xs
xsm
sm
md
lg

เจ้าชายวิลเลียม-เจ้าชายแฮร์รี สนทนาอบอุ่นหลังพิธีพระศพพระอัยกาฟิลิป มีดัชเชสแห่งเคมบริดจ์เป็นโซ่ทองคล้องใจ (ชมคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


หลังพิธีพระศพพระอัยกาผู้ล่วงลับ เจ้าชายวิลเลียม เจ้าชายแฮร์รี ตลอดจนดัชเชสเคทก้าวออกจากโบสถ์เซนต์จอร์จ และแวะสนทนากับเจ้าอาวาสแห่งวินเซอร์ ประมุขของโบสถ์เซนต์จอร์จ ที่หน้าประตูโบสถ์ จุดนี้เป็นจุดที่ช่วยคลี่คลายบรรยากาศตึงเครียดระหว่างเจ้าชายทั้งสองพระองค์ได้มากมาย สายใยที่รัดร้อยดวงใจพระเชษฐาและพระอนุชาผู้ผูกพันดูแลกันและกันหลายสิบปี ช่วยให้ต่อกันติดได้ แม้อาจจะต้องมีเวลาเยียวยารอยแผลแห่งความเสียพระทัยกันอีกสักระยะหนึ่งก็ตาม อนึ่ง ในภาพเล็ก เป็นเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในห้านาทีข้างหน้า เมื่อสองพระองค์สามารถละลายบรรยากาศขัดเขินระหว่างกัน และสนทนาอบอุ่นด้วยพรวิเศษจากสรวงสวรรค์
คลิปวิดีโอหลังจบพิธีพระศพเจ้าชายฟิลิป ซึ่งจะได้เห็นบรรยากาศที่กระเตื้องขึ้นในระหว่างเจ้าชายวิลเลียมและเจ้าชายแฮร์รี โดยมีดัชเชสเคทเป็นโซ่ทองคล้องใจอันนุ่มนวล


หลังจากหนึ่งปีที่ไม่ได้พบกัน เจ้าชายวิลเลียม และพระอนุชา คือ เจ้าชายแฮร์รี ทรงเก็บความสะเทือนพระทัยระหว่างกัน และเข้าร่วมพิธีอำลาพระอัยกาผู้ล่วงลับ เจ้าชายฟิลิป พระราชสวามีในสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่สองแห่งสหราชอาณาจักร ในพิธีพระศพที่จัดขึ้นอย่างสง่างาม ทว่าเรียบง่าย เมื่อวันเสาร์ที่ 17 เมษายน 2021

พระเชษฐาและพระอนุชาทรงหมองเศร้าและเงียบงันตลอดช่วงการเดินแถวส่งเสด็จ และช่วงมิสซาขอพรแห่งพระผู้เป็นเจ้า ถวายแด่เจ้าชายฟิลิป ดยุคแห่งเอดินบะระ โดยช่างภาพได้บันทึกรูปเจ้าชายแฮร์รี่ กลั้นสะอื้นในบางตอนของช่วงพิธีเดินแถวส่งเสด็จ โดยทั้งสองพระองค์ทรงโดยเสด็จพระดำเนินตามเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ มกุฎราชกุมาร และสมาชิกพระราชวงศ์ทั้งปวง ตามหลังพระราชยานยนต์แลนด์โรเวอร์ที่ใช้ในการเคลื่อนย้ายพระศพสู่โบสถ์เซนต์จอร์จ

ช่างภาพบันทึกนาทีที่เจ้าชายแฮร์รี่กลั้นสะอื้นในบางตอนของช่วงพิธีเดินแถวส่งเสด็จพระอัยกา ทั้งนี้ สามารถเห็นบรรยากาศตึงเครียดและเงียบงันในระหว่างเจ้าชายแฮร์รี และเจ้าชายวิลเลียมได้ไม่ยาก
ในการนี้ สื่อมวลชนรายงานกันทั่วหน้าว่า หลังพิธีพระศพเสร็จสิ้นแล้ว เจ้าชายวิลเลียมและเจ้าชายแฮร์รีทรงสนทนาขณะเดินออกจากโบสถ์เซนต์จอร์จไปด้วยกันกับดัชเชสแคเธอริน พระชายาในเจ้าชายวิลเลียม

ภาพบรรยากาศดังกล่าวนับเป็นโอกาสแรกที่เจ้าชายทั้งสองได้เดินเคียงข้างกันให้สาธารณชนได้ชื่นชม นับจากที่เจ้าชายแฮร์รีทรงก้าวออกจากบทบาทสมาชิกพระราชวงศ์และทรงย้ายไปพำนักในสหรัฐอเมริกากับพระชายา คือ ดัชเชสเมแกน ดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ และน้องอาร์ชี พระโอรส เมื่อต้นปี 2020

บรรยากาศตึงเครียดระหว่างพระเชษฐาวิลเลียม วัย 38 และพระอนุชาแฮร์รี วัย 36 ปรากฏสู่ความรับทราบของชาวโลก หลังจากที่เจ้าชายแฮร์รีและดัชเชสเมแกนประทานสัมภาษณ์แก่ โอปราห์ วินฟรีย์ พิธีกรคนดังเจ้าของรายการทอล์กโชว์ The Oprah Winfrey Show ในเดือนที่แล้ว โดยมีประเด็นเจ้าปัญหาหลายประการ อาทิ การที่พระราชวงศ์ไม่ไยดีกับสุขภาพจิตใจของดัชเชสเมแกน

เจ้าชายแฮร์รีและดัชเชสเมแกนประทานสัมภาษณ์แก่โอปราห์ วินฟรีย์ พิธีกรคนดังเจ้าของรายการทอล์กโชว์ The Oprah Winfrey Show ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยเปิดเผยความรู้สึกไม่โอเคกับสมาชิกพระราชวงศ์ในหลายประเด็น เช่น การเหยียดผิว ส่งผลให้คนอเมริกันจำนวนมากซึ่งมักมีอคติต่อสถาบันพระมหากษัตริย์อังกฤษ ได้โอกาสต่อยอดการวิพากษ์วิจารณ์เป็นที่อื้ออึง
ในช่วงการเดินแถวส่งเสด็จพระอัยกานั้น เว็บไซต์ข่าวเดอะซัน สื่อเจ้ายักษ์แห่งอังกฤษ รายงานว่า เจ้าชายวิลเลียมได้ทรงขอให้พระญาติปีเตอร์ ฟิลิปส์ บุตรชายแห่งเจ้าฟ้าหญิงแอนน์ (ทายาทแห่งพระโอรสและพระธิดาในพระมหากษัตริย์/พระราชินีนาถ ที่มิได้เป็นมกุฎราชกุมาร/มกุฎราชกุมารี จะไม่ได้รับฐานันดรเจ้าชาย/เจ้าหญิง) เขยิบขึ้นมาเดินในแถวเดียวกัน ในระหว่างกลางของพระองค์และเจ้าชายแฮร์รี

เดอะซันรายงานว่าเจ้าชายวิลเลียมได้ทรงขอให้พระญาติปีเตอร์ ฟิลิปส์ บุตรชายแห่งเจ้าฟ้าหญิงแอนน์ เขยิบจากแถวหลัง ขึ้นมาเดินในแถวเดียวกัน ในระหว่างกลางของพระองค์และเจ้าชายแฮร์รี
อย่างไรก็ตาม ในตอนหนึ่งของพิธีดำเนินส่งเสด็จนั้น คุณฟิลิปส์ได้ชะลอฝีเท้า เปิดโอกาสให้สองเจ้าชายผู้ซึ่งเคยรักใคร่ดูแลกันมาเนิ่นนานนับแต่ที่ทรงสูญเสียพระมารดา คือ เจ้าหญิงไดอานา เมื่อปี 1997 ได้มีโอกาสเดินเคียงกันเสมือนดั่งที่เคยพระดำเนินเคียงบ่าเคียงไหล่ตามหลังหีบพระศพเจ้าหญิงไดอานา กระนั้นก็ตาม ทั้งสองพระองค์ยังเฉยเมย เคร่งขรึม และดำรงพระองค์อยู่ในความโศกเศร้า


ในช่วงพิธีมิสซาภายในโบสถ์เซนต์จอร์จ ที่ประทับของเจ้าชายทั้งสอง พระองค์ถูกจัดแยกให้อยู่ตรงข้ามกัน โดยเจ้าชายวิลเลียมและดัชเชสเคท ประทับนั่งทางฝั่งซ้ายของพระแท่นบูชามิสซา อันเป็นฝั่งที่เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ พระบิดา ประทับนั่งหัวแถว ส่วนเจ้าชายแฮร์รีประทับนั่งลำพังทางฝั่งขวาของพระแท่นบูชามิสซา อันเป็นฝั่งที่สมเด็จพระราชินีนาถทรงประทับนั่งหัวแถว ทั้งนี้ ดัชเชสเมแกน มิได้ร่วมเดินทางมาด้วย เนื่องจากมีอายุครรภ์มาก อันอาจเป็นอันตรายหากเดินทางไกล

เจ้าชายแฮร์รีประทับนั่งลำพังทางฝั่งขวาของพระแท่นบูชามิสซา (ขวาสุดของภาพ)  อันเป็นฝั่งที่สมเด็จพระราชินีนาถทรงประทับนั่งหัวแถว (ซ้ายสุดของภาพ)

เจ้าชายวิลเลียมและดัชเชสเคทประทับนั่งทางฝั่งซ้ายของพระแท่นบูชามิสซา (ซ้ายสุดของภาพ) อันเป็นฝั่งที่เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ พระบิดา ประทับนั่งหัวแถว (ขวาสุดของภาพ) ดังนั้น เจ้าชายวิลเลียมและเจ้าชายแฮร์รีจึงประทับนั่งตรงข้ามกัน มิได้มีโอกาสใกล้ชิดกันในระหว่างร่วมพิธีมิสซา
เริ่มสนทนาใกล้ชิดหลังจบพิธีพระศพพระอัยกา “ทรงรักกันแหละ ดูออก”

จุดแรกที่สาธารณชนได้เห็นสัญญาณบวกแห่งสายสัมพันธ์ระหว่างดยุคแห่งเคมบริดจ์ และดยุคแห่งซัสเซกซ์ คือ ทั้งสองพระองค์พร้อมด้วยดัชเชสเคท สนทนากับเจ้าอาวาสแห่งวินเซอร์ ประมุขของโบสถ์เซนต์จอร์จ ที่หน้าประตูโบสถ์เซนต์จอร์จ ในบรรยากาศอบอุ่นใกล้ชิดที่ชาวโลกได้เห็นในระหว่างทั้งสองพระองค์เป็นที่เจนตา

เจ้าชายวิลเลียม ดัชเชสเคท และเจ้าชายแฮร์รี ซึ่งสนิทสนมกันเป็นอย่างดี ทรงดำเนินเป็นกลุ่มทรีโอไปตามฟุตบาท และมีการสนทนากันมากขึ้นตามลำดับ โดยเห็นได้ว่าดัชเชสเคทนำสนทนาเบาๆ เป็นระยะๆ  จากช่วงต้นที่เดินกันไปเงียบๆ แล้วเจ้าชายแฮร์รีเริ่มสนทนากับดัชเชสเคท ทั้งนี้ หากชมในคลิปวิดีโอ จะได้เห็นเจ้าชายวิลเลียมหันมากล่าวด้วยเป็นบางตอน ขณะที่เจ้าชายแฮร์รียังทรงมีบรรยากาศเขินๆ อยู่บ้าง
เดอะซันรายงานว่า นักอ่านปากได้ถอดถ้อยคำที่เจ้าชายแฮร์รีทรงกล่าวกับเจ้าชายวิลเลียม ต่อหน้าเจ้าอาวาสว่า พิธีพระศพเป็นไปดั่งที่พระอัยกาทรงดำรัสสั่งเสียไว้

หลังจากนั้น เจ้าชายวิลเลียม ดัชเชสเคท และเจ้าชายแฮร์รี ทรงดำเนินเป็นกลุ่มทรีโอไปตามฟุตปาท และมีการสนทนากันมากขึ้นตามลำดับ โดยเห็นได้ว่าดัชเชสเคทนำสนทนาเบาๆ เป็นระยะ กระทั่งว่าเจ้าชายทั้งสองพระองค์เริ่มดำรัสโต้ตอบกันโดยตรงแบบ “รักกันแหละ ดูออก” ทั้งนี้ ดัชเชสเคท ขยับไปเดินสนทนากับซาร่า ฟิลิปส์ ทินดัลล์ พระราชนัดดาในสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่สอง หนึ่งในแปดพระองค์ เจ้าชายทั้งสองพระองค์จึงมีการสนทนาตรงถึงกันอย่างอบอุ่นใกล้ชิด

หลังจากที่ทรงดำเนินเป็นกลุ่มทริโอราวสองนาที และบรรยากาศเริ่มคลี่คลายบ้าง ดัชเชสเคท (ที่สองจากขวา) ขยับไปเดินสนทนากับซาร่า ฟิลิปส์ ทินดัลล์ (ขวาสุด) พระราชนัดดาในสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่สอง  เจ้าชายทั้งสองพระองค์จึงมีการสนทนาตรงถึงกันอย่างอบอุ่นใกล้ชิด (สองพระองค์ทางซ้ายสุดของแถว 5 คน) โดยภาพในพื้นที่หัวโค้งนี้ คือรูปเดียวกับในรูปในมุมซ้ายของภาพที่ 1
ประเด็นร้าวฉานพระทัยในระหว่างสองเจ้าชายราชวงศ์อังกฤษ

ข่าวลือสะพัดไปทั่วโลกนับแต่ปี 2019 ว่า เจ้าชายวิลเลียม รัชทายาท และเจ้าชายแฮร์รี องค์สำรอง ทรงมีความร้าวฉานในระหว่างกัน เมื่อเจ้าชายแฮร์รีและดัชเชสเมแกน แยกวงออกจากราชมูลนิธิ The Royal Foundation ซึ่งก่อตั้งขึ้นเพื่อให้เจ้าชายทั้งสองพระองค์ได้ทรงงานด้านสังคมสงเคราะห์ร่วมกัน ทั้งนี้ เจ้าชายแฮร์รี ทรงกล่าวในช่วงนั้นว่าพระองค์รักใคร่ใยดีในองค์พระเชษฐาเป็นอย่างยิ่ง ทว่าพระองค์และพระเชษฐา มี “เส้นทางพระดำเนินที่แตกต่างกัน” นอกจากนั้น ในระหว่างกันก็มี “วันดีๆ” บ้าง และ “วันร้ายๆ” บ้าง

หลายฝ่ายเชื่อกันว่า เจ้าชายวิลเลียมเสียพระทัยที่เจ้าชายแฮร์รีตัดสินใจนำประเด็นในราชตระกูลกล่าวออกสื่อในระหว่างการประทานสัมภาษณ์แก่โอปราห์ วินฟรีย์ โดยรวมถึงประเด็นข้อกล่าวหาว่ามีสมาชิกแห่งพระราชวงศ์ ซึ่งมิใช่สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่สอง หรือดยุคแห่งเอดินบะระ กล่าวแสดงความเป็นห่วงว่าพระโอรสในครรภ์ของดัชเชสเมแกนจะมีผิวสี เพราะดัชเชสเมแกนมีคุณแม่เป็นชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกัน และมีคุณพ่อเป็นคนผิวขาว

เจ้าชายวิลเลียมและเจ้าชายแฮร์รีเมื่อยังทรงพระเยาว์ เมื่อปี 1997 โดยประทับยืนอยู่กับเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ ในพิธีพระศพของเจ้าหญิงไดอานา  เจ้าชายทั้งสองพระองค์เต็มไปด้วยความโศกเศร้า และได้เป็นกำลังใจของกันและกัน สายสัมพันธ์ในระหว่างกันจึงลึกซึ้ง
หลายวันหลังจากที่เทปบันทึกการสัมภาษณ์ปรากฏสู่สายตาชาวโลก เจ้าชายวิลเลียมทรงกล่าวถึงเรื่องนี้ว่า “เราไม่ได้เป็นครอบครัวที่เหยียดผิว” พร้อมทั้งทรงยอมรับว่ายังไม่ได้สนทนากับพระอนุชาเลยนับจากที่บทสัมภาษณ์ถูกนำออกถ่ายทอด

ยังไม่แน่ชัดว่าสายสัมพันธ์แห่งเจ้าชายทั้งสองพระองค์จะคืนสู่ความเข้าใจกันได้เพียงใด

สำนักข่าวเอพีรายงานว่ายังไม่แน่ชัดเลยว่าหลังจากที่พิธีพระศพพระอัยกาผ่านพ้นไปแล้ว ดยุคแห่งเคมบริดจ์และดยุคแห่งซัสเซกซ์จะเยียวยารอยร้าวในระหว่างพระองค์ได้เพียงใด นอกจากนั้น ดยุคแห่งซัสเซกซ์ซึ่งต้องแยกพระองค์ตามแนวปฏิบัติเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 จะทรงพำนักในอังกฤษนานเพียงใด

“เนื่องจากข้อกำหนดเพื่อป้องกันโควิด มันจึงยากที่จะนั่งลงสนทนากันเป็นปกติ” เพนนี จูเนอร์ นักประพันธ์แนวกิจการราชวงศ์ ให้ความเห็นอย่างนั้น โดยบอกว่าเรื่องแบบนี้คงจะต้องนั่งลงซดเบียร์และเปิดใจคุยกันประสาพี่ใหญ่กับน้องชาย ซึ่งไม่เหมาะสมที่จะทำในช่วงวิกฤติโรคระบาดโควิด-19

เจ้าชายวิลเลียมและเจ้าชายแฮร์รีในปี 2015 อันเป็นวันวานที่ยังใกล้ชิดสนิทสนมโดยไม่มีปัจจัยแทรกแซง
โดย รัศมี มีเรื่องเล่า

(ที่มา เอพี รอยเตอร์ บีบีซี เดอะซัน)

กำลังโหลดความคิดเห็น