เอพี - สำนักงานตำรวจลอนดอนถูกวิจารณ์ยับ หลังตำรวจใช้ความรุนแรงกับกลุ่มคนที่ไปรวมตัวกันเพื่อไว้อาลัยหญิงสาวที่ถูกตำรวจฆาตกรรม ซึ่งจุดชนวนการวิจารณ์เกี่ยวกับการใช้ความรุนแรงกับผู้หญิงในสหราชอาณาจักร
คนนับร้อยไปชุมนุมกันที่แคลปแฮม คอมมอน เมื่อคืนวันเสาร์ (13 มี.ค.) โดยไม่สนใจคำวินิจฉัยของศาลและคำขอของตำรวจ เพื่อรำลึกถึง ซาราห์ เอเวอราร์ด หญิงสาววัย 33 ปี ที่มีผู้พบเห็นครั้งสุดท้ายใกล้สวนสาธารณะทางใต้ของลอนดอนเมื่อวันที่ 3 มีนาคม
ผู้ชุมนุมกล่าวว่า ต้องการให้สังคมสนใจความหวาดกลัวและอันตรายที่ผู้หญิงมากมายในอังกฤษต้องเผชิญทุกวัน
เอเวอราร์ดหายตัวไประหว่างเดินกลับบ้านจากอพาร์ตเมนต์ของเพื่อนเมื่อเวลาประมาณ 22.30 น. วันที่ 3 มีนาคม และพบศพถูกทิ้งในป่า นอกเขตเมืองแอชฟอร์ด มณฑลเคนต์ ห่างจากทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงลอนดอน ราวกว่า 80 กิโลเมตร ในสัปดาห์ต่อมา สร้างความตื่นตกใจไปทั่วสหราชอาณาจักร หลังจากตำรวจลอนดอนนายหนึ่งถูกตั้งข้อหาลักพาตัวและฆาตกรรม
ภาพวิดีโอการไว้อาลัยอย่างไม่เป็นทางการเมื่อวันเสาร์ เผยให้เห็นเจ้าหน้าที่หลายคนจากสำนักงานตำรวจนครบาลลอนดอนสังกัดเดียวกับผู้ต้องหาปะทะกับผู้ชุมนุมขณะพยายามแหวกผ่านฝูงชน โดยมีจุดหนึ่งที่ตำรวจจับผู้หญิงหลายคนสวมกุญแจมือและลากออกไปท่ามกลางเสียงกรีดร้องและตะโกนของผู้เห็นเหตุการณ์
ซาดิก ข่าน นายกเทศมนตรีนครลอนดอน ประณามการกระทำของตำรวจ โดยทวีตว่า แม้ตำรวจมีหน้าที่บังคับใช้กฎหมายป้องกันโรคระบาด แต่จากภาพเห็นได้ชัดว่า การรับมือของตำรวจไม่เหมาะสม
ปรีติ พาเทล รัฐมนตรีมหาดไทยอังกฤษ ทวีตว่า ได้สั่งให้สำนักงานตำรวจนครบาลลอนดอน หรือ สกอตแลนด์ยาร์ด จัดทำรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างครบถ้วน
การชุมนุมนี้เกิดขึ้นไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่ เวย์น คูเซนส์ วัย 48 ปี ตำรวจในสังกัดตำรวจนครบาลลอนดอน ขึ้นศาลครั้งแรกเพื่อรับฟังข้อกล่าวหา เพรสส์ แอสโซซิเอชัน รายงานว่า ทันทีที่ตำรวจนครบาลปรากฏตัวที่แคลปแฮม คอมมอน เมื่อค่ำวันเสาร์ ฝูงชนต่างโห่และตะโกนว่า “น่าอัปยศ”
กลุ่มผู้จัดหวังว่า จะจัดการไว้อาลัยและรำลึกถึงเอเวอราร์ดในแคมเปญ “รีเคลม เดอะ สตรีทส์” ทางใต้ของลอนดอนและเมืองอื่นๆ พร้อมกันในวันเสาร์ แต่ต้องยกเลิกไปหลังจากผู้พิพากษาไม่อนุญาต เนื่องจากขัดกับข้อจำกัดห้ามการรวมกลุ่มของคนหมู่มากเพื่อป้องกันโรคระบาด
ถึงกระนั้น ประชาชนหลายร้อยคนหลั่งไหลไปยังแคลปแฮม คอมมอน ก่อนที่ตำรวจจะเดินทางไปถึงหลายคนนำดอกไม้ไปวางเพื่อรำลึกถึงเอเวอราร์ด ในจำนวนนี้รวมถึงเคต ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ พระชายาของเจ้าชายวิลเลียม
ผู้ชุมนุมบางคนถือป้ายที่มีข้อความว่า “เราจะไม่ยอมนิ่งเงียบ” และ “เธอแค่เดินกลับบ้านเท่านั้น” และฝูงชนตะโกนว่า “ผู้หญิงเราจะไม่ยอมแพ้”
คดีลักพาตัวและฆาตกรรมเอเวอราร์ดทำให้ผู้หญิงมากมายใช้โซเชียลมีเดียแบ่งปันประสบการณ์การถูกคุกคามหรือทำร้ายระหว่างเดินอยู่นอกบ้าน
เมล คลาร์ก พยาบาลวัย 33 ปี ที่ทำงานในย่านแคลปแฮม บอกว่า รู้สึก “ย้อนแย้งมาก” กับการไปชุมนุมเนื่องจากตระหนักดีเกี่ยวกับข้อจำกัดเพื่อป้องกันโรคระบาด แต่สุดท้ายเธอรู้สึกว่า “ถึงอย่างไรก็ต้องไป”
คลาร์กสำทับว่า ดีใจที่เห็นผู้ชายจำนวนมากในที่ชุมนุม เพราะหวังว่า นี่จะเป็นโอกาสที่ผู้ชายจะได้รู้ว่า ผู้หญิงรู้สึกอย่างไรและมีความเสี่ยงแค่ไหน และหวังว่า นี่จะเป็นจุดเริ่มต้นคืนความยุติธรรมให้เอเวอราร์ด
ทางด้านสำนักงานตำรวจนครบาลเผยว่า ช็อกมากที่ได้รู้ว่า เจ้าหน้าที่ในสังกัดเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีนี้
ทั้งนี้ คูเซนส์ที่เข้ารับราชการในสำนักงานตำรวจนครบาลในปี 2018 และเมื่อเร็วๆ นี้ ได้เป็นเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยพิเศษด้านการทูตและอารักขารัฐสภา มีกำหนดขึ้นศาลอีกครั้งในวันอังคาร (16 มี.ค.)