โควิด-19 ตัวกลายพันธุ์ที่พบครั้งแรกในสหราชอาณาจักร กลายเป็นสายพันธุ์ของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่พบโดยทั่วไปในสหรัฐฯ ท่ามกลางเคสผู้ติดเชื้อที่ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากข้อมูลของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขระดับสูงในวันพุธ (7 เม.ย.) ทั้งนี้ สายพันธุ์ดังกล่าวเพิ่งถูกพบในไทยเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ ก่อความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคระบาดใหญ่ในประเทศไทย
ตัวกลายพันธุ์ B.1.1.7 ถูกพบครั้งแรกในสหราชอาณาจักรเมื่อฤดูใบไม้ผลิปีก่อน และนับตั้งแต่นั้นมันถูกตรวจพบในเขตอำนาจ 52 แห่งทั่วสหรัฐฯ แพทย์หญิงโรเชลล์ วาเลนสกี ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งอเมริกา (ซีดีซี) บอกกับผู้สื่อข่าวระหว่างแถลงสรุปที่ทำเนียบขาว
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของสหรัฐฯ เรียกร้องอเมริกันชนเข้ารับวัคซีนเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ส่วนหนึ่งในการป้องกันการแพร่ระบาดของตัวกลายพันธุ์ใหม่ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
ข้อมูลของรัฐบาลกลางที่อัปเดตหนล่าสุดเมื่อวันอังคาร (6 เม.ย.) สหรัฐฯ ยังตรวจพบผู้ติดเชื้อตัวกลายพันธุ์โควิด-19 ที่พบครั้งแรกในแอฟริกาใต้หลายเคสเช่นกัน ว่ากันว่ามันสามารถต้านทานวัคซีนโควิด-19 บางตัวและวิธีการรักษาบางอย่าง โดยตัวกลายพันธุ์นี้ถูกพบในเขตอำนาจ 36 แห่งของสหรัฐฯ
สหรัฐฯ กำลังดำเนินการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 แก่ประชาชน เฉลี่ยแล้วราวๆ 3 ล้านโดสต่อวันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพิ่มขึ้นจากค่าเฉลี่ย 7 วันก่อนหน้านั้น 8% จากข้อมูลของ วาเลนสกี
อุปทานวัคซีนของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากจอห์นสันแอนด์จอห์นสันเริ่มทำการผลิตวัคซีนที่เพิ่งได้รับอนุมัติเมื่อเร็วๆ นี้ ส่วนไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค และโมเดอร์นา เมื่อไม่นานที่ผ่านมา ก็ได้ยกระดับศักยภาพด้านการผลิตวัคซีนเช่นกัน
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ปรับเพิ่มเป้าหมายฉีดวัคซีนประชาชนในช่วง 100 วันแรกของการดำรงตำแหน่ง จากเดิม 100 ล้านคนเป็น 200 ล้านคน พร้อมเร่งเร้าให้รัฐต่างเริ่มฉีดวัคซีนแก่ผู้ใหญ่ทุกคนในช่วงกลางเดือนเมษายน
อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายวันของสหรัฐฯ ยังอยู่ที่ระดับเฉลี่ยแล้ว 63,000 คนต่อวันในช่วง 7 วันหลังสุด เพิ่มขึ้นจากค่าเฉลี่ย 7 วันก่อนหน้านั้นประมาณ 2.3%
วาเลนสกี บอกว่า ทางซีดีซีพบการแพรระบาดของโควิด-19 จำนวนหนึ่ง สัมพันธ์กับกิจกรรมกีฬาต่างๆ ของเยาวชน และเตือนว่าชุมชนทั้งหลายที่เคยมีจำนวนผู้ติดเชื้อในระดับสูงควรหลีกเลี่ยงจัดกิจกรรมดังกล่าว และควรทำการตรวจเชื้อ 2 ครั้งต่อสัปดาห์
การแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วในสหรัฐฯ ของตัวกลายพันธุ์โควิด-19 ที่พบครั้งแรกในสหราชอาณาจักร เกิดขึ้นท่ามกลางข่าวประเทศไทยพบเคสผู้ติดเชื้อตัวกลายพันธ์ดังกล่าวอย่างน้อยๆ 24 เคส รอยเตอร์รายงานโดยอ้างผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขของไทยเปิดเผยในวันพุธ (7 เม.ย) ถือเป็นครั้งแรกเท่าที่ทราบเกี่ยวกับการแพร่ระบาดในชุมชนของตัวกลายพันธุ์สหราชอาณาจักรในประเทศไทย
ไวรัส SARS-CoV-2 ที่มีชื่อว่า B.1.1.7 ซึ่งแพร่กระจายเชื้อได้ง่ายกว่าตัวดั้งเดิมหลายเท่า ถูกพบในมากกว่า 100 ประเทศทั่วโลก และโดนกล่าวโทษว่าเป็นตัวโหมกระพือการแพร่ระบาดระลอกใหม่ หลายชาติพบผู้ติดเชื้อทุบสถิติสูงสุด
รอยเตอร์ระบุว่า ตัวกลายพันธุ์สหราชอาณาจักรถูกพบในกลุ่มก้อนนักท่องเที่ยว 24 คนที่ไปเที่ยวตามสถานบันเทิงต่างๆ ในกรุงเทพฯ เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา จากนั้นสถานการณ์การแพร่ระบาดเริ่มลุกลามจนต้องปิดสถานบันเทิงเกือบ 200 แห่งเป็นเวลา 2 สัปดาห์
“เรากำลังทำทุกอย่างเพื่อสกัดมัน แต่มันยังคงเล็ดลอดไปได้” นายแพทย์ยง ภู่วรวรรณ ผู้เชี่ยวชาญของรัฐบาลและหัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวระหว่างแถลงสรุปของกระทรวงสาธารณสุข “ตัวกลายพันธุ์นี้แพร่กระจายได้ง่าย ง่ายกว่าสายพันธุ์ธรรมดา 1.7 เท่า”
รายงานของรอยเตอร์ระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19ของไทย พุ่งขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่จำนวนยังคงอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับบรรดาชาติเพื่อนบ้านทั้งหลายในภูมิภาค
ไทย พบผู้ติดเชื้อใหม่ 334 คนเมื่อวันพุธ (7 เม.ย.) และไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 29,905 ราย ในนั้นเสียชีวิต 95 ราย
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นากยรัฐมนตรี สั่งตั้งโรงพยาบาลสนาม ท่ามกลางความคาดหมายว่าจำนวนผู้ติดเชื้อจะพุ่งขึ้น
รอยเตอร์รายงานว่า รัฐมนตรี 10 ราย และสมาชิกรัฐสภาหลายสิบคน ต้องกักโรคตนเองเมื่อวันพุธ (7 เม.ย.) สืบเนื่องจากสัมผัสใกล้ชิดกับเคสผู้ที่มีผลตรวจเชื้อออกมาเป็นบวก
คำยืนยันเกี่ยวกับการปรากฏตัวของตัวกลายพันธุ์ B.1.1.7 อาจกลายเป็นปัญหาใหญ่สำหรับไทย ในขณะที่ไทยเหลือเวลาแค่ 1 สัปดาห์ก่อนถึงช่วงเทศกาลสงกรานต์ วันหยุดยาวที่สุดของประเทศ
จากข้อมูลของเหล่านักวิทยาศาสตร์สหราชอาณาจักร ระบุว่าตัวกลายพันธุ์ B.1.1.7 แพร่เชื้อได้ง่ายกว่าตัวกลายพันธุ์อื่นๆ ถึง 70% และมีอันตรายมากกว่าหลายเท่า
(ที่มา : รอยเตอร์)
