เอเจนซีส์ - ฮันเตอร์ ไบเดน วัย 51 ปี บุตรชายผู้อื้อฉาวของผู้นำสหรัฐฯเปิดเผยมรสุมชีวิตในอดีตต่อสาธารณะเป็นครั้งแรกผ่านหนังสือความทรงจำของตัวเอง “สิ่งที่สวยงาม” หรือ Beautiful Things สะท้อนให้เห็นถึงช่วงเวลาที่มืดมิดของตัวเองทั้งติดสุราและยาเสพติด เคยเสพผงชีสที่คิดว่าเป็นโคเคน พ่อพยายามเข้าถึงตัวพูดคุยด้วยทุกวัน และการเสียชีวิตของพี่ชาย โบ ไบเดน อย่างกะทันหัน ยันตัวเองนั้นเหมาะกับครอบครัวไบเดนมากกว่ารัฐบาลไบเดน
บีบีซี สื่ออังกฤษ รายงานวันนี้ (6 เม.ย.) ว่า ในการให้สัมภาษณ์พิเศษกับบีบีซี ของอังกฤษ เกี่ยวกับหนังสือความทรงจำเล่มใหม่ของตัวเอง “สิ่งที่สวยงาม” หรือ Beautiful Thingsของบุตรชายผู้อื้อฉาวของประธานาธิบดีสหรัฐฯ วัย 51 ปี ฮันเตอร์ ไบเดน โดยเขายอมรับอย่างเปิดเผยว่า “ตัวเขาไม่เหมาะที่จะอยู่กับรัฐบาล แต่เหมาะที่จะอยู่กับครอบครัว”
นอกจากนี้ เขายังรับผิดชอบต่อการสร้างเรื่องราว..ที่ใครก็ตามที่ยังคงมีสามัญสำนึกจะต้องรู้ว่ามันเป็นแค่สีสันของสื่อแทบลอยด์เท่านั้น
ซึ่งในหนังสือความทรงจำ อ้างอิงจากสื่อสกายนิวส์ของอังกฤษ ไบเดน กล่าวว่า “ผมใช้เวลาไปเป็นจำนวนมากในการคลานเข่าบนพรมเพื่อใช้มือพยายามควานหาสิ่งที่แม้จะไม่ดูใกล้เคียงกับโคเคนเพื่อทำการเสพ”
และเขากล่าวอย่างติดตลกว่า “ผมคงเป็นคนเดียวที่สามารถเสพชีสพาเมซานได้มากกว่าใครๆ ที่คุณรู้จัก” รวมไปถึง “ในครั้งหนึ่งผมไม่เคยหลับเลยถึง 13 วันเต็มติดต่อกันเพื่อเสพโคเคนและดื่มเหล้าวอดก้าตลอดเวลา”
ฮันเตอร์ ไบเดน เปิดเผยว่า ช่วงชีวิตที่มืดมนของเขาเกิดขึ้นในปี 2014 หลังจากเขาถูกสั่งปลดประจำการจากกองทัพเรือสหรัฐฯเนื่องมีการตรวจพบสารเสพติดโคเคนในกระแสเลือด โดยในการสัมภาษณ์ผ่านรายการทางโทรทัศน์ เขายอมรับว่า ผู้เป็นพ่อ “โจ ไบเดน” พยายามเข้าถึงตัวด้วยการพูดคุยกับเขาทุกวัน
“อย่างไรก็ตาม ซึ่งไม่แค่ที่เขาพยายามที่จะพูดคุยกับผมทุกคืน เขายังโทรศัพท์พูดคุยกับลูกสาวของผมทุกคนและพูดคุยด้วยทุกวัน” และกล่าวต่อว่า “และผมรู้ว่าเขาพูดคุยกับน้องสาวของผม”
ไบเดนกล่าวแสดงเหตุผลว่า “เขามักจะทำเช่นนั้นเสมอ” โดยเสริมว่า “เป็นเพราะเขาสูญเสีย เป็นเพราะเขาเหมือนผมที่รู้ดีว่ามันเป็นเช่นไรที่ไม่สามารถยกหูโทรศัพท์เพื่อคุยกับลูกชายของตัวเองได้”
ไบเดน กล่าวต่อว่า ความโศกเศร้าของตัวเขายังคงไม่จบเมื่อเขาได้สูญเสียพี่ชายของตัวเองไป โบ ไบเดน ในปี 2015 ด้วยโรคมะเร็งสมอง ซึ่งเป็นวันที่ทั้งครอบครัวไบเดนต้องอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบากโดยเฉพาะกับผู้เป็นพ่อ โจ ไบเดน ดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดีสหรัฐฯในเวลานั้น
“พี่ชายผมเพิ่งตาย และผมแยกทางกับภรรยา ผมอยู่ในอพาร์ตเมนต์คนเดียวตามลำพังผมดื่มอย่างหนัก มันเลวร้ายมาก ผมหมายถึง ความปวดร้าวสามารถทำได้หลายสิ่งที่น่าขบขันได้ และบวกกับการเสพจนติดทำให้เป็นการยากที่จะเอาชนะ” ไบเดนเปิดเผยในรายงานของบีบีซี
และชี้ว่า จากในช่วงเวลาที่เขากำลังต่อสู้ต่อสิ่งเหล่านี้ทำให้ตัวเองตกเป็นเป้าของสื่อแทบลอยด์และการโจมตีทางการเมือง
ซึ่งไบเดนกล่าวกับบีบีซีว่า เขาตั้งใจที่จะเขียนหนังสือความทรงจำเล่มนี้ขึ้น เพราะต้องการสื่อไปถึงความรักในครอบครัวและสิ่งนี้ได้ช่วยนำผมกลับมาได้อย่างไร
ในการให้สัมภาษณ์ไบเดนกล่าวไปถึงการสอบสวนเกี่ยวกับยูเครนที่เขานั่งในบอร์ดพลังงานบริษัท ยูเครน บูริสมา (Burisma) โดยในเวลานั้น ฮันเตอร์ ไบเดน นั่งเป็นประธานบอร์ดของบูริสมาและผู้เป็นพ่อดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ และประเด็นเรื่องตัวเขาทำให้อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ จากฝ่ายตรงข้าม พยายามกดดันผ่านการพูดคุยทางโทรศัพท์ครั้งแรกกับ โวโลดีมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครนคนใหม่ ในเวลานั้นให้เปิดการสอบสวนเกี่ยวกับตัวเขา โดยทรัมป์ข่มขู่ที่จะยังไม่ส่งงบช่วยเหลือทางการทหารให้กับยูเครน
ซึ่งในการให้สัมภาษณ์กับบีบีซีขณะที่ไบเดนพยายามที่จะกล่าวปกป้องถึงคุณสมบัติสำหรับการรับตำแหน่งของตัวเองในบูริสมา โดยเขากล่าวว่า เมื่อมองย้อนไป เขาคิดว่า เขาพลาด..ในมุมมองที่เขาได้สร้างขึ้น”
“ผมรู้ว่ามันยากที่จะเชื่อ ที่มีแค่ 20/20 ในการเข้าใจสถานการณ์ที่ผมอาจทำผิดพลาดไปได้อย่างไร”
บุตรชายผู้นำสหรัฐฯกล่าวต่อว่า ผมรู้ว่าทางบูริสมาเห็นชื่อ “ฮันเตอร์ ไบเดน” เหมือนเห็น “ทอง” และนั่นเป็นส่วนสำคัญของการแต่งตั้งเขาในบอร์ด แต่ถึงแม้ไม่มีหลักฐานยืนยันการกระทำผิด ทว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯแสดงความวิตกไปถึงผลประโยชน์ทับซ้อนที่อาจเกิดขึ้นย้อนไปไกลถึงปี 2015
โดยในการสอบสวนของสมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯจากพรรครีพับลิกันในปีที่แล้ว การทำงานของฮันเตอร์ ไบเดน ให้กับบริษัทพลังงานยูเครนนั้นเป็นปัญหา แต่สรุปออกมาว่าไม่มีหลักฐานพิสูจน์ได้ว่านโยบายการต่างประเทศสหรัฐฯได้รับผลกระทบจากสิ่งนี้ และในรายงานยังอ้างต่อด้วยว่าญาติของโจ ไบเดน ได้รับผลประโยชน์จากการดำรงตำแน่งรองประธานาธิบดีสหรัฐฯของไบเดน