บราซิลยืนยันพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 85,948 คน และเสียชีวิตเพิ่มอีก 3,438 ราย ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา จากการเปิดเผยของกระทรวงสาธารณสุขในวันเสาร์ (27 มี.ค.) ถือเป็นวันที่ 2 ติดต่อกันที่มีผู้เสียชีวิตเกิน 3,000 คน ท่ามกลางคำเตือนเกี่ยวกับสถานการณ์เลวร้าย ระบบสาธารณสุขของประเทศใกล้ถึงขีดจำกัด
ข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขบราซิลระบุว่า จากตัวเลขของวันเสาร์ (27 มี.ค.) ส่งผลให้เวลานี้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมของประเทศ อยู่ที่เกือบๆ 12.5 ล้านคน ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการ เพิ่มเป็น 310,550 ราย
จำนวนผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ที่เฉียดเข้าใกล้ระดับ 4,000 คนของบราซิล มีขึ้นท่ามกลางคำเตือนจากคณะแพทย์และพยาบาล ว่าพวกเขาใกล้ถึงขีดจำกัดในการรับมือกับคนไข้โควิด-19 ที่ไหลบ่าเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลมากขึ้นเรื่อยๆ
ก่อนหน้านี้เมื่อวันศุกร์ (26 มี.ค.) บราซิลเพิ่งทำสถิติมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 รายวันสูงสุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาด ด้วยจำนวน 3,650 ราย ในขณะที่ดูหมือนว่าการแพรร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในชาติเศรษฐกิจยักษ์ใหญ่ที่สุดในละตินอเมริกา หลุดจากการควบคุมอีกครั้ง
ปัจจุบันบราซิลมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 รายวัน คิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 4 ของจำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 รายวันทั้งหมดทั่วโลก ทั้งนี้หากไม่นับตัวเลขล่าสุดของวันเสาร์ (27 มี.ค.) บราซิล มีค่าเฉลี่ยผู้เสียชีวิตรอบ 7 วันอยู่ที่ 2,400 คน แต่พวกผู้เชี่ยวชาญคาดหมายว่ามันน่าจะแตะระดับ 3,000 คน ภายในไม่กี่สัปดาห์
พวกผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขเตือนว่าประเทศแห่งนี้กำลังอยู่บนขอบเหวหายนะเลวร้าย ท่ามกลางการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วทั่วประเทศของตัวกลายพันธุ์ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
เมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว (25 มี.ค.) เป็นครั้งแรกที่ประเทศแห่งนี้ มียอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายวันเกิน 100,000 คน แต่มีอีกจำนวนมากที่ยังไม่ได้นับ
มิเกล นิโคเลลิส ศาสตราจารย์ด้านประสาทชีววิทยาแห่งมหาวิทยาลัยดุค ซึ่งให้คำปรึกษาเหล่าผู้ว่าการรัฐต่างๆและบรรดานายกเทศมนตรีทั้งหลายของบราซิล ในด้านการควบคุมโรคระบาดใหญ่ คาดหมายว่ายอดผู้เสียชีวิตจะแตะระดับ 500,000 คนในเดือนกรกฎาคม
เขากล่าว่า “เราก้าวผ่านระดับที่ไม่เคยคิดมาก่อน สำหรับประเทศแห่งหนึ่งที่มีระบบสาธารณสุข ประเทศหนึ่งๆ ที่มีประวัติรณรงค์ภูมิคุ้มกันอย่างพอเพียง และมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขซึ่งไม่เป็นสองรองใครในโลก” ศาสตราจารย์มิเกล นิโคเลลิส กล่าว “ขั้นต่อไปคือการล่มสลายของระบบสาธารณสุข”
นายแพทย์โฮเซ อันโตนิโอ คูเรียติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาล das Clinicas ใรัฐเซาเปาลู ศูนย์การแพทย์ใหญ่ที่สุดในละตินอเมริกา เผยว่าเตียงผู้ป่วยของโรงพยาบาลเต็มหมดแล้ว แต่คนไข้ยังคงหลั่งไหลมาไม่ขาดสาย “เมืองไม่สามารถรับประกันออกซิเจนได้ สต๊อกยาระงับประสาทที่จำเป็นสำหรับใช้ในห้องไอซียู จะหมดเร็วๆ นี้”
“จำนวนผู้เสียชีวิต 4,000 คนต่อวัน ดูเหมือนใกล้มาถึงแล้ว” นายแพทย์ดูเรียติกล่าว
ฟิโอครูซ สถานบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่บริหารโดยภาครัฐของบราซิล เมื่อวันอังคาร (23 มี.ค.) เรียกร้องขอให้มีการล็อกดาวน์ 14 วัน เพื่อลดการแพร่เชื้อลง 40%
นาตาเลีย ปาสเตอร์นัค นักจุลชีววิทยา ประธานสถาบันคำถามวิทยาศาสตร์ ระบุว่า “เราจำเป็นต้องดำเนินการด้วยความร่วมมือ และบางทีมันอาจไม่เกิดขึ้น เพราะว่ารัฐบาลกลางไม่มีความสนใจที่แท้จริงในการเสาะหามาตรการป้องกันไว้ก่อนใดๆ” เขากล่าว “นายกเทศมนตรีและผู้ว่าการรัฐพยายามบังคับใช้มาตรการป้องกันไว้ก่อน แต่ดำเนินการแยกกันและในแนวทางของตนเอง ม้นไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุด แต่ก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย”
มีนัสเชไรส์ รัฐที่มีประชากรมากที่สุดอันดับ 2 ของบราซิล ปิดร้านค้าต่างๆ ที่ไม่จำเป็น ส่วนรัฐเอสปีรีตูซานตู เข้าสู่การล็อกดาวน์ในวันเสาร์ (27 มี.ค.) ขณะที่ รีโอและเซาเปาลู สองเมืองใหญ่ที่สุดของบราซิล ได้กำหนดข้อจำกัดต่างๆอย่างครอบคลุมต่อกิจกรรมต่างๆ ที่ไม่มีความจำเป็น และร่นวันหยุดให้เร็วขึ้น เพื่อกำหนดช่วงเวลา 10 วันแห่งการหยุดนิ่ง เริ่มตั้งแต่วันศุกร์ (26 มี.ค.)
อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีฌาอีร์ โบลโซนารู ยังคงบ่อนทำลายความตั้งใจของพวกเขา โดยถึงขั้นวาดภาพการล็อกดาวน์บางส่วน ว่าเป็นการจู่โจมสิทธิประชาชนในวันที่จะได้รับค่าจ้างอย่างงามที่สุด หลังจากก่อนหน้านี้เขามักประณามอย่างดเดือดต่อบรรดาผุ้นำท้องถิ่น โดยเฉพาะเหล่าผู้ว่าการรัฐ ซึ่งบังอาจขัดขืนจุดยืนของเขา
(ที่มา : รอยเตอร์/อีฟเวนนิง สแตนดาร์ด)