รอยเตอร์/เอเจนซีส์ – หนึ่งในใบพัดของเครื่องยนต์ที่ขัดข้องพบมีร่องรอย “ความล้าของโลหะ” (metal fatigue) ซึ่งเครื่องยนต์ของเที่ยวบิน 328 ของสายการบินยูไนเต็ด แอร์ไลน์สมีปัญหาลังจากขึ้นเทคออฟในเมืองเดนเวอร์ รัฐโคโลราโด คณะกรรมการกำกับความปลอดภัยทางคมนาคมแห่งชาติสหรัฐฯ NTSB แถลง
รอยเตอร์รายงานวันนี้(23 ก.พ)ว่า คณะกรรมการกำกับความปลอดภัยทางคมนาคมแห่งชาติสหรัฐฯ NTSB แถลงว่า เชื่อว่าความล้าของโลหะ(metal fatigue) อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เครื่องยนต์เครื่องบินโดยสารยูไนเต็ด แอร์ไลน์สเกิดขัดข้องในเมืองเดนเวอร์ รัฐโคโลราโด ช่วงสุดสัปดาห์
ทั้งนี้พบว่าเครื่องยนต์ แพรตต์ แอนด์ วิทนีย์ (Pratt & Whitney) เกิดติดไฟไม่นานหลังเครื่องโบอิ้ง 777-200 ขึ้นเทคออฟ เพื่อเดินทางจากเมืองเดนเวอร์ ไปยังเมืองฮอนโนลูลู รัฐฮาวาย พร้อมกับผู้โดยสาร 231 คน และลูกเรือ 10 คนบนเครื่อง นักบินบนเครื่องประกาศฉุกเฉินและหันหัวบินกลับ
และวันถัดมาพบว่ามีเครื่องบินโบอิ้งรุ่น 777-200 หลายสิบลำถูกสั่งห้ามบินหลังบริษัทโบอิ้งออกประกาศว่าเครื่องยนต์แพรตต์ แอนด์ วิทนีย์ PW4000 ยังไม่สมควรถูกใช้จนว่าจะมีการสอบสวนอย่างสมบูรณ์จะเกิดขึ้น
โดยประธาน NTSB โรเบิร์ต ซัมวอลต์ (Robert Sumwalt) แถลงวันจันทร์(22)ว่า การสอบสวนเบื้องต้นชี้ว่า ความเสียหายยั้นสอดคล้องกับความล้าของโลหะและใบพัดสมควรต้องถูกตรวจสอบในวันอังคาร(23)ที่ห้องแล็บแพรตต์ แอนด์ วิทนีย์ ภายใต้การกำกับของผู้ตรวจสอบจาก NTSB
อย่างไรก็ตามซัมวอลต์แถลงว่า ในเวลานี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า การขัดข้องของเครื่องยนต์ PW4000 วันเสาร์(20)นั้นสอดคล้องกับการขัดข้องของเครื่องยนต์ตัวอื่นของเครื่องบินยูไนเต็ด แอร์ไลน์สเที่ยวบินมุ่งหน้ารัฐฮาวายเมื่อกุมภาพันธ์ 2018 หรือไม่ ที่มี การแตกเนื่องมาจากความล้า (fatigue fracture)ที่บริเวณใบพัด
ซัมวอลต์กล่าวว่า “สิ่งสำคัญที่สุดคือเราต้องเข้าใจข้อเท็จจริงอย่างถ่องแท้ สถานการณ์ และเงื่อนไขต่างๆที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ก่อนที่เราสามารถเปรียบเทียบมันกับเหตุการณ์อื่น