xs
xsm
sm
md
lg

‘ไบเดน’ เล็งปรับสัมพันธ์ซาอุฯ ขอคุยตรงกับ ‘กษัตริย์ซัลมาน’ ไม่ผ่าน ‘มกุฎราชกุมาร MbS’

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดี โจ ไบเดน เตรียมปรับรูปแบบความสัมพันธ์กับซาอุดีอาระเบียใหม่ โดยจะหารือประเด็นทางการทูตกับสมเด็จพระราชาธิบดี ซัลมาน บิน อับดุลอาซิซ โดยตรง แทนที่จะผ่านทางเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารผู้ทรงอิทธิพล

คำประกาศจาก เจน ซากี โฆษกหญิงทำเนียบขาวเมื่อวานนี้ (16 ก.พ.) ถือเป็นการปรับนโยบายครั้งสำคัญของสหรัฐฯ จากเดิมที่อดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ที่เคยผูกสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเจ้าชายโมฮัมเหม็ดผ่านทาง เจเร็ด คุชเนอร์ บุตรเขยและที่ปรึกษาคนสนิท

“เราได้บอกชัดเจนไปตั้งแต่ต้นแล้วว่าจะมีการปรับรูปแบบความสัมพันธ์กับซาอุดีอาระเบียใหม่” ซากี บอกกับสื่อมวลชน

ในขณะที่ส่งสัญญาณหักหน้ามกุฎราชกุมารซาอุฯ สหรัฐฯ ก็เริ่มที่จะผ่อนคลายบรรยากาศอึมครึมในส่วนของความสัมพันธ์กับ “อิสราเอล” โดยโฆษกทำเนียบขาวยืนยันว่า ไบเดน จะต่อสายตรงเพื่อพูดคุยกับนายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู เร็วๆ นี้

เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน หรือที่คนมักจะเรียกพระนามโดยย่อว่า MbS นั้น ทรงเป็นรัชทายาทลำดับที่ 1 ของสมเด็จพระราชาธิบดีซัลมานวัย 85 พรรษา และตลอดช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาก็ทรงรับหน้าที่ดูแลกิจการบ้านเมืองเสมือนผู้ปกครองโดยพฤตินัยของซาอุฯ อยู่แล้ว กระทั่งมาเกิดเหตุฆาตกรรมนักหนังสือพิมพ์ชาวซาอุฯ ‘จามาล คาช็อกกี’ เมื่อปี 2018 ซึ่งทำให้พระเกียรติยศเสื่อมถอยลงมากในสายตานานาชาติ

ทำเนียบขาวในยุคของ ไบเดน พยายามกดดันซาอุฯ ให้แก้ไขปัญหาสิทธิมนุษยชน รวมถึงปล่อยตัวนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิสตรีและนักโทษการเมืองอื่นๆ ที่ถูกคุมขัง แตกต่างจากรัฐบาล ทรัมป์ ที่แสวงหาความร่วมมือหลายด้านกับริยาดผ่านทางเจ้าชายพระองค์นี้ ซึ่งรวมถึงการคลี่คลายความบาดหมางระหว่างกาตาร์กับเพื่อนบ้านริมอ่าวเปอร์เซีย

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ไบเดน จะยังเจรจากับเจ้าชายโมฮัมเหม็ดอยู่หรือไม่ โฆษกทำเนียบขาวก็ตอบว่า สหรัฐฯ จะใช้รูปแบบการปฏิสัมพันธ์ “ระหว่างบุคคลที่อยู่ในตำแหน่งเทียบเท่ากัน (counterpart to counterpart engagement)”

“ผู้ที่อยู่ในตำแหน่งเทียบเท่ากับประธานาธิบดีก็คือสมเด็จพระราชาธิบดีซัลมาน และดิฉันเชื่อว่าประธานาธิบดีคงจะได้หารือกับพระองค์ในเวลาที่เหมาะสม แต่ยังไม่สามารถให้กรอบเวลาที่ชัดเจนได้”

ซากี ระบุด้วยว่า ซาอุดีอาระเบียมีความจำเป็นในด้านการป้องกันประเทศสูงมาก และสหรัฐฯ ยังพร้อมที่จะทำงานร่วมกับริยาดในด้านนี้ “แม้จะมีอีกหลายประเด็นที่เราแสดงออกชัดเจนว่าไม่เห็นด้วยและรู้สึกกังวลก็ตาม”

โฆษกหญิงทำเนียบขาวยืนยันว่า เนทันยาฮู จะเป็นผู้นำคนแรกในตะวันออกกลางที่ได้รับสายจากไบเดน และการพูดคุยจะมีขึ้นเร็วๆ นี้ หลังมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์หนาหูว่าการที่ ไบเดน ทำเฉยเมยไม่รีบติดต่อ เนทันยาฮู หลังสาบานตนรับตำแหน่ง เท่ากับหักหน้าอิสราเอลซึ่งเป็นชาติพันธมิตรเบอร์หนึ่งของสหรัฐฯ ในตะวันออกกลาง

“แน่นอนว่าอิสราเอลคือพันธมิตรของเรา อิสราเอลเป็นประเทศที่เรามีความสัมพันธ์ในด้านความมั่งคงทางยุทธศาสตร์ที่สำคัญมาก และทีมงานของเราพร้อมจะมีปฏิสัมพันธ์กับพวกเขาอย่างเต็มที่ แม้จะยังไม่ใช่ระดับผู้นำรัฐ แต่ก็จะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้แน่นอน”

ที่มา: รอยเตอร์

รองประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ พบกับเจ้าชาย ซัลมาน บิน อับดุลอาซิซ (สมเด็จพระราชาธิบดีซัลมาน) เนื่องในโอกาสร่วมพิธีพระศพมกุฎราชกุมาร สุลต่าน บิน อับดุลอาซิซ อัล-สะอูด เมื่อปี 2011 (แฟ้มภาพ - AP)

สมเด็จพระราชาธิบดีซัลมาน และมกุฎราชกุมาร โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน แห่งซาอุดีอาระเบีย
กำลังโหลดความคิดเห็น