน มีผู้ป่วยอาการหนัก 507 ราย ใส่ทอช่วยหายใจ 138 ราย และแต่ในเวลาเดียวกันทางไทยจะเริ่มต้นการชะลอออกใบอนุญาตให้คนต่างชาติหรือคนอินเดียเข้าประเทศไทยเกิดขึ้นหลังมีข่าวรายงานเกิดขึ้นวานนี้(24)จากเอเอฟพีระบุว่า ผู้มีอันจะกินในอินเดียต่างแห่หลบหนีเดินทางไปต่างประเทศหลังเกิดวิกฤตโควิด-19 อย่างจ้าละหวั่นทั้งๆที่ราคาค่าตั๋วโดยสารเครื่องบินหูฉี่ในวันศุกร์(23) เพราะวิตกถึงการที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์สั่งห้ามเที่ยวบินเข้าประเทศที่จะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันอาทิตย์(25) เป็นเวลา 10 วัน

ตามการรายงานพบว่าราคาค่าตั้วโดยสารสูงถึง 1,000 ดอลลาร์ในวันศุกร์(23) และวันเสาร์(24) หรือราว 80,000 รูปี สูงกว่า 10 เท่าของเวลาปกติสำหรับเมืองมุมไบไปดูไบ และสูงกว่า 5 เท่าหรือเกิน 50,000 รูปีของเที่ยวบินนิวเดลีไปดูไบ

แต่ไม่มีตั๋วโดยสารจำหน่ายสำหรับเที่ยวบินวันอาทิตย์(25) เอเอฟพีชี้

ทั้งนี้นอกเหนือจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ที่แบนเที่ยวบินจากอินเดียแล้วพบว่า ฮ่องกงสั่งแบนยาวไปจนถึงวันที่ 3 เดือนหน้าหลังพบผู้โดยสารติดเชื้อไวรัสเที่ยวบินจากอินเดียเข้าฮ่องกงก่อนหน้า การแบนเที่ยวบินยังรวมไปถึงอังกฤษโดยก่อนหน้านายกรัฐมนตรีอังกฤษ บอริส จอห์นสัน สั่งยกเลิกการเยือนเป็นทางการเนื่องมาจากสถานการณ์การระบาดโควิด-19ในอินเดีย และการแบนเที่ยวบินจากอินเดียยังรวมไปถึงแคนาดา และเยอรมันเช่นกัน ซึ่งสำหรับไทยในเวลานี้ยังไม่มีการสั่งแบนเที่ยวบินจากอินเดียอย่างเป็นทางการ

โดยในรายงานของเอเอฟพีชี้ว่า บริษัทให้บริการเครื่องเช่าเหมาลำอินเดีย Air Charter Service India มียอดการให้บริการสูงอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน “เรามี 12 เที่ยวบินเดินทางไปดูไบวันพรุ่งนี้และแต่ละเที่ยวล้วนแต่เต็มทั้งหมด” ตัวแทนบริษัทเปิดเผย

ส่วนผู้ให้บริการอีกแห่งคือ เอ็นทรัล เอเวียชัน (Enthral Aviation) เปิดเผยว่า “ผมได้รับคำขอเกือบ 80 คำขอสำหรับการบินไปดูไบแค่เฉพาะในวันนี้” และเสริมต่อว่า “ทางเราได้ขอให้นำเครื่องบินจากต่างประเทศเพื่อให้เพียงพอกับความต้องการ…ซึ่งมันต้องใช้ค่าใช้จ่ายราว 38,000 ดอลลาร์ในการจ้างเครื่องบินขนาด 13 ที่นั่งเพื่อบินจากมุมไบไปยังดูไบ และราว 31,000 ดอลลาร์สำหรับขนาด 6 ที่นั่ง”

และเจ้าหน้าที่จากบริษัทเช่าเหมาลำ เอ็นทรัล เอเวียชัน กล่าวเปิดเผยโดยพาดพิงถึงไทยว่า “ผู้คนต่างรวมกลุ่มและแชร์ค่าโดยสารเพื่อให้ได้ที่นั่ง...ทางเราได้รับคำสั่งจองไปยัง “ไทย” แต่ส่วนใหญ่ต้องการบินไปดูไบ”

อย่างไรก็ตามหลังข่าวออกมา นพ.ทวีศิลป์ได้ออกมาแถลงปัดในรายงานของ MGRออนไลน์ว่า ไม่เป็นความจริงในกรณีที่มีพลเมืองอินเดียเช่าเหมาลำเครื่องบินเดินทางมาไทย เพื่อหลีกหนีสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศ โดยเขาได้ชี้ไปถึงได้รับการยืนยันในเรื่องนี้จากกระทรวงต่างประเทศ

ซึ่งทางสถานทูตไทยในกรุงนิวเดลีในเวลานี้ยังคงปิดให้บริการ โดยอ้างอิงจากเฟซบุ๊กทางการของสถานทูตที่ MGRออนไลน์ พบนั้นพบว่าโพสต์มาตั้งแต่วันที่ 19 เม.ย ถึงคำสั่งการงดให้บริการทางกงสุลระหว่างวันที่ 20 เม.ย – วันที่ 30 เม.ย เป็นต้นไป โดยในหนังสือทางการระบุว่าสอดคล้องไปกับมาตรการล็อกดาวน์ของกรุงนิวเดลีและเนื่องมาจากความรุนแรงของโรคโควิด-19ระบาดในประเทศเป็นสำคัญ โดยในคำแถลงชี้ว่า สำหรับชาวไทยและต่างชาติที่ต้องการเดินทางมาไทยให้ส่งอีเมลแจ้งความประสงค์เพื่อขอรับการอนุมัติแทน ซึ่งในเฟซบุ๊กพบการร้องเรียนหนักกรณีที่มีปัญหาในการติดต่อ เช่นไม่มีคนรับสาย หรือการยกเลิกเที่ยวบินเป็นต้น

ขณะเดียวกันไวรัสสายพันธุ์อินเดียล่าสุดได้พบเป็นครั้งแรกในสวิตเซอร์แลนด์ โดยเอเอฟพีรายงานว่า เจ้าหน้าที่สาธารณสุขสวิตเซอร์แลนด์แถลงวันเสาร์(24)ว่า ผู้ป่วยเป็นผู้โดยสารที่เดินทางมาถึงสวิตเซอร์แลนด์หลังจากทรานซิตผ่านทางสนามบินยุโรป

โดยในแถลงการณ์กล่าวว่า ในเวลานี้ทางเจ้าหน้าที่สวิตเซอร์แลนด์กำลังอยู่ในระหว่างการหารือที่จะเพิ่ม “อินเดีย” อยู่ในประเทศโซนสีแดงหรือไม่ ซึ่งผู้โดยสารที่เดินทางมาจากประเทศโซนสีแดงมีความเสี่ยงสูงต้องกักตัวเป็นเวลาอย่างน้อย 10 วัน