เกาหลีเหนือจะไม่เข้าร่วมมหกรรมกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน ที่กรุงโตเกียว เป็นเจ้าภาพในปีนี้ สืบเนื่องจากโรคระบาดใหญ่ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ จากการเปิดเผยของกระทรวงกีฬาเปียงยาง ดับโอกาสของเกาหลีใต้ที่หวังใช้โตเกียวเกมส์ รื้อฟื้นการเจรจากับชาติเพื่อนบ้าน
การเข้าร่วมของเกาหลีเหนือในศึกกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวหนที่ผ่านมา ซึ่งจัดขึ้นในเมืองพย็องชัง ประเทศเกาหลีใต้ คือ ตัวเร่งสำคัญในสานสัมพันธ์ทางการทูตใหม่เมื่อปี 2018
คิม โยจอง น้องสาวของ คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ เข้าร่วมในกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวในครั้งนั้น ในการเปิดตัวอย่างเจิดจรัสของเธอ และประธาธิบดี มุน แจ-อิน ของเกาหลีใต้ คว้าโอกาสดังกล่าวสำหรับเป็นคนกลางการเจรจาระหว่างเปียงยางและวอชิงตัน อันนำไปมาซึ่งการพบปะกันหลายครั้งระหว่าง คิม จองอึน กับประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ณ ขณะนั้น
อย่างไรก็ตาม คำแถลงของเปียงยางดับความหวังของเกาหลีใต้ที่หวังใช้โตเกียวเกมส์ ซึ่งมีกำหนดเริ่มขึ้นในเดือนกรกฎาคม เป็นกระตุ้นคืนชีพกระบวนการเจรจาที่หยุดชะงักมานาน
“ที่ประชุมคณะกรรมการโอลิมปิกของเกาหลีเหนือ ตัดสินใจไม่เข้าร่วมกีฬาโอลิมปิกเกมส์ครั้งที่ 32 เพื่อปกป้องนักกีฬาจากวิกฤตสาธารณสุขโลก ซึ่งมีต้นตอจากโควิด-19“” กระทรวงกีฬาเกาหลีเหนือระบุในถ้อยแถลงที่เผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ DPR Korea ซึ่งดูแลโดยกระทรวงกีฬาของเกาหลีเหนือ
คำแถลงดังกล่าวซึ่งลงวันที่ 5 เมษายน เป็นรายงานการประชุมของคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งชาติเมื่อวันที่ 25 มีนาคม
เปียงยางอยู่ภายใต้มาตรการคว่ำบาตรนานาชาติต่างๆ นานา เกี่ยวกับโครงการอาวุธต้องห้ามของพวกเขา และต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา หลังกำหนดมาตรการล็อกดาวน์อันเข้มข้นราวๆ 1 ปีก่อน ในความพยายามปกป้องตนเองจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ที่ปรากฏตัวครั้งแรกในจีน ประเทศเพื่อนบ้าน ก่อนแพร่ระบาดลุกลามไปทั่วโลก
เกาหลีเหนือยืนยันว่า พวกเขาไม่พบเคสผู้ติดเชื้อโควิด-19 แม้แต่รายเดียว แต่บรรดาผู้เชี่ยวชาญไม่เชื่อในคำกล่าวอ้างดังกล่าว
รัฐบาลใหม่สหรัฐฯของ โจ ไบเดน อยู่ในขั้นสุดท้ายของการทบทวนนโยบายเกาหลีเหนือ ซึ่งได้รับคาดหมายอย่างกว้างขวางว่าจะสนับสนุนการคืนสู่การเจรจาระดับล่างมากกว่าที่จะเป็นประชุมซัมมิตที่เสี่ยงเดิมพันสูงและเสี่ยงเกิดประเด็นดราม่ามากมาย
ระหว่างการหาเสียง ไบเดน บรรยายอุปนิสัย คิม ว่าเป็น “อันธพาล” และวิพากษ์วิจารณ์การประชุมของทรัมป์ พร้อมระบุเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้วเรียก คิม เป็นหนึ่งในผู้นำโหดเหี้ยมที่สุดของโลก อย่างไรก็ตามเขาบอกเช่นกันว่าเขาเปิดกว้างสำหรับการเจรจา
ไบเดน ยังเตือนเกาหลีเหนือ เกี่ยวกับผลลัพธ์ของการละเมิดมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หลังจากเมื่อเร็วๆนี้เปียงยางทดสอบสิ่งที่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯเชื่อว่าเป็นขีปนาวุธทิ้งตัว
ความสัมพันธ์ระหว่างสองชาติเกาหลีก็อยู่ในภาวะแน่นิ่งเช่นกัน โดยเกาหลีเหนือเน้นย้ำว่าไม่มีความสนใจเจรจากับเกาหลีใต้ และเมื่อปีที่แล้ว ได้ระเบิดทิ้งสำนักงานประสานงานแห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ในฟากฝั่งของพวกเขาตามแนวชายแดน
ถึงกระนั้น ประธานาธิบดี มูน กล่าวปราศรัยเนื่องในวันอิสรภาพเมื่อวันที่ 1 มีนาคม ว่า “โตเกียว โอลิมปิกส์ ในปีนี้ อาจเป็นโอกาสสำหรับการเจรจาระหว่างเกาหลีใต้กับญี่ปุ่น เกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้ เกาหลีเหนือกับญี่ปุ่น และเกาหลีเหนือกับสหรัฐฯ”
เกาหลีเหนือประณาม ญี่ปุ่น ชาติเจ้าภาพโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้ เป็นประจำ ต่อการผนวกเกาหลีอย่างโหดเหี้ยมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนเมื่อยุคศตวรรษที่ 20 และเคซีเอ็นเอรายงานเมื่อวันอาทิตย์ (4 เม.ย.) เปียงยางยังได้ประณามหนังสือเรียนประวัติศาสตร์ใหม่ของญี่ปุ่นว่าเป็นความพยายามอย่างไม่ลดละและน่าอดสูในการบิดเบือนประวัติศาสตร์
(ที่มา: เอเอฟพี)
