นอร์เวย์เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ จัดตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อสืบสวนหาข้อเท็จจริง หลังพบคนชราเสียชีวิตหลังฉีดวัคซีนต้านไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่แล้ว 102 ราย
สำนักงานยาแห่งนอร์เวย์ระบุในวันอังคาร (2 มี.ค.) ว่า ผู้เสียชีวิตมีอายุเฉลี่ย 87 ปี หลายคนล้มป่วยอยู่ก่อนแล้ว และอยู่ในภาวะที่อ่อนแออย่างมาก
อย่างไรก็ตาม สำนักงานยาแห่งนอร์เวย์ ระบุว่า มีความจำเป็นต้องทบทวนตรวจสอบเพิ่มเติมอย่างละเอียด เนื่องจาก “เป็นไปไม่ได้ที่จะตัดสมมติฐานความเป็นไปได้ของการอาการไม่พึงประสงค์ต่างๆ นานา โดยทั่วไปจากการใช้วัคซีน ไม่ว่าจะเป็นอาการไข้หรือคลื่นไส้ ซึ่งอาจซ้ำเติมโรคประจำตัวของคนไข้กลุ่มเปราะบางมากๆ”
คณะผู้เชี่ยวชาญเฉพาะกิจจะให้คำประเมินอิสระว่า การเสียชีวิตต่างๆ นานานั้น เกี่ยวข้องกับโครงการฉีดวัคซีนโควิด-19 หรือไม่ ซึ่งรวมแล้วครอบคลุมผู้อยู่อาศัยตามบ้านพักคนชราทั้งหลายราวๆ 40,000 คน
ผลการการค้นพบจะมีการนำเสนอก่อนเทศกาลอีสเตอร์
ก่อนหน้านี้ ในช่วงกลางเดือนมกราคม บรรดาเจ้าหน้าทีในนอร์เวย์ พยายามหาทางปัดเป่าความกังวลเกี่ยวกับวัคซีน ตามหลังมีข่าวครึกโครมว่า คนไข้สูงวัย 33 คน อายุ 75 ปีขึ้นไป เสียชีวิตหลังฉีดวัคซีนโควิด-19 โดยระบุในตอนนั้นไม่พบหลักฐานว่ามันมีความเชื่อมโยงกัน และทั้งหมดล้วนแต่ป่วยหนักอยู่ก่อนแล้ว
“ชัดเจนว่า ไวรัสโควิด-19 มีความอันตรายกับคนไข้ส่วนใหญ่มากกว่าตัววัคซีน” สเตอินาร์ แมดเซน ผู้อำนวยการด้านการแพทย์ของสำนักงานยาแห่งนอร์เวย์ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบลูมเบิร์ก พร้อมระบุว่า ความเชื่อมโยงระหว่างวัคซีนกับเหตุเสียชีวิตนั้น เป็นเรื่องยากที่จะพิสูจน์ “แต่เราไม่กังวล”
(ที่มา: บลูมเบิร์ก/เอเจนซี)