พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) ของ อองซาน ซูจี มีแผนจัดตั้งรัฐบาลชั่วคราว (interim government) ขึ้นมาท้าทายอำนาจของกองทัพพม่า และจะขอการรับรองจากสหรัฐฯ, สหราชอาณาจักร และองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น)
ดร.ซาซา (Sa Sa) ซึ่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้แทนรัฐสภาพม่า หรือ ปยีดองซู ฮลุตตอ (Committee Representing Pyidaungsu Hluttaw - CRPH) ในเวทียูเอ็น ได้แจกแจงแผนดังกล่าวขณะให้สัมภาษณ์ทางวิดีโอกับหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทม์ส พร้อมกันนั้น ก็ตำหนิประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน ว่า “ไม่ยืนหยัดร่วมกับประชาชนชาวพม่า” หลังจากเจ้าหน้าที่ไทยและอินโดนีเซีย ได้มีการพบปะกับ “วันนา หม่อง ละวิน” รัฐมนตรีต่างประเทศของคณะทหารพม่า ที่กรุงเทพมหานคร ในสัปดาห์นี้
“เพื่อนบ้านที่ดีไม่ควรจะเล่นเกมกับพวกผู้นำคณะรัฐประหาร ซึ่งเห็นได้ชัดว่าทำผิดกฎหมายอยู่” ซาซา กล่าว
“พวกเขาไม่ควรเปิดการเจรจาใดๆ ทั้งสิ้น จนกว่า อองซาน ซูจี ผู้นำที่มาจากการเลือกตั้งของเรา จะได้รับการปล่อยตัว”
คำพูดของ ซาซา สะท้อนความพยายามของผู้นำพลเรือนพม่าที่หวังจะสถาปนาโครงสร้างอำนาจใหม่ขึ้นมาแข่งขันกับคณะผู้นำทหารของ พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย เพื่อช่วงชิงการยอมรับจากนานาชาติ แต่ก็อาจจะไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะนอกจากจะถูกกองทัพสกัดขัดขวางแล้ว เพื่อนบ้านบางประเทศก็เริ่มที่จะมีปฏิสัมพันธ์กับรัฐบาลทหารพม่า ซึ่งบ่งชี้ว่า ทิศทางการทูตกำลังเปลี่ยนไปเข้าทางฝ่ายทหารมากขึ้น
ล่าสุด เมื่อวานนี้ (26) รัฐบาลทหารซึ่งจับกุม ซูจี และผู้นำพรรคเอ็นแอลดีหลายคนหลังทำการยึดอำนาจเมื่อวันที่ 1 ก.พ. ได้ประกาศอย่างเป็นทางการให้ผลการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 8 พ.ย. ปีที่แล้ว ซึ่งพรรคของ ซูจี คว้าชัยชนะอย่างถล่มทลาย “เป็นโมฆะ”
ขณะเดียวกัน กองกำลังความมั่นคงพม่าก็เริ่มที่จะยกระดับปราบปรามประชาชนที่ออกมาชุมนุมประท้วงและนัดหยุดงานทั่วประเทศ โดยมีรายงานผู้ประท้วงถูกยิงทั้งที่นครย่างกุ้ง และมัณฑะเลย์
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายผู้ประท้วงพม่าก็ได้รับแรงหนุนที่สำคัญ เมื่อ จอ โม ตุน (Kyaw Moe Tun) เอกอัครราชทูตพม่าประจำองค์การสหประชาชาติ กล่าวสุนทรพจน์ประณามคณะรัฐประหารกลางเวทีสมัชชาใหญ่ยูเอ็นที่นครนิวยอร์กเมื่อวานนี้ (26) พร้อมทั้งประกาศตัวอยู่ข้างรัฐบาลพลเรือนของอองซาน ซูจี และเรียกร้องให้ประชาคมโลกใช้ทุกมาตรการที่จำเป็นกดดันกองทัพพม่าให้ยอมสละอำนาจ
ภายหลังการรัฐประหาร ส.ส.พรรคเอ็นแอลดี ที่รอดจากการถูกจับกุมได้ร่วมกันก่อตั้งคณะกรรมการตัวแทน CRPH ขึ้น และจัดพิธีสาบานตนขึ้นมาเอง พร้อมทั้งมีการแต่งตั้ง ดร.ซาซา ซึ่งเป็นแพทย์และผู้ทำงานด้านการกุศลเป็นตัวแทน CRPH ประจำยูเอ็น และให้ ติน ลิน ออง (Htin Lin Aung) อดีตนักโทษการเมือง ซึ่งอาศัยอยู่ที่รัฐแมริแลนด์ เป็นผู้แทนด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
แม้สมาชิก และ ส.ส.พรรคเอ็นแอลดีส่วนใหญ่จะถูกคุมขัง หรืออยู่ระหว่างการหลบหนี แต่ ซาซา ยืนยันว่า CRPH มีความมุ่งมั่นที่จะตั้งรัฐบาลชั่วคราวขึ้นในประเทศ “เพื่อประโยชน์ของประชาชนชาวเมียนมา”
“เราพร้อมจะทำงานร่วมกับประชาคมโลกอย่างใกล้ชิด รวมถึงกับจีนและอินเดียด้วย” เขากล่าว “การมีประเทศเพื่อนบ้านที่มีเสถียรภาพย่อมจะเป็นประโยชน์มากกว่าสำหรับพวกเขา”
วันนา หม่อง ละวิน รัฐมนตรีต่างประเทศของคณะรัฐประหารพม่า ได้บินมายังประเทศไทย เมื่อวันพุธ (24) เพื่อร่วมหารือกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ เร็ตโน มาร์ซูดี รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งได้กล่าวแสดงความกังวลเรื่องความปลอดภัยและสวัสดิภาพของประชาชนชาวพม่า
ข่าวการพบปะหารือทางการทูตครั้งนี้ สร้างความโกรธแค้นต่อผู้ประท้วงในนครย่างกุ้ง ซึ่งพากันไปประท้วงที่ด้านนอกสถานทูตอินโดนีเซียในสัปดาห์นี้
“เราไม่ต้องการให้เพื่อนบ้านในอาเซียน หรือรัฐบาลของชาติใดๆ เข้าไปติดต่อพูดคุยกับคณะรัฐประหารในตอนนี้” ซาซา กล่าว และย้ำว่า “พวกเขาควรจะทำงานร่วมกับเรามากกว่า”
ที่มา: ไฟแนนเชียลไทม์ส