เอเจนซีส์ – เมื่อวานนี้(29 มี.ค)อัยการสหรัฐฯ เจอร์รี แบล็กเวลล์(Jerry Blackwell)ขึ้นให้การชี้ อดีตตำรวจมินนีอาโปลิส เดเรค ชอวิน (Derek Chauvin)ใช้ความรุนแรงเกินกว่าเหตุและอย่างไม่มีเหตุผลโดยไม่คำนึงว่าฟลอยด์ที่ทำผิดข้อหาเล็กน้อยนั้นจะเสียชีวิตได้โดยชี้ไปถึงเข่าที่กดบนคอของฟลอยด์นานกว่า 9 นาทีระหว่างที่ฟลอยด์ร้องขอชีวิตจนขาดใจตาย
หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษ รายงานวันนี้(30 มี.ค)ว่า การไต่สวนครั้งแรกคดี “จอร์จ ฟลอยด์” ที่ทำให้เกิดการประท้วงอย่างรุนแรงลามไปทั่วสหรัฐฯและทั่วโลกได้เปิดฉากขึ้นที่เมืองมินนีอาโปลิส รัฐมินนีโซตา ในวันจันทร์(29)
อัยการสหรัฐฯ เจอร์รี แบล็กเวลล์(Jerry Blackwell)ขึ้นให้การต่อคณะลูกขุน 15 คนที่ประกอบไปด้วยหญิง 9 คน และชาย 6 คน โดยมีหญิงผิวขาว 6 คน ชายผิวดำ 3 คน หญิงที่มีหลายเชื้อชาติ 2 คน ชายผิวขาว 2 คน และหญิงผิวดำ 1 คน
แบล็กเวลล์กล่าวว่า สาเหตุการเสียชีวิตของฟลอยด์ที่เกิดขึ้นเมื่อพฤษภาคมปีที่แล้วคือการที่อดีตเจ้าหน้าที่ชอวินใช้เข่ากดไว้ที่คอของเขานานกว่า 9 นาทีถึงแม้ว่าฟลอยด์จะหยุดหายใจไปแล้วก็ตาม
อัยการสหรัฐฯกล่าวหาชอวินว่า ใช้กำลังเกินเหตุอย่างไม่มีเหตุผลโดยที่ไม่คำนึงถึงชีวิตของ “จอร์จ ฟลอยด์” ซึ่งเป็นผู้ถูกจับกุม
แบล็กเวลล์ชี้ว่า “การทำร้ายร่างกาย” นี้นำมาสู่การเสียชีวิตของเหยื่อ
ชอวินอดีตตำรวจผิวขาววัย 45 ปีปฎิเสธข้อกล่าวหาความผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่ได้มีการไตร่ตรองวางแผนล่วงหน้า(Second degree murder) ข้อหาฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา (third degree murder) และข้อหาฐานฆ่าคนตาย (manslaughter)ในการเสียชีวิตของฟลอยด์ แอฟริกันอเมริกันวัย 46 ปีที่ถูกควบคุมด้วยความผิดเล็กน้อยคือการใช้เงินธนบัตร 20 ดอลลาร์ปลอมมูลค่า 625 บาทซื้อบุหรี่ แต่กลับต้องจบชีวิตด้วยราคาแค่ 625 บาทนี้
ชอวินถูกไล่ออกจากงานไม่นานหลังจากนั้น และหากเขาถูกตัดสินว่ามีความผิดจริงเขาต้องรับโทษในเรือนจำ 40 ปีของข้อหาที่มีโทษหนักที่สุด
ด้าน เอริค เนลสัน (Eric Nelson) ทนายความของชอวินขึ้นแถลงโต้ว่า หลักฐานพิสูจน์ชัดว่าฟลอยด์ใช้ยาเสพติดดังนั้นการใช้กำลังกับเขาจึงสมเหตุสมผลเนื่องมาจากพฤติกรรมของเขาเอง โดยเขาได้ชี้ไปถึงยาโอปิออยด์ซึ่งเป็นยาระงับการปวดขั้นร้ายแรงที่ถูกกฎหมายและใช้ทั่วไปในสหรัฐฯจากการผ่านการสั่งจ่ายจากแพทย์
โดยชี้ว่าพยานได้ให้การว่าห็นฟลอยด์กินยาแก้ปวดโอปิออยด์ไม่นานก่อนที่จะถูกควบคุมและช่วงเวลาก่อนที่ "เขาจะหมดสติ"
"หลักฐานจะแสดงว่าเมื่อเวลาเผชิญหน้ากับตำรวจ คุณฟลอยด์รีบนำยาเข้าปากตัวเองเพื่อซ่อนมันจากตำรวจ" เนลสันแถลง
ขณะที่ด้านนอกศาล เบนจามิน ครัมป์( Benjamin Crump)ทนายความของครอบครัวฟลอยด์ แถลงต่อสาธารณะว่า การไต่สวนเป็นบทพิสูจน์ระบบยุติธรรมของอเมริกาและโลกกำลังจ้องมอง
“วันนี้เป็นการเริ่มการไต่สวนครั้งประวัติศาสตร์ที่จะเป็นการวัดว่าอเมริกามาได้ไกลเท่าไรแล้วในการเข้าสู่ความเท่าเทียมและความยุติธรรมเพื่อคนทั้งปวง”
และมีกลุ่มผู้ประท้วงต่างถือป้ายข้อความระบุว่า “มินนีอาโปลิสจะไม่มีวันลืม จอร์จ ฟลอยด์” และ “คุณจอร์จ ฟลอยด์ไม่ได้ถูกไต่สวนแต่เป็น ดีเรค ชอวิน”
ซึ่งเมื่ออยู่ต่อหน้าคณะลูกขุนอัยการสหรัฐฯได้แสดงวิดีคลิปความยาว 9 นาที 29 วินาทีที่แสดงให้เห็นว่าฟลอยด์อยู่ภายใต้ร่างของชอวินที่ใช้เข่ากดที่คอของเขาไว้ โดยในวิดีโอคลิป ฟลอยด์กล่าวราว 20 ครั้งเห็นจะได้ว่าเขาหายใจไม่ออก และอีก 10 ครั้งที่กล่าวว่าตัวเองกำลังจะตาย
นอกจากนี้ฟลอยด์ยังได้เอ่ยเรียกแม่ของตัวเองที่ได้เสียชีวิตไปแล้วซ้ำแล้วซ้ำเล่า แบล็กเวลล์กล่าวว่า ผู้ตายยังได้เอ่ยไปถึงลูกๆของตัวเองว่า "ช่วยไปบอกลูกๆของผมด้วยว่าผมรักพวกแก" และ "ผมคงต้องตายแบบนี้แน่ๆ" "พวกเขากำลังฆ่าผม"
ทั้งนี้อัยการสหรัฐฯชี้ว่าในนาทีสุดท้ายที่เข่าของชอวินยังคงกดอยู่ที่คอแต่ทว่าผู้ตายได้หยุดหายใจไปแล้ว โดยชี้ว่าอดีตตำรวจมินนีอาโปลิสไม่ยอมหยุดไม่ยอมเลิกแม้ว่าฟลอยด์จะไม่มีสัญญาณชีพจร
