ชาวอินเดีย 11 คน เสียชีวิตหลังตั้งวงซดเหล้าเถื่อนที่รัฐพิหาร ขณะที่ครอบครัวผู้เสียชีวิตโทษว่าเป็นความผิดของภาครัฐที่ล้มเหลวในการกวาดล้างผู้ผลิตน้ำเมาเถื่อนเหล่านี้
พิหารซึ่งเป็นรัฐที่ยากจนที่สุดของอินเดียออกกฎหมายห้ามการผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตั้งแต่ปี 2016 ทว่า จากการสำรวจด้านสุขภาวะแห่งชาติเมื่อปี 2019-2020 พบว่า ชายชาวพิหารเกิน 15% ยังคงดื่มสุรากันอยู่
ทางการได้รับแจ้งว่า มีผู้เสียชีวิตรวม 8 ศพ จากการดื่มเหล้าเถื่อนเมื่อวันพุธ (31 มี.ค.) และมีเพิ่มมาอีก 3 ศพ เมื่อวานนี้ (1 เม.ย.) โดยเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังเทศกาลโฮลี (Holi) ที่คนอินเดียจะมีการดื่มสังสรรค์กันหนักเป็นพิเศษ
ญาติผู้ตายบอกกับเจ้าหน้าที่ ว่า หลังจากที่คนเหล่านั้นดื่มเหล้าซึ่งผลิตในชุมชนเข้าไปก็บ่นว่าปวดท้องและอาเจียน ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาไม่นาน
ผู้ตายส่วนใหญ่เป็นแรงงานภาคเกษตรที่ไม่มีที่ดินเป็นของตัวเอง หรือไม่ก็เกษตรกรซึ่งมีที่ทำกินผืนเล็กๆ ในเขตชนบทของรัฐพิหาร
เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นยืนยันว่า ตอนนี้ยังมีผู้ป่วยจากแอลกอฮอล์เป็นพิษนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลอีก 5 คน
ครอบครัวผู้เสียชีวิตได้รวมตัวประท้วงในหลายหมู่บ้าน โดยต่างกล่าวโทษทางการว่าปล่อยปละละเลยให้พวกพ่อค้าขายเหล้าเถื่อนกันอย่างโจ๋งครึ่มจนมีคนเสียชีวิต
สมาคมผู้ผลิตสุรากลั่นนานาชาติและไวน์แห่งอินเดียประเมินว่า ชาวแดนภารตะบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประมาณ 5,000 ล้านลิตรต่อปี และ 40% เป็นเหล้าเถื่อน
อินเดียมีข่าวคนเสียชีวิตจากการดื่มเหล้าเถื่อนอยู่เป็นประจำ โดยสุราราคาถูกที่ผลิตในครัวเรือนนี้พบได้ทั่วไปในหลายพื้นที่ทุรกันดารของอินเดีย และคนขายเหล้าเถื่อนมักเติมเมทานอล แอลกอฮอล์แบบมีพิษสูงประเภทหนึ่งที่บางครั้งถูกใช้เพื่อกันการเยือกแข็ง ลงไปในผลิตภัณฑ์เพื่อเพิ่มความแรง
ย้อนไปเมื่อปี 2015 มีชาวสลัมในนครมุมไบเสียชีวิตจากการดื่มเหล้าเถื่อนมากกว่า 100 คน
ที่มา: เอเอฟพี