ท่ามกลางกระแสแห่เปลี่ยนชื่อในไต้หวันเป็นชื่อปลาแซลมอน หรือกุ้ยอวี๋ เพื่อนำไปใช้อ้างสิทธิกินซูชิฟรีในร้านอาหารแห่งหนึ่ง ชายคนหนึ่งเพิ่งทราบในเวลาต่อมาว่าเขาได้ใช้สิทธิ์ในการเปลี่ยนชื่อครั้งสุดท้ายไปแล้ว และอาจจะต้องใช้ชื่อดังกล่าวเป็นการถาวร
ซูชิโร เครือข่ายร้านซูชิสายพานชื่อดังของญี่ปุ่น ซึ่งมี 20 สาขาในไต้หวัน เมื่อวันจันทร์ที่ 15 มีนาคม ประกาศบนหน้าเฟซบุ๊ก ลดราคาหรือกระทั่งให้สิทธิ์กินฟรี แก่ลูกค้าคนใดก็ตามที่ชื่อในบัตรประชาชนมีคำว่า “กุ้ยอวี๋” ซึ่งเป็นภาษาจีนแปลว่า ปลาแซลมอน และแม้ข้อเสนอดังกล่าวจะกำหนดระยะเวลาเพียงแค่ 2 วัน คือวันที่ 17 มีนาคม และ 18 มีนาคม แต่พบว่ามีประชาชนชาวไต้หวันมากกว่า 100 คน รุดเปลี่ยนชื่ออย่างถูกกฎหมาย ไปเป็นชื่อที่มีความเกี่ยวข้องปลาแซลมอน
สื่อท้องถิ่นรายงานว่า ค่าธรรมเนียมในการทำบัตรประชาชนใหม่ของไต้หวันมีราคาถูก ทำให้ประชาชนแห่ยื่นขอเปลี่ยนชื่อเป็นจำนวนมาก โดยนักเรียนหญิงคนหนึ่ง เปิดเผยว่า ได้เปลี่ยนชื่อเป็น นางสาว ข้าวหน้าปลาแซลมอน แต่จะเปลี่ยนกลับเป็นชื่อเดิมในวันถัดไป นอกจากนี้ยังมีผู้ที่เปลี่ยนชื่อเป็น เจ้าชายแซลมอน ข้าวผัดแซลมอน ด้วย
มีนักศึกษาคนหนึ่งแซ่ฉาง จากคณะการแพทย์แผนจีน มหาวิทยาลัยการแพทย์จีน เปลี่ยนชื่อตนเองเป็น “ฉาง แซลมอน ดรีม” อย่างไรก็ตาม ไม่นานเขากลับต้องเผชิญข่าวร้ายทันทีที่ได้รับบัตรประชาชนใหม่ เมื่อได้รับแจ้งจากสำนักงานทะเบียนบ้าน ว่าเขาใช้สิทธิ์เปลี่ยนชื่อหมดโควตา 3 ครั้ง และจะไม่ได้รับอนุญาตให้เปลี่ยนชื่ออีกแล้ว
พระราชบัญญัติชื่อบุคคลของไต้หวัน กำหนดว่าประชาชนสามารถขอเปลี่ยนชื่อได้เพียง 3 ครั้งเท่านั้น
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 18 มีนาคม ทนายความรายหนึ่งนามว่า Lin Chih-chun เขียนบนเฟซบุ๊ก ระบุว่าบ่อยครั้งที่เขาสามารถหาทางออกที่สร้างสรรค์ให้แก่ลูกค้าที่ตกอยู่ในปัญหาลักษณะดังกล่าว โดยเขาชี้ถึงมาตรการ 9 วรรค 2 ของกฎหมายชื่อสกุล ที่เน้นว่าบุคคลหนึ่งสามารถเปลี่ยนชื่อได้ หากว่าบุคคลเหล่านั้นมีชื่อตรงกับญาติคนชราที่มีความใกล้ชิดภายใน 3 เครือญาติ
เพราะฉะนั้น Lin จึงสมมติว่าหากบิดาหรือญาติสนิทคนอื่นๆ เปลี่ยนชื่อเป็น “แซลมอน ดรีม” เมื่อนั้น ฉาง ก็จะมีโอกาสเปลี่ยนชื่ออีกรอบ ซึ่งภายใต้ข้อสมมติฐานนี้ญาติคนดังกล่าวต้องเหลือโควต้าสำหรับเปลี่ยนชื่อตนเองอีกรอบด้วย
อย่างไรก็ตาม ด้วยจนถึงตอนนี้ ฉาง ยังไม่กล้าบอกพ่อกับแม่ ทำให้โอกาสแก้ไขชื่อของเขายังต้องลากยาวออกไป
Lin เตือนว่าแม้ค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนชื่อนั้นค่อนข้างต่ำ แต่การเปลี่ยนชื่อใดๆ นั้นควรต้องทำด้วยความระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง
สำนักงานทะเบียนบ้านในเขตไทจง เผยว่ามีประชาชนในเขต 46 คนที่มาเปลี่ยนชื่อเป็น “แซลมอน” จนถึงเวลา 10.00น.ของวันพฤหัสบดีที่ 18 มีนาคม ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของโปรโมชันซูชิ พร้อมเผยว่าในกรณีของฉางนั้น ได้เสร็จสิ้นกระบวนการเปลี่ยนชื่อแล้ว ตอนที่เจ้าหน้าที่ทะเบียนบ้านรายหนึ่งส่งมอบบัตรประชาชนให้ พร้อมกับแจ้งว่าชื่อนี้จะเป็นชื่อถาวรของเขา
แม้จะได้รับประทานซูชิฟรีตามความมุ่งมั่น แต่ ฉาง เข้าไปในร้านด้วยความรู้สึกห่อเหี่ยวและเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น “เห็นคนอื่นๆ เปลี่ยนชื่อ ผมก็เลยทำบ้าง แต่มันไม่มีค่าพอเลย” ฉางกล่าวด้วยความเซ็ง
ฉางถึงกับกลั้นน้ำตาไม่อยู่พอนึกถึงผลในระยะยาว เขายอมรับไม่รู้จะแนะนำตัวกับคนอื่นๆ อย่างไรในอนาคต และไม่กล้าที่จะบอกเรื่องนี้กับพ่อแม่ด้วยซ้ำ
กฎเกณฑ์ของโปรโมชันนี้ก็คือ หากมีลูกค้าคนหนึ่งคนใดที่มีชื่อเป็นภาษาจีน มีคำว่า “กุ้ยอวี๋ หรือปลาแซลมอน” ทั้งโต๊ะซึ่งกำหนดไว้สูงสุดไม่เกิน 6 คน จะได้รับประทานซูชิฟรี
เมื่อวันพุธที่ 17 มีนาคม สำนักงานกิจการพลเเรือนไทจง เรียกร้องประชาชนให้คิดทบทวนเป็น 2 เท่าก่อนเปลี่ยนชื่อ “ไม่ขอแนะนำให้เปลี่ยนชื่อด้วยความหุนหันพลันแล่น เพราะมันจะบันทึกอยู่ในสำนักงานทะเบียนบ้านอย่างถาวร และประวัติเหล่านี้จะอยู่กับคุณไปตลอดชีวิต”
(ที่มา : ไต้หวันนิวส์)