เกร็ก แอบบ็อตต์ ผู้ว่าการรัฐเทกซัส ยกเลิกมาตรการบังคับสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะเพื่อป้องกันโควิด-19 และอนุญาตให้ภาคธุรกิจกลับมาเปิดเต็มรูปแบบในสัปดาห์หน้า ท่ามกลางคำเตือนจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ที่ห้ามผู้คนการ์ดตกแม้จะเริ่มมีวัคซีนใช้แล้วก็ตาม
คำสั่งบริหารของ แอบบ็อตต์ มีขึ้นในขณะที่หลายรัฐและเมืองใหญ่ๆ ทั่วอเมริกามีรายงานผู้ติดเชื้อใหม่และคนป่วยเข้าโรงพยาบาลลดลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งทำให้หน่วยงานท้องถิ่นเริ่มที่จะผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ที่บังคับใช้มาตั้งแต่ปีที่แล้ว
“ถึงเวลาแล้วที่เทกซัสจะเปิด 100%” แอบบ็อตต์ แถลงต่อสื่อมวลชน พร้อมระบุว่าคำสั่งดังกล่าวจะเริ่มมีผลบังคับในวันที่ 10 มี.ค.
ผู้ว่าฯ สายรีพับลิกันรายนี้ยกเลิกมาตรการบังคับสวมหน้ากากอนามัย และห้ามหน่วยงานท้องถิ่นลงโทษประชาชนที่ไม่สวมหน้ากาก นอกจากนี้ยังปลดล็อกข้อจำกัดสำหรับภาคธุรกิจในหลายเทศมณฑลที่มีจำนวนผู้ป่วยในโรงพยาบาลค่อนข้างน้อย
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ยังคงสามารถบังคับใช้ข้อจำกัดต่อภาคธุรกิจในพื้นที่ซึ่งมีผู้ป่วยเข้าโรงพยาบาลเป็นจำนวนมาก แต่ห้ามมิให้บังคับดำเนินกิจการต่ำกว่า 50% ของศักยภาพที่ทำได้ในทุกกรณี
แอบบ็อตต์ ชี้แจงว่า สาเหตุที่ตัดสินใจยกเลิกข้อจำกัดต่างๆ ก็เนื่องจากเทกซัสซึ่งเป็นรัฐที่มีประชากร 29 ล้านคน มากเป็นอันดับ 3 ของสหรัฐฯ ฉีดวัคซีนให้พลเมืองไปแล้วเกือบ 5.7 ล้านโดส และคาดว่าจะสามารถฉีดวัคซีนให้แก่ผู้สูงอายุทุกคนที่ต้องการภายในสิ้นเดือน มี.ค.
อย่างไรก็ดี คำสั่งของผู้ว่าฯ เทกซัสดูจะสวนทางกับนโยบายของประธานาธิบดี โจ ไบเดน ผู้นำสายเดโมแครต ที่ยังคงเรียกร้องให้ชาวอเมริกันปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุข รวมถึงการสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันตนเองจากโควิด-19 ต่อไป จนกว่าโครงการฉีดวัคซีนจะเริ่มเห็นผลในการลดจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ได้อย่างเป็นรูปธรรม
ระหว่างแถลงข่าวที่ทำเนียบขาว ผู้นำสหรัฐฯ ย้ำเตือนว่า “นี่ไม่ใช่เวลาที่จะผ่อนปรน” ซึ่งดูเหมือนจะเป็นการวิพากษ์วิจารณ์คำสั่งของผู้ว่าฯ เทกซัส เพียงแต่ไม่เอ่ยชื่อตรงๆ เท่านั้น
“ผมได้ขอร้องให้ทุกคนในประเทศนี้สวมหน้ากากอนามัยในช่วง 100 วันแรกที่ผมเข้าดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี นี่ยังไม่ใช่เวลาที่จะการ์ดตก เรายังมีชีวิตผู้คนเป็นเดิมพัน” ไบเดน กล่าว
แอนดี สลาวิตต์ ที่ปรึกษาด้านโควิด-19 ของทำเนียบขาว ให้สัมภาษณ์กับ CNN ว่า “ผมหวังว่าท่านผู้ว่าฯ (เทกซัส) จะคิดทบทวนดูใหม่ มันก็แค่ผ้าผืนเล็กๆ เท่านั้นที่จำเป็น ผมไม่คิดว่ามันจะกระทบเศรษฐกิจในรัฐของท่านสักเท่าไหร่หรอก”
จากข้อมูลล่าสุดเมื่อวันอังคาร (2) พบว่า 35 รัฐในอเมริกา ตลอดจนวอชิงตัน ดี.ซี. และเครือรัฐเปอร์โตริโก ยังคงมีมาตรการบังคับสวมหน้ากากในที่สาธารณะ ในขณะที่มิสซิสซิปปีเป็นอีกหนึ่งรัฐที่ได้ยกเลิกคำสั่งนี้แล้ว
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐฯ (CDC) ระบุว่า จนถึงขณะนี้มีชาวอเมริกันกว่า 51 ล้านคนได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 อย่างน้อย 1 โดส ซึ่งคิดเป็นเพียง 15% ของประชากรทั้งหมด
ที่มา: รอยเตอร์