ญี่ปุ่นเริ่มการฉีดวัคซีนต้านเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้กับประชากรสูงอายุในวันจันทร์ (12) ขณะที่วัคซีนนำเข้ายังคงมีไม่เพียงพอ และความพยายามครั้งนี้ คงยังไม่สามารถหยุดยั้งการแพร่เชื้อระลอกที่ 4 ได้
การฉีดวัคซีนให้กับผู้มีอายุ 65 ปีขึ้นไป เริ่มต้นที่ 120 พื้นที่ทั่วประเทศ โดยวัคซีนที่ใช้เป็นของไฟเซอร์ที่ผลิตในยุโรปและเพิ่งถูกส่งมาที่ภูมิภาคนี้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ในการฉีดรอบแรกนี้คาดว่าในโตเกียวจะมีผู้ได้รับวัคซีนเพียง 2,810 คนเท่านั้น ขณะที่พื้นที่อื่นๆ จะได้รับเพียง 1,000 โดสหรือน้อยกว่านั้น อ้างจากกำหนดการของกระทรวงสาธารณสุข ญี่ปุ่นมีประชากรทั้งหมด 126 ล้านคน
ในวันจันทร์ (12) เลขาธิการคณะรัฐมนตรี คัตสึโนบุ คาโตะ เน้นย้ำว่า ญี่ปุ่นจะมีวัคซีนเพียงพอสำหรับประชากรอายุ 65 ปีขึ้นปี จำนวน 36 ล้านคน ภายในสิ้นเดือนมิถุนายน
“หากการนำเข้าจากอียูเป็นไปอย่างราบรื่น ผมเข้าใจว่า ญี่ปุ่นน่าจะแจกจ่ายวัคซีนที่สามารถใช้กับผู้สูงอายุได้ทั้งหมด” คาโตะ กล่าว
ในวันจันทร์ (12) โตเกียวได้เริ่มมาตรการฉุกเฉินนาน 1 เดือน เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดระลอกที่ 4 ซึ่งเกิดจากการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัส พร้อมกับมีแผนจะเริ่มจัดงานโอลิมปิกฤดูร้อนในอีกกว่า 100 วันนับจากนั้น
ญี่ปุ่นอยู่ในหมู่ชาติเศรษฐกิจยักษ์ใหญ่ล่าสุดที่เริ่มการฉีดวัคซีนโควิด-19 หลังพวกเขาเริ่มต้นเมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทาโระ คาโนะ รัฐมนตรีดูแลเรื่องวัคซีนออกมาปกป้องความพยายามนี้ โดยกล่าวว่า หน่วยงานปกครองท้องถิ่นต้องการเวลาเตรียมการ
ตอนนี้ไฟเซอร์เป็นวัคซีนต้านเชื้อไวรัสโควิด-19 เพียงตัวเดียวในญี่ปุ่นที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานกำกับดูแลยา การเดินหน้าฉีดวัคซีนน่าจะรวดเร็วมากขึ้นในเดือนพฤษภาคม เนื่องจากวัคซีนล็อตใหญ่กว่านี้จากยุโรปจะเข้ามา