รอยเตอร์ – เนปาลเตรียมเปิดยอดเขาเอเวอเรสต์ให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปสำรวจในเดือนเมษายน หลังจากสั่งหยุดยาวร่วม 1 ปีจากปัญหาโรคโควิด-19 ระบาด
รอยเตอร์รายงานเมื่อวานนี้(11 มี.ค)ว่า เชื่อว่ามีนักปีนเขาต่างชาติกว่า 300 คนจะกลับเข้ามาที่ยอดเขาเอเวอเรสต์ที่ถือว่าเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในโลกอีกครั้งในเดือนเมษายน ซึ่งเป็นเดือนต้นฤดูกาลปีนเขาของเนปาล เจ้าหน้าที่กระทรวงการท่องเที่ยวเนปาล มิรา อาชาร์ยา( Mira Acharya) กล่าวเมื่อเทียบกับจำนวนนักปีนเขา 381 คนที่พยายามพิชิตเอเวอเรสต์ภายใต้ความสูง 8,849 เมตรเมื่อปี 2019
และเธอกล่าวไปถึงข้อกำหนดของการอนุญาตให้นักปีนเขาต่างชาติขึ้นเทือกเขาเอเวอเรสต์ว่า “นี่...ถึงแม้มีข้อกำหนดการกักตัว 1 สัปดาห์และหนังสือรับรองที่ยืนยันว่านักปีนเขามีผลการตรวจไวรัสโควิด-19เป็นลบ”
ด้าน ลูคาส เฟอร์เตนบาค(Lukas Furtenbach)จากบริษัทการปีนเขา เฟอร์เตนบาค แอดเวนเจอเรส (Furtenbach Adventures) มีฐานอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย และเคยนำนักปีนเขา 22 คนใน 5 ทีม รวมไปถึง 2 การเดินทางเพื่อการไต่เขาที่เอเวอเรสต์ กล่าวว่า “มีลูกค้าบางส่วนได้เลื่อนแผนการเดินทางออกไปปีหน้าเนื่องมาจากมาตรการจำกัดการเดินทางในบางประเทศ เป็นต้นว่า อังกฤษ
“ทางเรามีมาตรการด้านโควิด-19ที่รัดกุมพร้อมกับตารางการตรวจไวรัสที่เข้มงวด มีแพทย์ประจำ และบับเบิลแบบปิดสำหรับทีมของพวกเราที่แคมป์เบส มาตรการด้านความสะอาด” เขากล่าว
ทั้งนี้เนปาลได้ออกคำสั่งปิดยอดเขาเอเวอเรสต์มาตั้งแต่เดือนมีนาคมปีที่แล้วซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการที่เข้มงวดต่อการแพร่ระบาด เนปาลมีจำนวนผู้ติดเชื้อมาจนถึงเวลานี้อยู่ที่ 274,973 คน และเสียชีวิต 3,012 คน
ซึ่งเนปาลได้รับวัคซีนแอสตราเซเนกาสำหรับการบริจาคช่วยเหลือ จากอินเดียและได้เริ่มต้นการแจกจ่ายมาตั้งแต่มกราคม พบว่ามีการติดเชื้อลดลงในวันพุธ(10)โดยมีเคสใหม่จำนวน 104 คน ถือเป็นสัดส่วนที่น้อยมากเมื่อเทียบกับการระบาดเพิ่มถึง 5,743 คนในเดือนตุลาคม
อย่างไรก็ตามองค์กรด้านการไต่เขากล่าวว่า ยอดเขาเอเวอเรสต์ในส่วนของจีนจะยังคงถูกปิดต่อไปสำหรับฤดูกาลนี้