รอยเตอร์ – ผู้ต้องสงสัยมือระเบิดพลีชีพโจมตีโบสถ์คริสต์ที่เมืองมากัสซาร์ในวันอาทิตย์ (28 มี.ค.) ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 14 คน โดยตำรวจอินโดนีเซียกำลังเร่งตรวจสอบว่า เกี่ยวข้องกับกลุ่มติดอาวุธในเมืองดังกล่าวที่ถูกหน่วยต่อต้านการก่อการร้ายบุกจับกุมเมื่อต้นปีหรือไม่
ตำรวจเผยว่า ชาวคริสต์กำลังทำพิธีมิสซาภายในโบสถ์แคทอลิกบนเกาะสุลาเวสี ตอนที่มือระเบิดสองคนปลดชนวนระเบิดอย่างน้อย 1 ลูกด้านนอก ทำให้เหตุการณ์นี้มีผู้เสียชีวิตเพียง 2 คน เป็นมือระเบิดผู้ก่อเหตุคู่นี้
ประธานาธิบดีโจโค วิโดโด ประณามว่า เหตุการณ์นี้เป็นการก่อการร้าย พร้อมสั่งให้ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนเครือข่ายผู้ก่อเหตุอย่างละเอียด และขุดรากถอนโคนเครือข่ายนี้
ทางด้านอาร์โก ยูโวโน โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงว่า ตำรวจกำลังตรวจสอบว่า มือระเบิดเป็นสมาชิกเครือข่ายใด และการโจมตีนี้เกี่ยวข้องกับการจับกุมผู้ต้องสงสัยเป็นสมาชิกกลุ่มติดอาวุธที่จับกุมได้เมื่อเร็วๆ นี้หรือไม่
ทั้งนี้ เดือนมกราคมที่ผ่านมา หน่วยต่อต้านการก่อการร้ายของอินโดนีเซียได้บุกค้นแหล่งกบดานของกลุ่มติดอาวุธในมากัสซาร์ และสังหารชาย 2 คนที่สงสัยว่า มีส่วนเกี่ยวข้องในเหตุระเบิดสองครั้งในโบสถ์คริสต์ของฟิลิปปินส์เมื่อปี 2019 ซึ่งมีผู้เสียชีวิตกว่า 20 คน
โจโควี ผู้นำแดนอิเหนา เรียกร้องให้ประชาชนอยู่ในความสงบ และเสริมว่า ทุกคนสามารถไปประกอบพิธีทางศาสนาได้โดย “ไม่ต้องกลัว”
วิลเฮมัส ตูลัก บาทหลวงประจำโบสถ์ที่ถูกโจมตี เผยว่า ผู้ต้องสงสัยพยายามขี่มอเตอร์ไซค์เข้าไปในโบสถ์ แต่ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกั้นไว้
อันไซยาด เอ็มบาอี อดีตผู้อำนวยการสำนักงานต่อต้านการก่อการร้ายแห่งชาติ กล่าวว่า มีแนวโน้มที่ผู้ก่อเหตุจะเป็นสมาชิกกลุ่มที่อยู่เบื้องหลังเหตุระเบิดในโจโล ฟิลิปปินส์ เมื่อปีที่แล้ว และต้องการใช้การโจมตีครั้งนี้เพื่อประกาศว่า เครือข่ายของตนยังคงมีอยู่ เผยแพร่อุดมการณ์ และระดมสมาชิกใหม่
ตำรวจอินโดนีเซียเชื่อว่า กลุ่มจามาห์ อันชอรุต ดอเลาะห์ ที่ฝักใฝ่กลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) อยู่เบื้องหลังการโจมตีพลีชีพโบสถ์หลายแห่งและสถานีตำรวจแห่งหนึ่งในเมืองสุราบายาที่มีผู้เสียชีวิตกว่า 30 คนเมื่อปี 2018
มากัสซาร์ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่สุดของสุลาเวสี เป็นภาพสะท้อนภาพรวมทางศาสนาของอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีประชากรมุสลิมใหญ่ที่สุดในโลก และมีชาวคริสเตียนเป็นชนกลุ่มน้อย รวมทั้งยังมีผู้นับถือศาสนาอื่นๆ
ยาคุต โชลิล กูมาส รัฐมนตรีกิจการศาสนาของอินโดนีเซีย แถลงว่า ไม่ว่าแรงจูงใจคืออะไร แต่การกระทำนี้ไม่ถูกต้องไม่ว่าภายใต้ศาสนาใด เนื่องจากไม่ได้ทำให้ใครเพียงคนเดียวได้รับอันตราย แต่ยังมีคนอื่นๆ ได้รับบาดเจ็บด้วย
โกมาร์ กุลตอม ประธานสภาโบสถ์คริสต์อินโดนีเซีย ประณามว่า การโจมตีที่เกิดขึ้นเป็น “เหตุการณ์โหดร้าย” เนื่องจากชาวคริสต์กำลังฉลองวันอาทิตย์ใบลาน (Palm Sunday) หรือวันแห่งชัยชนะของพระเยซู และเรียกร้องให้ประชาชนอยู่ในความสงบ รวมทั้งขอให้วางใจในการทำงานของเจ้าหน้าที่
เหตุการณ์โจมตีของกลุ่มติดอาวุธอิสลามที่รุนแรงที่สุดในอินโดนีเซียเกิดขึ้นบนเกาะบาหลีเมื่อปี 2002 ที่มือระเบิดสังหารประชาชนถึง 202 คน ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ
ช่วงหลายปีหลังจากนั้น กองกำลังความมั่นคงของอินโดนีเซียประสบความสำเร็จสำคัญหลายครั้งในการจัดการกลุ่มติดอาวุธ ทว่า เมื่อเร็วๆ นี้กลุ่มเหล่านี้เริ่มกลับมาก่อเหตุอีกระลอก