เอเจนซีส์ – การวิเคราะห์ล่าสุดที่มาจากสถิติของสำนักงานตำรวจสหรัฐฯชี้ คนเอเชียในสหรัฐฯตกเป็นเป้าถูกทำร้ายเพิ่มขึ้นถึง 150% ตามเมืองใหญ่ทั่วอเมริกา แนวโน้มกระแสความรุนแรงจะยังคงเกิดขึ้นต่อไปในปีนี้
VOA สื่อสหรัฐฯรายงานเมื่อวานนี้(2 มี.ค)ว่า ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า ดูเหมือนคดีความเกลียดชังที่มาจากความแตกต่างทางเชื้อชาติต่อชาวเอเชียในสหรัฐฯจะยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมาจนถึงปี 2021
พบว่า มีทั้งหมด 122 คดีเกี่ยวข้องกับการต่อต้านคนเอเชียใน 16 เมืองใหญ่ที่มีประชากรอาศัยอยู่อย่างหนาแน่นประจำปี 2020 เป็นการเพิ่มขึ้นเกือบ 150% จากปีก่อนหน้า อ้างอิงข้อมูลที่ถูกรวบรวมโดยศูนย์การศึกษาความเกลียดชังและความรุนแรงสุดโต่งประจำมหาวิทยาลัยสเตทแคลิฟอร์เนีย (California State University) ซึ่งทางศูนย์ได้แชร์ข้อมูลให้กับ VOA ซึ่งในส่วนของทาง VOA พบว่าได้ทำการวิจัยข้อมูลของตัวเองใน 2 เมืองเช่นกัน
ซึ่งตัวแทนความเคลื่อนไหวปกป้องสิทธิคนอเมริกันเชื้อสายเอเชียออกมาชี้ว่า เหตุของกระแสความเกลียดชังคนเอเชียเพิ่มมากขึ้นเป็นผลมาจากคำยุยงของอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ เจ. ทรัมป์ ที่กล่าวหาว่า "จีน" เป็นต้นเหตุทำให้เกิดโรคโควิด-19 ส่งผลทำให้ชาวเอเชียในสหรัฐฯกลายเป็นแพะบูชายันต์จากความหงุดหงิดของผู้คนที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคม
คริส กวอก (Chris Kwok) สมาชิกบอร์ดสมาพันธ์วิชาชีพทนายความเอเชียนอเมริกันแห่งนิวยอร์ก AABANY (Asian American Bar Association of New York)แสดงความคิดเห็นว่า “ผมคิดว่าผู้นำทางการเมืองภายใต้ทรัมป์นั้นเป็นเหมือนเอาเป้าวางอยู่บนหลังของผู้คนที่ถูกมองว่าเป็นคนจีน”
คดีความเกลียดชังต่อคนเอเชียเกิดขึ้นสูงสุดในเมืองนิวยอร์กซึ่งเป็นเมืองที่มีชาวเอเชียอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ตำรวจนิวยอร์กทำการสอบสวน 28 คดีที่มีคนเอเชียตกเป็นเหยื่อ เพิ่มมากกว่า 9 เท่าเมื่อเทียบกับปี 2019
และนอกจากนี้พบว่าในอีก 4 เมืองยังมีรายงานการเพิ่มเป็นตัวเลข 3 หลักของอาชญากรรมต่อต้านคนเอเชียได้แก่ เมืองฟิลาเดลเฟียและเมืองคลิฟแลนด์ต่างมีคดีต่อต้านชาวเอเชีย 6 คดีเท่ากัน เพิ่มขึ้นมาจาก 2 คดีในปี 2019 เมืองซานโฮเซเห็นคดีต่อต้านคนเอเชีย 10 คดีเพิ่มจาก 4 คดี ในขณะที่เมืองลอสแอนเจลีมีคดีความเกลียดชัง 15 คดีเพิ่มขึ้นจาก 7 คดีปีก่อนหน้า
ไบรอัน เลวิน (Brian Levin) ผู้อำนวยการบริหารศูนย์วิจัยความเกลียดชังและความรุนแรงสุดโต่งแสดงความเห็นว่า “ขณะที่เมืองส่วนใหญ่ต่างเห็นคดีความเกลียดชังลดลง รวมไปถึงการโจมตีต่อกลุ่มที่เพิ่มขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ เช่นกลุ่มชาวยิว แต่ทว่าการโจมตีต่อคนเอเชียเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในเมืองส่วนใหญ่ และมีการลดลงเพียงแค่เมืองเดียวนั่นคือ "กรุงวอชิงตัน ดีซี”
ทั้งนี้กลุ่มเคลื่อนไหวปกป้องชาวเอเชียในสหรัฐฯได้ร่วมกันตั้ง Stop AAPI Hate ซึ่งตรวจจับคดีการทำร้ายที่มีชาวเอเชียตกเป็นเป้า ได้บันทึกคดีไม่ต่ำกว่า 2,800 คดีระหว่างช่วงมีนาคมไปจนถึงธันวาคมปี 2020 ส่วนการแสดงความเกลียดชังทางคำพูดและการแสดงการไม่ยอมรับทางสังคมนั้นเกิดขึ้นสูงถึง 90% ของคดีเหล่านี้ ส่วนการทำร้ายร่างกายคิดเป็นเกือบ 9%
และยังพบว่าเหยื่อจำนวนมากไม่ได้เป็นชาวอเมริกันเชื้อสายจีน “ชาวเอเชียตะวันออกที่ดูเหมือนเป็นชาวจีนต่างเคยประสบต่อสิ่งนี้ และทำให้ย้อนหลังไปถึงประวัติศาสตร์การต่อต้านและกีดกันคนเอเชียในประเทศนี้” กวอกกล่าว
รายงานของ Stop AAPI Hate ถูกเผยแพร่ออกมาต่อสาธารณะเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ได้ชี้ให้เห็นว่า มีคดีต่อต้านคนเอเชียจำนวน 126 คดีเกี่ยวข้องกับผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป และมีเป็นจำนวนมากเกิดขึ้นในซานฟรานซิสโกเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งรวมไปถึงคุณวิชา รัตนภักดี คนไทยวัย 84 ปีที่ถูกวัยรุ่นชายผิวสีวิ่งเข้าผลักจนล้มและเสียชีวิต
และคดีล่าสุดสะเทือนขวัญไปทั่วนิวยอร์ก ซิตี เมื่อชายชาวบรุคลินวัย 23 ปี ซาลมาน มูฟลีฮี(Salman Muflihi) ถูกจับกุมสัปดาห์ที่ผ่านมาหลังใช้มีดยาว 8 นิ้วแทงชายชาวเอเชียวัย 36 ปีที่ไชน่าทาวน์ระหว่างที่ชายชาวเอเชียกำลังเดินอยู่บนฟุตบาท เหตุเกิดเมื่อเวลา 18.20 น. ของวันพฤหัสบดีที่ 25 ก.พ โดยทางมูฟลีฮีที่ตามรายงานของ NBC News วันที่ 28 ก.พ ไม่ได้ระบุว่าเขามีเชื้อชาติใดยอมรับกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ใช้มีดทำร้ายเหยื่อเพราะไม่ชอบสายตาที่ชายผู้นี้มองมาที่เขา และกล่าวต่อว่า “ผมแทงชายคนนั้น ถ้าหากเขาตาย เขาก็ตาย ผมไม่สนอะไรทั้งนั้น”
VOA กล่าวว่า มูฟลีฮีถูกตั้งข้อหา 1 กระทงคดีพยายามฆ่านอกเหนือจากข้อหาอื่น แต่เขากลับไม่ถูกตั้งข้อหาคดีอาชญากรรมด้านความเกลียดชัง ซึ่งหากเขาถูกตั้งข้อหาคดีความเกลียดชัง มูฟลีฮีจะต้องอยู่ในเรือนจำนานขึ้น แต่ทางสำนักงานอัยการเขตแมนแฮตตันชี้ว่า อาจมีการตั้งข้อหาแก่มูฟลีฮีเพิ่มเติมในภายหลัง
ทั้งนี้โดยภาพรวมแล้วคดีอาชญากรรมด้านความเกลียดชังลดลงโดยเฉลี่ย 7% ใน 15 เมือง ติดตามโดยศูนย์ศึกษาความเกลียดชังและความรุนแรงสุดโต่ง เป็นต้นว่าที่เมืองนิวยอร์ก ตำรวจสอบสวนคดี 285 คดีต่ำจาก 428 คดีของปีก่อนหน้า
และจากทั้งหมด 5 เมืองที่มีรายงานการเพิ่มขึ้นของคดีความเกลียดชัง พบว่ามี 2 เมืองอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนียรวมไปถึงเมืองซานโฮเซ ที่เห็นการเพิ่มขึ้นถึง 162% เป็นต้น