xs
xsm
sm
md
lg

In Clip: LG ตัดใจสั่งยุติ “แบรนด์มือถือ” ของตัวเองหลังขาดทุนยับมาโดยตลอด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอเอฟพี/เอพี/รอยเตอร์ – บริษัท LG ของเกาหลีใต้วันจันทร์(5 เม.ย)ออกแถลงการณ์ยุติธุรกิจแผนกมือถือของตัวเองลง หลังจากที่ผ่านมาขาดทุนหลายพันล้านมาตลอดไม่กี่ปีที่ผ่านมา เดินหน้าให้ความสนใจด้านชิ้นส่วนรถยนต์ไฟฟ้า หุ่นยนต์ เอไอ และเครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะอื่นๆ

เอเอฟพีรายงานวันนี้(5 เม.ย)ว่า บริษัท LG ซึ่งถือเป็นยักษ์ใหญ่อันดับ 2 ของเกาหลีใต้ เป็นรองแค่จากซัมซุงออกแถลงการณ์ในวันนี้(5)ประกาศยุติธุรกิจมือถือสมาร์ทโฟนของตัวเอง

LG ซึ่งครั้งหนึ่งเคยขึ้นชื่อว่าเป็นผู้บุกเบิกปฎิบัติการแอนดรอยด์บนโทรศัพท์มือถือในความร่วมมือกับ กูเกิล ซีรีส์ เน็กซัสเมื่อต้นยุคปี 2010 แต่พบว่าธุรกิจมือถือ LG นั้นมีตัวเลขการขาดทุนติดต่อกัน 23 ไตรมาสรวดนับตั้งแต่ปี 2015 ที่มีตัวเลขขาดทุนรวม 5 ล้านล้านวอน หรือ 4.4 พันล้านดอลลาร์ เมื่อสิ้นปีที่แล้ว

โดยในแถลงการณ์ LG กล่าวว่าแผนกธุรกิจมือถือสมาร์ทโฟนของตัว “ล้มเหลวในการหาผลลัพท์” ท่ามกลางการแข่งขันอย่างสูงทางด้านราคาของคู่แข่งสำคัญในตลาดมือถือระดับล่าง และการยุติการทำธุรกิจสมาร์ทโฟนนี้จะทำให้ทางบริษัทสามารถใช้ทรัพยากรที่มีให้ความสนใจไปยังด้านอื่นที่กำลังมีการเติบโต เป็นต้นว่า รถไฟฟ้า หุ่นยนต์และอุปกรณ์เครื่องใช้ในบ้านอัจฉริยะ เอเอฟพีรายงาน

รอยเตอร์รายงานว่า ข่าวการแถลงนำ LG ออกมาจากตลาดมือถือสมาร์ทโฟนเนื่องมาจากก่อนหน้าทางบริษัทไม่สามารถหาผู้ซื้อได้ โดยมีการเจรจาเกิดขึ้นกับบริษัทวิงกรุ๊ป( Vingroup) ของเวียดนามแต่ไม่สามารถตกลงในราคาได้ อ้างอิงจากการรายงานของสื่อท้องถิ่น

การออกจากธุรกิจสมาร์ทโฟนที่ LG อยู่ในอันดับ 3 ของตลาดอเมริกาเหนือสัดส่วน 13% โดยมีเป้าหมายไปที่ตลาดมือถือระดับกลางและตลาดมือถือระดับล่าง ขณะที่ แอปเปิล เจ้าของไอโฟนเป็นผู้นำตลาด 39% และซัมซุงอันดับ 2 ที่ 30% ทำให้ส่วนแบ่งตลาดของ LG นี้คาดว่าจะตกเป็นของซัมซุงที่มีผลิตภัณฑ์ในตลาดระดับกลางมากกว่า แอปเปิล

รอยเตอร์กล่าวว่า พนักงานแผนกธุรกิจมือถือของ LG ในเกาหลีใต้คาดว่าจะถูกย้ายยังแผนกอื่นภายในเครือหรือที่เกี่ยวข้อง ซึ่งการตัดสินใจในการจ้างงานจะอยู่ในระดับพื้นที่ แต่อย่างไรก็ตามทาง LG จะยังคงให้บริการและรวมไปถึงการอัปเดตซอฟแวร์ต่อผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฟนของตัวเองที่ยังคงอยู่ในตลาดไปชั่วระยะเวลาหนึ่งเพื่อทำให้ผู้บริโภคยังคงมีหลักประกันในการใช้งานของสินค้าต่อไป แต่การให้บริการจะแตกต่างออกไปตามภูมิภาค อ้างอิงจากแถลงการณ์ของบริษัท






กำลังโหลดความคิดเห็น