รอยเตอร์/เอเจนซีส์ - ตำรวจรัฐเทกซัสคาดได้หมายค้นบริษัท เทสลา วันอังคาร (20 เม.ย.) เพื่อหาข้อมูลจากอุบัติรถเทสลารุ่น S วิ่งหลุดทางโค้งพุ่งชนต้นไม้จนไฟลุกท่วม เสียชีวิต 2 ศพ ในคืนวันเสาร์ (17 เม.ย.) ที่ย่านชานเมืองฮุสตัน แต่สุดอึ้งไร้เงาคนขับหลังพวงมาลัย แต่ อีลอน มัสก์ ซีอีโอเทสลาปฏิเสธ ไม่ใช่ความผิดของระบบขับอัตโนมัติ
รอยเตอร์รายงานวันนี้ (20 เม.ย.) ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูงของรัฐเทกซัสแถลงกับรอยเตอร์ในวันจันทร์ (19) ว่า คาดว่าทางตำรวจจะได้หมายค้นจากศาลเพื่อค้นบริษัทเทสลาในวันอังคาร (20) สำหรับข้อมูลคดีอุบัติเหตุรถชนเมื่อวันเสาร์ (17) ที่เมืองสปริง (Spring) ย่านชานเมืองฮุสตัน รัฐเทกซัส
เกิดขึ้นหลังผู้อำนวยการบริหารเทสลาชื่อดัง อีลอน มัสก์ กล่าวว่าหลังการตรวจสอบจากบริษัทพบว่าระบบออโต้ไพล็อต หรือระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติไม่ได้ถูกเรียกใช้
CNN สื่อสหรัฐฯ รายงานก่อนหน้าว่า รถเทสลารุ่น S ที่เกิดอุบัติเหตุนั้นอยู่ในสภาพเสียหายอย่างหนักจนเหลือแต่ซากหลังเกิดระเบิดขึ้นซึ่งต้องใช้เวลาดับไฟที่ลุกไหม้นาน 4 ชั่วโมง เพราะแบตเตอรี่ของรถนั้นยังคงทำให้เกิดไฟลุกไหม้ขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“ผมสามารถบอกคุณได้ว่าการสอบสวนของเราชี้ไปว่าไม่พบคนนั่งอยู่ส่วนคนขับอย่างแน่นอนในเวลาที่เกิดอุบัติเหตุ” มาร์ค เฮอร์แมน (Mark Herman) หัวหน้าตำรวจแฮร์ริส เคาน์ตี (Harris County) กล่าว
แต่ทว่าหลังจากนั้นในวันจันทร์ (19) มัสก์ได้แถลงผ่านทางทวิตเตอร์ยืนยันว่า ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติของรถเทสลาคันเกิดอุบัติเหตุไม่ได้ถูกใช้แต่อย่างไร โดยอ้างจากข้อมูลที่ถูกบันทึกไว้ล่าสุด แต่ไม่ได้เปิดเผยในรายละเอียดถึงข้อมูลนั้น หรือข้อมูลที่ถูกบันทึกไว้ได้จนกระทั่งเกิดอุบัติเหตุ
นอกจากนี้ อีลอน มัสก์ ยังกล่าวว่า ระบบขับเคลื่อนด้วยตัวเองโดยสมบูรณ์แบบที่เรียกว่า Full Self-Driving หรือ FSD ที่ถูกติดตั้งในรถเทสลาไม่กี่คันไม่ได้ถูกติดตั้งในรถคันที่เกิดอุบัติเหตุนี้
มัสก์กล่าวผ่านทวิตเตอร์ว่า “และที่มากไปกว่านี้ ระบบออโต้ไพล็อตมาตรฐานจำเป็นต้องใช้เส้นแบ่งทิศทางจราจรประขาวเพื่อให้ระบบเริ่มทำงาน ซึ่งถนนเส้นนี้ไม่มี”
CNN รายงานว่า เหยื่อผู้เสียชีวิตเป็นชายวัย 69 ปี และวัย 59 ปีตามลำดับยังไม่ถูกประกาศชื่อในเวลานี้ ซึ่งพบว่ารถเทสลารุ่น S ปี 2019 นั้นเกิดหลุดออกจากถนนหลังทางโค้งและชนเข้ากับต้นไม้ เฮอร์แมนกล่าวว่า อุบัติเหตุชนนี้ยังคงอยู่ระหว่างการสอบสวนและในเวลานี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่ารถถูกขับมาด้วยความเร็วเท่าใด แต่เขาชี้ว่า หลักฐานบ่งชี้ว่ารถวิ่งด้วยอัตราความเร็วสูง
หลังเกิดเหตุทางตำรวจไม่พบใครในที่นั่งคนขับแต่กลับพบศพที่เบาะผู้โดยสารด้านหน้าและเบาะหลังเท่านั้น เฮอร์แมนกล่าวให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ถึงการทวีตของอีลอน มัสก์ ในช่วงบ่ายวันเสาร์ (19) ว่า เป็นข้อมูลอย่างเป็นทางการแรกที่ออกมาจากบริษัท เทสลา แต่ทางตำรวจยังไม่เคยรับการแจ้งอย่างเป็นทางการในเรื่องนี้
เฮอร์แมนกล่าวว่า “เราได้คำแถลงจากพยานที่เกี่ยวข้องที่กล่าวว่า พวกเขาออกไปทดลองขับรถโดยที่ไม่มีคนขับและต้องการที่จะแสดงให้เพื่อนเห็นว่ารถขับเคลื่อนด้วยตัวเองได้อย่างไร”
สื่อสหรัฐฯ ชี้ว่า ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้คนขับยังสามารถขับอยู่ภายในเลนช่องทางเดินรถ หรือการชะลอรถให้ช้าลง หรือหยุดรถเพื่อเลี่ยงต่อสิ่งกีดขวางที่อยู่ด้านหน้า ซึ่งเว็บไซต์เทสลาบ่งชี้ว่า ระบบออโต้ไพล็อตของบริษัทในปัจจุบันยังคงจำเป็นต้องมีผู้บังคับรถนั่งอยู่หลังพวงมาลัยตลอดเวลา และรถไม่ได้ขับเคลื่อนด้วยตนเอง
อย่างไรก็ตาม ไม่กี่ชั่วโมงก่อนเกิดอุบัติเหตุวันเสาร์ (17) ที่รัฐเทกซัส มัสค์ยังออกมาทวีตชี้ว่า ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติของเทสลานั้นปลอดภัยมากกว่าการขับโดยปกติทั่วไป ซึ่งอ้างไปถึงข้อมูลของบริษัททางสถิติที่บ่งชี้ว่า มีการเกิดอุบัติเหตุแค่ 1 ครั้งในทุก 4.19 ล้านไมล์ที่ถูกขับในไตรมาสแรกของปีนี้ เปรียบเทียบกับสถิติของสำนักงานความปลอดภัยจราจรทางหลวงแห่งชาติสหรัฐฯ NHTSA (National Highway Traffic Safety Administration) ที่เทสลากล่าวว่า มีอุบัติเหตุ 1 ครั้งในทุก 484,000 ล้านไมล์ของมนุษย์ผู้ขับขี่
ซึ่งในเดือนที่ผ่านมา NHTSA ได้เปิดเผยกับรอยเตอร์ว่า ทางสำนักงานกำลังเปิดการสอบสวนพิเศษ 27 คดีสำหรับคดีอุบัติเหตุรถเทสลาโดยเฉพาะ ซึ่งจากทั้งหมดมีคดีรถเทสลา 23 คดีที่ยังคงอยู่ระหว่างการสอบสวนเกี่ยวข้องกับการใช้ระบบออโต้ไพล็อต
