ประธานาธิบดี โรดริโก ดูเตอร์เต ของฟิลิปปินส์ ขยายคำสั่งล็อกดาวน์ในพื้นที่เมืองหลวงและจังหวัดปริมณฑลออกไปอย่างน้อยหนึ่งสัปดาห์ เพื่อยับยั้งการเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โฆษกของเขา กล่าวในวันเสาร์ (3)
ฟิลิปปินส์ ซึ่งมีจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 สูงเป็นอันดับสองในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อ 12,576 คน ในวันเสาร์ (3) ยิ่งเพิ่มความตึงเครียดให้ระบบบริการสุขภาพมากขึ้นไปอีก
คำสั่งดังกล่าว ซึ่งรวมถึงการห้ามเดินทาง ชุมนุม และรับประทานอาหารในร้านอาหารโดยไม่จำเป็น จะยังคงอยู่ต่อไปอีกอย่างน้อยหนึ่งสัปดาห์ แฮร์รี โรก โฆษกของดูเตอร์เต ระบุในประกาศทางโทรทัศน์ คำสั่งนี้เดิมทีจะสิ้นสุดลงในวันที่ 4 เมษายน
“มันจะเริ่มด้วยการป้องกัน การตรวจ การกักตัว การติดตาม และการฟื้นฟูที่เข้มงวดมากขึ้น ซึ่งเราจะเฝ้าสังเกตการณ์รายวัน” โรก กล่าว
จำนวนผู้ป่วยที่ยังไม่หายดีในประเทศนี้อยู่ที่ 165,715 ราย ในจำนวนนี้ 96 เปอร์เซ็นต์ มีอาการไม่รุนแรง ข้อมูลกระทรวงสาธารณสุข เผย
แต่ขีดความสามารถการดูแลผู้ป่วยหนักในโรงพยาบาลเขตเมืองหลวงอยู่ในขั้นวิกฤตแล้ว 80 เปอร์เซ็นต์ของเตียงถูกนำมาประยุกต์ใช้และหลายโรงพยาบาลต้องปิดรับผู้ป่วย
เขตเมืองหลวง ซึ่งเมือง 16 เมือง และประชากรอย่างน้อย 13 ล้านคน คิดเป็น 2 ใน 5 ของจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมด 784,043 คนและ 1 ใน 3 ของผู้เสียชีวิต 13,423 คน เมื่อวันเสาร์ (3) ทีมวิจัยมหาวิทยาลัยฟิลิปปินส์เรียกร้องเร่งก่อสร้างค่ายกักตัวเพื่อป้องกันไม่ให้การแพร่ระบาดลุกลาม
คำสั่งล็อกดาวน์นี้จะส่งผลเสียหายต่อเศรษฐกิจของฟิลิปปินส์ต่อไป หลังจากตัวเลขการเติบโตดิ่งลง 9.5 เปอร์เซ็นต์ เมื่อปีที่แล้ว
จนถึงตอนนี้ ฟิลิปปินส์ฉีดวัคซีนประชาชนไปแล้วเกือบ 739,000 คน นี่เป็นเพียง 1 เปอร์เซ็นต์ของเป้าหมายการให้วัคซีนประชากร 108 ล้านคนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่และเปิดเศรษฐกิจใหม่อีกครั้งอย่างปลอดภัย
ที่มา รอยเตอร์
