รัฐบาลมาเลเซียเตรียมขยายโครงการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้ครอบคลุมชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศ รวมถึงนักเรียนนักศึกษา, ผู้ลี้ภัย และแม้แต่ผู้อพยพที่ไม่มีทะเบียนก็จะได้รับสิทธิ์ด้วย
โครงการฉีดวัคซีนในแดนเสือเหลืองคาดว่าจะเริ่มขึ้นในช่วงปลายเดือน ก.พ. โดยรัฐบาลตั้งเป้าหมายสร้างภูมิคุ้มกันโรคให้แก่ประชากร 80% จากทั้งหมด 32 ล้านคน ภายในระยะเวลา 1 ปี
“สิ่งแวดล้อมที่ปลอดภัยและปราศจากโควิด-19 จะเป็นไปได้ก็ต่อเมื่อผู้ที่อาศัยอยู่ในมาเลเซียมีภูมิคุ้มกันมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้” คณะกรรมการจัดหาวัคซีนของรัฐบาลมาเลเซียแถลงวันนี้ (11 ก.พ.)
“ในยามที่เกิดโรคระบาด การแจกวัคซีนถือเป็นความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอย่างหนึ่ง”
อย่างไรก็ตาม ทางคณะกรรมการย้ำว่าพลเมืองมาเลเซียจะได้สิทธิ์ฉีดวัคซีนก่อน ส่วนการฉีดวัคซีนสำหรับชาวต่างชาตินั้นรัฐบาลจะแจ้งกรอบเวลาให้ทราบในภายหลัง
คอยรี จามาลุดดิน รัฐมนตรีกระทรวงวิทยาศาสตร์มาเลเซีย ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ชาวต่างชาติที่จะได้รับสิทธิ์ฉีดวัคซีนฟรียังรวมถึงผู้ที่ลี้ภัยที่ผ่านการขึ้นทะเบียนกับสำนักงานข้าหลวงใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UNHCR) และผู้อพยพที่ไม่มีทะเบียน
“คณะกรรมการจะหารือเพิ่มเติมว่าจะดำเนินการอย่างไร” คอยรี ทวีตข้อความ พร้อมระบุว่ารัฐบาลกลางจะประสานไปยังฝ่ายบริหารของรัฐต่างๆ ตลอดจนสถานเอกอัครราชทูต และเอ็นจีโอ เพื่อขอการสนับสนุนในด้านการกระจายวัคซีน
มาเลเซียได้ทำสัญญาสั่งซื้อวัคซีนป้องกันโควิด-19 จากผู้ผลิตหลายราย ทั้งไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค, สถาบันวิจัยกามาเลยาของรัสเซีย รวมถึง ซิโนแวค ไบโอเทค และ แคนซิโน ไบโอโลจิกส์ ของจีน ซึ่งทำให้จำนวนวัคซีนที่จะได้รับนั้นมากเกินกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้แล้ว
รัฐบาลเสือเหลืองยังได้รับมอบวัคซีนจากแอสตราเซเนกามาแล้ว 2 ล็อต โดยหนึ่งในนั้นเป็นวัคซีนที่ซื้อผ่านโครงการ COVAX ที่องค์การอนามัยโลก (WHO) เป็นผู้นำ
สำหรับวัคซีนของไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทคคาดว่าจะถูกส่งถึงมาเลเซียในวันที่ 26 ก.พ. นี้
ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายวันในมาเลเซียกลับมาพุ่งสูงขึ้นอีกในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมในวันพุธ (10) ขยับเพิ่มเป็นกว่า 250,000 คน และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 923 คน
ที่มา: รอยเตอร์
